หลังจากจบ #Avengers #Endgame แฟนๆ MCU น่าจะมีคำถามมากมายว่า แล้วหนังจะเดินไปยังไงต่อ แล้วทีม Avengers รุ่นใหม่จะเป็นยังไง เชื่อว่าทาง Marvel ก็คงคิดไว้แล้วว่าต้องเจอคำถามนี้ เลยยกเอามาเป็นเรื่องราวหลักในการสร้างเฟสต่อซะเลย ด้วยคำถามที่ว่า “ใครจะเป็น Ironman คนต่อไป” ซึ่งมันคือสิ่งที่โยงเรื่องราวของ Spider-Man คนนี้ได้เป็นอย่างดี
เรื่องราวเกิดขึ้น เมื่อ Peter Parker ได้ออกไปทัศนศึกษาในช่วงวันหยุดฤดูร้อนในยุโรปพร้อมกับเพื่อนๆ และในช่วงที่เขาห่างจากบ้านอยู่ต่างประเทศนี้เองก็เกิดเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เขาต้องไปจับมือรวมทีมกับ Mysterio เพื่อต่อสู้กับวายร้าย The Elementals ที่มาจากโลกมิติอื่น หรือมัลติเวิร์ส ที่ตื่นขึ้นเพราะพลังของมณี อีกด้วย
ส่วนตัวผมว่าทาง Marvel ตัดสินใจถูกต้องมากๆ ที่เอาเรื่องนี้มาเป็นเรื่องปิดเฟสหลังจากที่ทุกอย่างมันพีคมาแล้วจาก Endgame การที่จะสร้างอารมณ์ร่วมแบบสุดๆ ขึ้นมาใหม่หมด มันยากนะ เพียงแต่เรื่องนี้ถูกปล่อยออกมาเหมือนมาสานต่อเรื่องราวที่มันค้างคาอยู่ให้จบ แล้วค่อยเริ่มเรื่องใหม่ที่เข้มข้นอีกครั้ง
หนังพยายามจะบอกถึงความยากของเด็กอายุ 16 คนหนึ่งที่ต้องถูกตั้งความหวังไว้อย่างสูงมากๆ กับการเป็นผู้ถูกเลือกให้เป็นตัวตายตัวแทนของสุดยอด #Superhero ที่เสียชีวิตไป แต่ตัวเองกลับอยากทำอะไรเหมือนเด้กวัยรุ่นทั่วไป หนังเลยออกมาเป็นโทนหนังวัยรุ่นที่มีทั้งเรื่องราวกุ๊กกิ๊กของ puppy love เรื่องราวความสับสนทางความคิด และแอ็คชั่นมันส์ๆ กวนๆ รวมอยู่ในเรื่องเดียว
หนังพยายามบอกให้คนดูเห็นถึงทางเลือกและการตัดสินใจของตัว Peter ระหว่างการเป็นวัยรุ่นธรรมดา กับการเป็น Spider-Man แต่ก็ไม่ได้ใส่ดราม่าที่หนักหน่วงเข้าไปเหมือน 2 เวอร์ชั่นที่ผ่านมา เหมือนพยายามฉีกออกมาเล่นกับความเป็นเด็กที่มีความใสบริสุทธิ์ มากกว่า และเล่นกับความรักวัยใสทำให้คนดูยิ้มได้ตลอดเรื่อง ซึ่งเหมือนเป็นการดึงกลุ่มคนดูกลุ่มใหม่เพิ่มขึ้นด้วย นอกจากจะกลุ่ม Hardcore Superheroes แค่กลุ่มเดียว
ฉากแอ็คชั่นของหนังทำได้ดีตามสไตล์ Marvel แต่ที่ผมชอบมากที่สุดคือช่วงกลางเรื่องที่หนังเปิดทุกอย่างออกมาหมดแล้ว การต่อสู้ระหว่าง Spider-Man กับตัวร้ายเป็นอะไรที่ดูสนุกมาก มันไม่ได้เป็นการสู้กันแล้วตึกรามบ้านช่องพังพินาศ แต่มันเป็นการต่อสู้กับสิ่งที่มองไม่ได้ด้วยตาและเหมือนกับต่อสู้กับความเชื่อของตัวเองด้วย
ทีมนักแสดง ภาคนี้ทุกคนส่งเสริมกันได้ดีมาก ทั้ง Zendaya ในบท MJ ที่ออกมาทีไรคนดูก็นั่งลุ้นว่าเมื่อไหร่จะบอกรักกันซะที หรือเจ้าอ้วน Ned ที่ออกมาแย่งซีนทุกครั้ง ภาคนี้หนักกว่าเดิมอีก ยิ่งได้ประกบคู่กับคุณหนู Betty แล้วออกมาพร้อมกันนี่มีฮาทุกฉาก ส่วนตัวหลักของเรื่องอีกคนอย่าง Mysterio ผมไม่แน่ใจว่าในเวอร์ชั่น Comic เห็นบอกว่าตัวละครตัวนี้จะเป็นอีกแบบ แต่ในเรื่องนี้เหมือนทาง Marvel ต้องการจะเปลี่ยนแปลงตัวละครไม่ให้เหมือนในการ์ตูน แต่ผมว่าดีนะ เปลี่ยนแปลงบ้าง ไม่งั้นก็จะเดิมๆ ไปตลอด และตัวละครตัวนี้แหละเป็นตัวที่สร้างการ Warm Up ของเฟสใหม่ได้อย่างร้อนแรงเลย (ต้องไปดูกันเองว่ายังไง)
ก็ถือว่าทาง Marvel เลือกวางได้ถูกต้องเลยสำหรับการเอาเรื่องนี้มาเป็นหนังที่ Cool Down เพื่อจบเฟส 3 และ Warm Up เข้าเฟส 4 ได้อย่างยอดเยี่ยม ยิ่งถ้าได้ดู Credit ท้ายเรื่องทั้ง 2 ตัว จะยิ่งรู้เลยว่าทำไมผมถึงบอกว่าเยี่ยม โดยเฉพาะ Mid-Credit ตัวแรก เล่นเอาช็อคไปเลยจริงๆ
ฝากเพจหนังเล็กๆ ด้วยนะครับ >>
https://www.facebook.com/DooNangGunMai
[CR] [#Review] Spider-Man Far From Home - เป็นหนังที่ Cool Down Marvel เฟส 3 และ Warm Up เข้าเฟส 4 ได้อย่างยอดเยี่ยม
เรื่องราวเกิดขึ้น เมื่อ Peter Parker ได้ออกไปทัศนศึกษาในช่วงวันหยุดฤดูร้อนในยุโรปพร้อมกับเพื่อนๆ และในช่วงที่เขาห่างจากบ้านอยู่ต่างประเทศนี้เองก็เกิดเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เขาต้องไปจับมือรวมทีมกับ Mysterio เพื่อต่อสู้กับวายร้าย The Elementals ที่มาจากโลกมิติอื่น หรือมัลติเวิร์ส ที่ตื่นขึ้นเพราะพลังของมณี อีกด้วย
ส่วนตัวผมว่าทาง Marvel ตัดสินใจถูกต้องมากๆ ที่เอาเรื่องนี้มาเป็นเรื่องปิดเฟสหลังจากที่ทุกอย่างมันพีคมาแล้วจาก Endgame การที่จะสร้างอารมณ์ร่วมแบบสุดๆ ขึ้นมาใหม่หมด มันยากนะ เพียงแต่เรื่องนี้ถูกปล่อยออกมาเหมือนมาสานต่อเรื่องราวที่มันค้างคาอยู่ให้จบ แล้วค่อยเริ่มเรื่องใหม่ที่เข้มข้นอีกครั้ง
หนังพยายามจะบอกถึงความยากของเด็กอายุ 16 คนหนึ่งที่ต้องถูกตั้งความหวังไว้อย่างสูงมากๆ กับการเป็นผู้ถูกเลือกให้เป็นตัวตายตัวแทนของสุดยอด #Superhero ที่เสียชีวิตไป แต่ตัวเองกลับอยากทำอะไรเหมือนเด้กวัยรุ่นทั่วไป หนังเลยออกมาเป็นโทนหนังวัยรุ่นที่มีทั้งเรื่องราวกุ๊กกิ๊กของ puppy love เรื่องราวความสับสนทางความคิด และแอ็คชั่นมันส์ๆ กวนๆ รวมอยู่ในเรื่องเดียว
หนังพยายามบอกให้คนดูเห็นถึงทางเลือกและการตัดสินใจของตัว Peter ระหว่างการเป็นวัยรุ่นธรรมดา กับการเป็น Spider-Man แต่ก็ไม่ได้ใส่ดราม่าที่หนักหน่วงเข้าไปเหมือน 2 เวอร์ชั่นที่ผ่านมา เหมือนพยายามฉีกออกมาเล่นกับความเป็นเด็กที่มีความใสบริสุทธิ์ มากกว่า และเล่นกับความรักวัยใสทำให้คนดูยิ้มได้ตลอดเรื่อง ซึ่งเหมือนเป็นการดึงกลุ่มคนดูกลุ่มใหม่เพิ่มขึ้นด้วย นอกจากจะกลุ่ม Hardcore Superheroes แค่กลุ่มเดียว
ฉากแอ็คชั่นของหนังทำได้ดีตามสไตล์ Marvel แต่ที่ผมชอบมากที่สุดคือช่วงกลางเรื่องที่หนังเปิดทุกอย่างออกมาหมดแล้ว การต่อสู้ระหว่าง Spider-Man กับตัวร้ายเป็นอะไรที่ดูสนุกมาก มันไม่ได้เป็นการสู้กันแล้วตึกรามบ้านช่องพังพินาศ แต่มันเป็นการต่อสู้กับสิ่งที่มองไม่ได้ด้วยตาและเหมือนกับต่อสู้กับความเชื่อของตัวเองด้วย
ทีมนักแสดง ภาคนี้ทุกคนส่งเสริมกันได้ดีมาก ทั้ง Zendaya ในบท MJ ที่ออกมาทีไรคนดูก็นั่งลุ้นว่าเมื่อไหร่จะบอกรักกันซะที หรือเจ้าอ้วน Ned ที่ออกมาแย่งซีนทุกครั้ง ภาคนี้หนักกว่าเดิมอีก ยิ่งได้ประกบคู่กับคุณหนู Betty แล้วออกมาพร้อมกันนี่มีฮาทุกฉาก ส่วนตัวหลักของเรื่องอีกคนอย่าง Mysterio ผมไม่แน่ใจว่าในเวอร์ชั่น Comic เห็นบอกว่าตัวละครตัวนี้จะเป็นอีกแบบ แต่ในเรื่องนี้เหมือนทาง Marvel ต้องการจะเปลี่ยนแปลงตัวละครไม่ให้เหมือนในการ์ตูน แต่ผมว่าดีนะ เปลี่ยนแปลงบ้าง ไม่งั้นก็จะเดิมๆ ไปตลอด และตัวละครตัวนี้แหละเป็นตัวที่สร้างการ Warm Up ของเฟสใหม่ได้อย่างร้อนแรงเลย (ต้องไปดูกันเองว่ายังไง)
ก็ถือว่าทาง Marvel เลือกวางได้ถูกต้องเลยสำหรับการเอาเรื่องนี้มาเป็นหนังที่ Cool Down เพื่อจบเฟส 3 และ Warm Up เข้าเฟส 4 ได้อย่างยอดเยี่ยม ยิ่งถ้าได้ดู Credit ท้ายเรื่องทั้ง 2 ตัว จะยิ่งรู้เลยว่าทำไมผมถึงบอกว่าเยี่ยม โดยเฉพาะ Mid-Credit ตัวแรก เล่นเอาช็อคไปเลยจริงๆ
ฝากเพจหนังเล็กๆ ด้วยนะครับ >> https://www.facebook.com/DooNangGunMai
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้