Liverpool ในตลาดนักเตะซีซั่นนี้ ไม่ได้อยู่ในการเซ็นสัญญานักเตะที่จะเป็นบิ้กดีลอย่างที่ทุกคนคาดหวัง
จะเป็นการมองหานักเตะดาวรุ่งอายุน้อยที่จะพร้อมพัฒนาขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ได้ภายใน 1-2 ปีข้างหน้า หรือเป็นนักเตะดาวรุ่งที่พร้อมสอดแทรกขึ้นเป็น Backup กับการยกระดับให้ทีมชุดใหญ่ได้เลย
ประเด็นต่อมาคือกับการให้โอกาสนักเตะดาวรุ่งในช่วงทัวร์พรีซีซั่นเพื่อประเมินฝีเท้า ในการเลื่อนขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ หรือปล่อยยืม แม้กระทั่งการขายออกไปอย่างถาวรในการพิจารณานักเตะดาวรุ่งในปีนี้
ในตลาดซัมเมอร์นี้
นโยบายหลักของสโมสรในการดำเนินงานคือ การรักษานักเตะตัวหลักชุดเดิมเอาไว้กับทีมต่อไป โดยการยึดโครงสร้างของทีมในการพัฒนากับนักเตะชุดเดิมเป็นหลัก กับอีกสิ่งที่สำคัญในแผนงานคือ การต่อสัญญาให้รางวัลกับนักเตะที่ทำผลงานได้ดีในซีซั่นที่ผ่านมา
จึงเป็นเรื่องที่ยากมากในตลาดนักเตะรอบนี้ที่จะได้เห็น Liverpool เซ็นสัญญานักเตะในระดับราคาค่าตัวเดียวกันกับ Alisson Becker, Virgil Vandijk, Naby Keïta
สิ่งเหล่านี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้ไหม? นั่นคือคำถามที่จะตามมา สามารถเปลี่ยนแปลงได้ครับ แต่***มีเปอร์เซ็นต์ที่น้อยมาก เพราะเป็นนโยบายหลักอย่างชัดเจนในแผนงานของสโมสรได้วางเอาไว้ในการปฏิบัติในตลาดนักเตะรอบนี้ คือ นโยบายหลักของสโมสรจะเป็นการเก็บนักเตะชุดปัจจุบันเอาไว้ มากกว่าการใช้จ่ายเงินในการซื้อนักเตะเข้าที่มีราคาที่สูง ซึ่งจะไม่เหมือนกับฤดูกาลที่ผ่านๆมาในการทำงานของทีมงานในตลาดรอบนี้
ทีมงานได้ศึกษาล่วงหน้า เตรียมข้อมูลในการดูตลาดนักเตะในซัมเมอร์นี้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นตัวนักเตะที่อยู่ในตลาดและไม่ได้อยู่ในตลาดรอบนี้ พร้อมกับราคาค่าตัวกับสิ่งที่ทีมงานจะต้องเผชิญ มีการประเมินสถานการณ์อยู่ตลอดเวลาในการทำงานอยู่เบื้องหลัง
การมีเงินพร้อมจับจ่ายแต่กับราคานักเตะในปีนี้ที่ค่อนข้างจะแปรเปลี่ยนกับสิ่งที่ทีมงานประเมินไว้พอสมควร นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ทีมงาน Liverpool จะไม่เข้าไปวิ่งตามราคานักเตะที่สูงเกินจริงกับสโมสรต้นสังกัดของนักเตะ ในการถูกขูดรีดเนื้ออย่างที่เกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมา นี่คือสิ่งที่ทีมงานยังมั่นคงกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
จึงทำให้ตลาดนักเตะในซัมเมอร์นี้ค่อนข้างเงียบสำหรับ Liverpool อาจจะเป็นเรื่องค่อนข้างผิดหวังกับสิ่งที่แฟนๆ Liverpool รอคอยในเรื่องนี้ กับการเห็นทีมอื่นๆได้เริ่มขยับตัวกันไปบ้างแล้ว
“ จากการประชุม Final ของฤดูกาล ระหว่าง Michael Edwards , Mike Gordon และ Jürgen Klopp
เงินรางวัลที่ลิเวอร์พูลได้รับในฤดูกาลนี้จะถูกกักไว้เกินกว่าครึ่งหนึ่งของเงินรางวัลที่ได้รับ ที่จะไม่ได้ใช้จ่ายออกไป
เหตุผลหลักที่สำคัญ คือ ลิเวอร์พูลต้องการเอาเงินรางวัลในส่วนนี้ ไปใช้ในการต่อสัญญา เพิ่มค่าเหนื่อยนักเตะในทีมเป็นอับดับแรก และ เป็นการให้โบนัส รางวัล ของนักเตะที่ทำผลงานได้ดีในฤดูกาลนี้
ส่วนงบประมาณการเสริมทัพจะถูกใช้อย่างจำเป็นกับนักเตะที่จะดึงเข้ามาแต่ไม่ได้ระบุถึงงบประมาณในการใช้จ่ายแต่อย่างใด ในการประชุม จะมีการใช้จ่ายที่พร้อมสำหรับนักเตะที่คิดว่าพร้อมยกระดับทีมขึ้นได้จริงๆ
เพราะ Klopp จะยึดหลักกับนักเตะที่มีอยู่และนักเตะที่เขาจะผลักดันให้ก้าวขึ้นสู่ทีมในฤดูกาลหน้า นี่คือการไว้วางใจ กับการตัดสินใจของ Klopp และ ผู้อำนวยการด้านการกีฬา Michael Edwards ในที่ประชุม “
เครดิต Klopp ForKop Page - KFK
Liverpool จะไม่เข้าไปวิ่งตามราคานักเตะที่สูงเกินจริงกับสโมสรต้นสังกัดของนักเตะ ในการถูกขูดรีดเนื้ออย่างที่เกิดขึ้น
ประเด็นต่อมาคือกับการให้โอกาสนักเตะดาวรุ่งในช่วงทัวร์พรีซีซั่นเพื่อประเมินฝีเท้า ในการเลื่อนขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ หรือปล่อยยืม แม้กระทั่งการขายออกไปอย่างถาวรในการพิจารณานักเตะดาวรุ่งในปีนี้
ในตลาดซัมเมอร์นี้ นโยบายหลักของสโมสรในการดำเนินงานคือ การรักษานักเตะตัวหลักชุดเดิมเอาไว้กับทีมต่อไป โดยการยึดโครงสร้างของทีมในการพัฒนากับนักเตะชุดเดิมเป็นหลัก กับอีกสิ่งที่สำคัญในแผนงานคือ การต่อสัญญาให้รางวัลกับนักเตะที่ทำผลงานได้ดีในซีซั่นที่ผ่านมา
จึงเป็นเรื่องที่ยากมากในตลาดนักเตะรอบนี้ที่จะได้เห็น Liverpool เซ็นสัญญานักเตะในระดับราคาค่าตัวเดียวกันกับ Alisson Becker, Virgil Vandijk, Naby Keïta
สิ่งเหล่านี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้ไหม? นั่นคือคำถามที่จะตามมา สามารถเปลี่ยนแปลงได้ครับ แต่***มีเปอร์เซ็นต์ที่น้อยมาก เพราะเป็นนโยบายหลักอย่างชัดเจนในแผนงานของสโมสรได้วางเอาไว้ในการปฏิบัติในตลาดนักเตะรอบนี้ คือ นโยบายหลักของสโมสรจะเป็นการเก็บนักเตะชุดปัจจุบันเอาไว้ มากกว่าการใช้จ่ายเงินในการซื้อนักเตะเข้าที่มีราคาที่สูง ซึ่งจะไม่เหมือนกับฤดูกาลที่ผ่านๆมาในการทำงานของทีมงานในตลาดรอบนี้
ทีมงานได้ศึกษาล่วงหน้า เตรียมข้อมูลในการดูตลาดนักเตะในซัมเมอร์นี้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นตัวนักเตะที่อยู่ในตลาดและไม่ได้อยู่ในตลาดรอบนี้ พร้อมกับราคาค่าตัวกับสิ่งที่ทีมงานจะต้องเผชิญ มีการประเมินสถานการณ์อยู่ตลอดเวลาในการทำงานอยู่เบื้องหลัง
การมีเงินพร้อมจับจ่ายแต่กับราคานักเตะในปีนี้ที่ค่อนข้างจะแปรเปลี่ยนกับสิ่งที่ทีมงานประเมินไว้พอสมควร นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ทีมงาน Liverpool จะไม่เข้าไปวิ่งตามราคานักเตะที่สูงเกินจริงกับสโมสรต้นสังกัดของนักเตะ ในการถูกขูดรีดเนื้ออย่างที่เกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมา นี่คือสิ่งที่ทีมงานยังมั่นคงกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
จึงทำให้ตลาดนักเตะในซัมเมอร์นี้ค่อนข้างเงียบสำหรับ Liverpool อาจจะเป็นเรื่องค่อนข้างผิดหวังกับสิ่งที่แฟนๆ Liverpool รอคอยในเรื่องนี้ กับการเห็นทีมอื่นๆได้เริ่มขยับตัวกันไปบ้างแล้ว
“ จากการประชุม Final ของฤดูกาล ระหว่าง Michael Edwards , Mike Gordon และ Jürgen Klopp
เงินรางวัลที่ลิเวอร์พูลได้รับในฤดูกาลนี้จะถูกกักไว้เกินกว่าครึ่งหนึ่งของเงินรางวัลที่ได้รับ ที่จะไม่ได้ใช้จ่ายออกไป
เหตุผลหลักที่สำคัญ คือ ลิเวอร์พูลต้องการเอาเงินรางวัลในส่วนนี้ ไปใช้ในการต่อสัญญา เพิ่มค่าเหนื่อยนักเตะในทีมเป็นอับดับแรก และ เป็นการให้โบนัส รางวัล ของนักเตะที่ทำผลงานได้ดีในฤดูกาลนี้
ส่วนงบประมาณการเสริมทัพจะถูกใช้อย่างจำเป็นกับนักเตะที่จะดึงเข้ามาแต่ไม่ได้ระบุถึงงบประมาณในการใช้จ่ายแต่อย่างใด ในการประชุม จะมีการใช้จ่ายที่พร้อมสำหรับนักเตะที่คิดว่าพร้อมยกระดับทีมขึ้นได้จริงๆ
เพราะ Klopp จะยึดหลักกับนักเตะที่มีอยู่และนักเตะที่เขาจะผลักดันให้ก้าวขึ้นสู่ทีมในฤดูกาลหน้า นี่คือการไว้วางใจ กับการตัดสินใจของ Klopp และ ผู้อำนวยการด้านการกีฬา Michael Edwards ในที่ประชุม “
เครดิต Klopp ForKop Page - KFK