เมื่อวานนี้ (5 ก.ค.62) ผมต้องขึ้นรถตู้เถื่อนสายแยกลำลูกกา - โรงภาพยนตร์เซ็นจูรี่ ไปทำงานตามปกติ คราวนี้เป็นรถตู้มีชื่อเจ้าของ แต่ขอเซ็นเซอร์ออก ผมสังเกตที่นั่งแถวหลังสุด คือทำที่เสริมขึ้นมา เพื่อให้รับผู้โดยสารได้ 15 คน แต่ใครโชคร้ายไปนั่งตรงนั้นต้องยืนแทน พอคนครบ 15 คนรถก็ออกมาตามปกติ จนถึงทางลงโทลเวย์ที่ดินแดง มีผู้โดยสารขอลงฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลทหารผ่านศึก 1 คน ผมก็ขยับที่ไปข้างหน้าเพื่อเตรียมลงตรงดินแดง และมีผู้โดยสารแถวหลังแจ้งขอลงดินแดงพอดี ทำให้ผู้โดยสารที่ยืนอยู่มีที่นั่ง ซึ่งคนขับรถตู้คันนี้ขับเร็วมาก เพราะต้องทำรอบให้ได้มากที่สุดในช่วงเช้า เนื่องจากช่วงเย็นรถไม่สามารถให้บริการได้ เพราะเป็นรถตู้เถื่อน พอมาถึงแยกไฟแดงใต้ทางด่วนดินแดง สัญญาณไฟให้รถมาจากทางแฟลตดินแดงไฟเขียวเข้าอนุสาวรีย์ชัยฯ และบางส่วนเลี้ยวขวาไปสุทธิสาร แต่รถตู้คันที่ผมขึ้นกลับวิ่งฝ่าไฟแดง ผมสังเกตเห็นว่ารถในช่องจราจรอื่นหยุดหมดแล้ว ผมนึกในใจว่าไฟแดงวิ่งไปทำไม ซักประเดี๋ยวได้ยินเสียงรถชนสนั่น เป็นมอเตอร์ไซด์ที่โชคร้ายโดนรถตู้เถื่อนที่ผมโดยสารมาชนเข้าแล้ว ไม่เกิน 5 วินาที ตำรวจในป้อมจราจรใต้ทางด่วนดินแดงออกมาทันที และตรงไปถามคนขับ ส่วนมอเตอร์ไซด์ที่โชคร้ายได้วินมอเตอร์ไซด์และตำรวจอีกคนช่วยพาเข้าข้างทาง ซึ่งได้ยินตำรวจพูดกับคนขับว่าคุณขับฝ่าไฟแดง มอเตอร์ไซด์ได้ไฟเขียว ขอเชิญคุณที่ป้อมจราจร มุมมองผู้โดยสารส่วนหนึ่งก็อยากจะช่วยคนขับ ก็มองว่ามอเตอร์ไซด์ฝ่าไฟแดง ซึ่งถ้ามอเตอร์ไซด์ฝ่าไฟแดงจริงก็คงฝ่าไฟแดงเป็นสิบๆ คันล่ะครับ

ในเคสนี้คนที่น่าเห็นใจคือคนขี่มอเตอร์ไซด์ครับ เพราะไหนจะต้องไปตรวร่างกายว่าบาดเจ็บมากน้อยเพียงไร ยังต้องเสียโอกาสในการทำงาน เสียขวัญอีก ซึ่งเป็นความผิดทางแพ่งของคนขับรถตู้ที่ต้องไปเยียวยาตรงนี้ ส่วนความผิดด้านจราจรและอาญา ผมค้นข้อมูลแล้ว คนขับรถตู้เถื่อนโดนขั้นต่ำ 2 ข้อหา คือ
1 ขับรถฝ่าไฟแดงจนเกิดอุบัติเหตุ โทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท
2 กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ โทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท

จาก 2 ข้อหานี้ คนขับโอดโอยใหญ่ครับ ว่าทำรอบได้แค่วันละ 3 รอบ ได้กำไรแค่ 900 บาท ถ้าไม่วิ่งรับงานอีเวนต์ ผมไม่เห็นใจคนขับรถตู้หรอกครับ เพราะคุณเอาแต่ได้ คุณทำรอบจนเกิดอุบัติเหตุ คุณต้องรับผิดชอบทั้งทางแพ่งและอาญา

นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดจริงใต้ทางด่วนดินแดง เมื่อ 5 ก.ค.62 เวลาประมาณ 06.00 น.