เอาใจสายหมี กับร้านอาหารสุดคิ้วท์ Villa De Bear ย่านราชพฤกษ์ ที่เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าจะมาทานอาหาร ขนม เครื่องดื่ม หรือจัดปาร์ตี้ วันเกิด งานเลี้ยงส่วนตัว ทางร้านเค้าก็มีห้องคาราโอเกะสุดน่ารัก คอยรองรับแถมยังมีโปรโมชั่นลด 50% ให้อีกเริ่ดมาก ตามเรามาเลยจ้า จะพาไปชมความน่ารักของร้านโซนต่างๆ รวมถึงเมนูอาหารที่ต้องบอกว่า อร่อยทุกเมนูที่สั่งมาเลย


Villa De bear ตั้งอยู่ริมถนนราชพฤกษ์ โดดเด่นด้วยการตกแต่งสไตล์ฮอลแลนด์ ที่รวมความน่ารักของเหล่าน้องหมีไว้ ใครขับรถผ่านก็ต้องสะดุดตา กับเจ้าหมีดำตัวโตที่อยู่ด้านหน้าร้าน หมีตัวนี้ชื่อว่าเจ้า “ Villy “
พิกัดร้านก็หาไม่ยากเลย จะอยู่ถึงก่อน The Circle ราชพฤกษ์นิดนึง ทางร้านมีที่จอดรถรองรับเพียบ
เวลาเปิด - ปิด ของร้าน Villa De Bear ก็ตามนี้เลยค่ะ 
วันจันทร์ - ศุกร์ : 17:00 - 24.00 น.
วันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 11:00 - 24:00 น. 
วิธีการเดินทาง
สำหรับคนที่เดินทางโดยรถไฟฟ้า 
-ลงที่สถานีบางหว้า นั่ง Taxi ต่อจาก BTS บางหว้า มุ่งหน้าสู่ถนนราชพฤกษ์-จรัญ ตัวร้านตั้งอยู่บริเวณปากซอยวัดอินทราวาส ติดกับหมู่บ้านลัดดาวัลย์
สำหรับคนที่ขับรถส่วนตัวมา 
-จากวงเวียนพระราม 5 ผ่าน The Walk บนถนนราชพฤกษ์ ให้ออกทางคู่ขนาน แล้วกลับรถบริเวณแยกทางลัดจรัญ 35 มุ่งหน้าสู่ Villa de bear ตัวร้านตั้งอยู่ปากซอยวัดอินทราวาส ติดกับหมู่บ้านลัดดาวัลย์
-จากถนนบรมราชชนนีฝั่งขาออกนครปฐม เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนราชพฤกษ์มาประมาณ เบี่ยงซ้ายออกทางคู่ขนานเส้นหลักเพื่อไปกลับรถบริเวณแยกทางลัดจรัญ 35 มุ่งหน้าสู่ Villa de bear ตัวร้านตั้งอยู่ปากซอยวัดอินทราวาส ติดกับหมู่บ้านลัดดาวัลย์


ก่อนเข้าไปดูในร้านเราจะพาไปรู้จักสตอรี่ความเป็นมาของ Villa de Bear กันซักนิด 
ความเป็นมาของเจ้าวิลลี่และผองเพื่อน เมื่อปู่ของวิลลี่ได้จากไปก็ได้ทิ้งมรดกโรงงานทำตุ๊กตาหมีขนาดใหญ่ที่ปล่อยร้างไว้ให้กับหมีวิลลี่หลานรัก หมีวิลลี่ไม่มีความรู้เรื่องการตัดเย็บตุ๊กตาเลยรู้สึกหมดหวัง จึงออกไปเดินเที่ยวเล่นในป่า ได้ไปพบกับร้านขายเบอร์เกอร์เล็กๆ ด้วยความที่หมีวิลลี่ชอบแสวงหาของอร่อย จึงได้ลิ้มลองรสชาติ พอได้ชิมก็ถูกใจในรสชาติมาก และก็ได้เจอกับหมี Kinny กำลังนั่งกอดเข่าร้องไห้ วิลลี่ได้เข้าปลอบใจคินนี่ ทำให้รู้ว่าคินนี่เป็นพ่อครัวให้ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่เนินเขาฝั่งตะวันตก แต่เจ้าของกิจการต้องปิดร้านเพราะย้ายไปเมืองอื่น ทำให้คินนี่ไม่มีงานทำและไม่รู้จะไปทำอะไรต่อ วิลลี่ได้ฟังเลยชวนให้ไปทำงานที่โรงงานของคุณปู่ ระหว่างทางเดินทางกลับโรงงาน ก็ได้เจอเข้ากับร้านขนมที่อร่อยของหมี Christy ทั้งสองได้ชิมรสชาติขนมแล้วก็นึกเกิดไอเดียสร้างร้านอาหารขึ้นมา วิลลี่จึงชวนคริสตี้มาเปิดร้านอาหารด้วยกัน แต่จะเปิดร้านอาหารเฉยๆ ก็ดูจะธรรมดาไปสำหรับวิลลี่ ที่ชอบผจญภัยและมีความคิดสร้างสรรค์ เลยทำให้นึกถึงช่างประจำตระกูลอย่างหมี Tubie ขึ้น จึงชวนให้มาช่วยเนรมิตโรงงานตุ๊กตาเก่าแห่งนี้ให้ดูมีชีวิต โดยมีหมี Sammy ช่างตัดเย็บเข้ามาช่วยอีกตัว จนสุดท้ายก็ได้มาเป็น VILLA DE BEAR ที่เราจะพาไปชมนี่แหละจ้า

ด้านหน้าร้านมีมุมถ่ายรูปให้ใส่หัวหมีด้วย ครอบครัวเพื่อนๆเราก็ใส่เสื้อหมีมาให้เข้ากับร้านด้วย น่ารักมากๆ

ตามไปดูภายในร้านกัน ที่ร้านเค้าแบ่งออกเป็น 3 โซน

1. โซน Indoor แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ Zone B และ Zone R
ZONE B ตกแต่งด้วยบรรยากาศโรงงานผลิตตุ๊กตาหมี แบ่งออกเป็น 4 โซน คือ

– โซนตัดเย็บ ที่ตกแต่งด้วยม้วนด้ายสีสันสดใสขนาดใหญ่ บริเวณเพดาน เปรียบเป็นส่วนตัดเย็บ พร้อมทั้งแพทเทิร์นของตุ๊กตาหมีทั้งหลาย

-โซนกระดุม อยู่บนชั้นสองเป็นห้องตกแต่งตุ๊กตาหมี ประดับด้วย กระดุมหลายขนาด ประดับบนผนัง อีกทั้งหลอดไฟที่พาดผ่านประดับบริเวณใต้หลังคา ในส่วนนี้ค่อนข้างเป็นส่วนตัว เหมาะกับการจัด เลี้ยงขนาดเล็ก จำนวนไม่เกิน 35 ท่าน

-โซนลำเลียง ตกแต่งด้วยฟันเฟืองขนาดเล็กใหญ่สลับกัน บริเวณนี้เรียกว่า ห้องลำเลียง เปรียบเสมือนสายพานในลำเลียงตุ๊กตาหมี เพื่อที่ไปสู่บริเวณโชว์สินค้า

-โซนจัดแสดง ทางร้านได้จำลองให้เป็นโซน Outlet หรือห้องโชว์สินค้า จุดเด่นของห้องนี้คือโซฟาหมี Villy ตัวใหญ่ ไว้นั่งถ่ายรูปเก๋ๆ

มาที่Zone R หรือโซนจัดเลี้ยง ภายในห้อง Villy Room ที่รองรับลูกค้าได้ตั้งแต่ 40-90 ท่าน เหมาะในการจัดงานเลี้ยงส่วนตัว เพราะมีระบบแสง สี เสียง ครบครัน

โซน Outdoor สามารถนั่งจิบเครื่องดื่มชิลๆ รับลมเย็นสบาย ยามค่ำคืน ซึ่งจะมีดนตรีสดเล่น สลับกับเปิดเพลง
ด้านล่างยังมีลานอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ พร้อมเวทีหลัก ที่มีนักร้องมาร้องเพลง และมีการถ่ายทอดฟุตบอลให้ได้เชียร์กันทุกแมตช์อีกด้วย

ไปต่อกันที่โซน Karaoke ที่มีให้เลือกทั้งหมด 4 ห้อง 
ทุกห้องตกแต่งตามคาเรกเตอร์ของ เจ้าหมีวิลลี่และกลุ่มเพื่อน พร้อมระบบแสง สี เสียงที่ครบครัน มีเพลงให้เลือกเพียบ ขอบอกว่าแต่ละห้องแต่งไม่ซ้ำกันเลย แถมน่ารักทุกห้องด้วยน๊า

มาเริ่มต้นที่ห้องแบบที่ 1 
- Christy Room เชฟหมีเบอเกอรี่ สาวสวย ภายในห้องตกแต่งด้วยขนมหวานต่างๆเรียงอยู่บนเพดาน บรรยากาศน่ารัก แบบหวานละมุน ห้องนี้รองรับได้ 15-17 ท่าน ราคาเหมาปกติ 1,800 บาท

มาต่อที่ห้องแบบที่ 2 
- Sammy Room ห้องหมีผู้ตัดเย็บชุด ภายในห้องตกแต่งด้วยกระดุมขนาดใหญ่ พร้อมกับจักรเย็บผ้า ร้อยเรียงไปด้วยเส้นด้ายรอบๆห้อง รองรับได้สูงสุด 20 ท่าน ราคาเหมาปกติ 2,000 บาท

มาถึงห้องแบบที่ 3 
- Tubie Room หมีช่างซ่อมประจำร้าน มาพร้อมกับเครื่องมือประจำตำแหน่งอย่างครบครัน รองรับได้สูงสุด 25 ท่าน ราคาเหมาปกติ 2,000 บาท

มาถึงห้องสุดท้ายแบบที่ 4 
- Kinny Room เชฟหมีพ่อครัวใหญ่แห่ง Villa De Bear จำลองห้องครัวขนาดย่อม ที่ตกแต่งด้วยความพิถีพิถันตามแบบฉบับของพ่อครัว รองรับได้สูงสุด 26 ท่าน ราคาเหมาปกติ 2,500 บาท

ห้องคาราโอเกะทั้ง 4 ห้องเราสามารถปรับไฟได้ตามอารมณ์เลยนะ แถมมีเพลงทั้งไทย จีน สากล ให้เลือกเยอะมากกว่า 60,000 เพลงเลยทีเดียว

มาดูบรรยากาศปาร์ตี้เล็กๆในห้องคาราโอเกะของแก๊งเรากันบ้าง อ้อ ช่วงหัวค่ำทางร้านมี มาสคอต พี่หมี มาร้องเพลงถ่ายรูปเล่นกับลูกค้าในร้านด้วยนะ

มาถึงอาหารของที่นี่กันบ้าง เมนูที่เราสั่งมาทานกันมีทั้งหมด 6 เมนู เลือกโดยความชอบของเพื่อนๆแต่ละคนรวมๆกัน

หมูฮ้อง เสริฟมาจานขนาดใหญ่กำลังดี เนื้อหมูสามชั้นต้มซีอิ้วมาได้เปื่อยนุ่มมาก หอมเครื่องพะโล้ยาจีน จานนี้ทุกคนลงความเห็นว่าอร่อยมาก

ต้มยำเย็นตาโฟทะเล เสริฟมาร้อนๆในหม้อกระทะทองเหลือง เครื่องเยอะ มีทั้งกุ้ง ปลาหมึก ปลา รสชาติจัดจ้าน ซดน้ำคล่องคอมาก

ปูเหนือไข่ เป็นไข่เจียวปูคอนโดที่หนานุ่มไปด้วยเนื้อปูด้านใน และโปะด้วยเนื้อปูด้านนอกอีกที อร่อยฟูนุ่มมาก

ปูเนื้อพริกเกลือ ตัวนี้ขนาด 5 ขีด รสชาติพริกเกลือ ออกเค็มมันเผ็ดนิดๆ เข้ากันกับปูเนื้อที่สด และเนื้อแน่นมาก และเค้าทุบมาให้แล้วทำให้กินง่ายขึ้นด้วย

หอยเชล์ฮอกไกโดอบเนยกระเทียม หอยเชลล์ตัวโต เนื้อหวาน และหอมมันเนยกระเทียม

กุ้งอบวุ้นเส้น ชอบวุ้นเส้นของที่นี่มาก เค้าปรุงมาเข้าเนื้อ ถึงเครื่องมาก ตัววุ้นเส้นเหนียวนุ่มหอมพริกไทยดำ ส่วนกุ้งเป็นกุ้งแชบ๊วยตัวขนาดใหญ่ใส่มาไม่ยั้ง เสริฟมาร้อนๆพร้อมจิ๊กโฉ่ว และน้ำจิ้มซีฟู๊ด จัดว่าเด็ดมาก ขนาดเพื่อนเราที่ปกติไม่ชอบ เมนูพวกอบวุ้นเส้น ยังบอกว่าที่นี่เค้าทำอร่อยจริงๆ