คำเตือน : มีสปอยนะจ้ะ
สวัสดีค่ะ เราได้ดู Rocketman มาตั้ง 2 รอบก่อนจะมาเขียนรีวิวนี้เพราะรู้สึกชอบเนื้อเรื่อง ชอบการดำเนินเรื่อง และชอบเพลงประกอบมากๆ ต้องขอออกตัวไว้ก่อนเลยว่าตอนเอลตัน จอห์นดังเรายังไม่เกิดเลย แต่เคยฟังเพลงของเขาจาก Lion King อย่าง Circle of life และ Can you feel the love tonight ไม่ได้ประทับใจอะไรเขาเป็นพิเศษ ไร้ความผูกพัน แต่แฟนเราเขาอยากดูก็เลยโอเคดูหน่อยก็แล้วกัน ตอนนี้กลายเป็นแฟนเพลงเอลตันไปเรียบร้อยแล้วค่ะ
Rocketman กำกับโดย Dexter Fletcher (ผู้กำกับ Bohiemian Rhabsody) นำแสดงโดย Taron Egerton (พระเอก Kingmans) หนังเล่าถึงชีวิตของเอลตัน เฮอร์คิวลิส จอห์น หรือ เร็จจี้ ดไวท์ ตั้งแต่เริ่มต้นของความเจ็บปวดในชีวิตที่ได้มาจากครอบครัว ปมปัญหาของตัวละครที่วิ่งไล่ตามหาความรักไปพร้อมกับความฝันที่อยากจะเป็นนักร้องนักดนตรี ฟังแก่นเรื่องแล้วดูเครียดใช่ไหมคะ แต่หนังกลับทำออกมาได้สนุกโดยใช้เพลงสุดมันอย่าง The bitch is back,Saturday Night is alright มาดึงอารมณ์คนดูให้สนุกได้ มุกตลกที่ใส่มาก็น่ารัก แต่บางมุขมันก็ตลกร้ายจนเราไม่รู้ว่าจะขำหรือเศร้ากันแน่ เรื่องดำเนินโดยนำชีวิตช่วงที่พีคที่สุดของเอลตันมาเป็นจุดเริ่มต้น และย้อนพาเราไปดูส่วนต่างๆ ของชีวิตเขาจนมาประจบที่ปัจจุบันของเรื่อง เราจะขอพูดถึงประเด็นต่างๆ ในเรื่อง 3 ประเด็นคือ ชีวิตของเขาในวัยเด็ก ชีวิตในช่วงเริ่มค้นหาตัวตน และชีวิตในช่วงที่พีคที่สุด
ในวัยเด็กเร็จจี้ ดไวท์ เป็นเด็กอ้วน แว่น ขี้อายที่มีพรสวรรค์ทางด้านดนตรีโดยเฉพาะการเล่นเปียโน และได้ทุนราชบัณฑิตให้เรียนเปียโน เขาพยายามใช้เปียโนเพื่อเรียกร้องความสนใจจากพ่อ อยากให้พ่อเห็นว่าเขาก็ทำได้ พ่อที่ไร้หัวใจ เย็นชา และไม่เคยแสดงออกถึงความรัก ส่วนแม่ก็คือผู้หญิงอ้วนปากร้ายที่จะดุด่าลูกอยู่เป็นประจำ ในที่สุดพ่อแม่ของเขาก็หย่าร้าง แม่มีสามีใหม่ ชายที่แนะนำให้เร็จจี้ได้รู้จักกับเอลวิส เพสรี่และเพลงร็อค ในเรื่องเราจะเห็นได้ว่าไอวี่คุณยายของเร็จจี้คนเดียวเท่านั้นที่ดูเหมือนสติสะตังยังจะดีอยู่ และเป็นกำลังใจให้เขาเสมอๆ ชีวิตในวัยเด็กของเหมือนจุดเริ่มต้นของความเจ็บปวด เด็กคนหนึ่งที่ไม่แม้แต่จะได้รับความรักและอ้อมกอดจากพ่อแม่ “ตอนนั้นผมยังเด็ก” ทารอนเล่นบทนี้ได้ดีมาก เขาส่งอารมณ์ความฉุนเฉียวที่ต้องเล่าชีวิตของตนให้กลุ่มบำบัดฟัง มันทำให้คนดูเชื่อได้ทันทีเลยนะว่านี่แหละคนที่เจ็บช้ำน้ำใจและไม่เคยได้รับความรัก
เร็จจี้ได้เล่นดนตรีตามที่ใจต้องการ เราชอบที่หนังเปลี่ยนตัวละครจากวัยเด็กมาเป็นวัยหนุ่มโดยใช้เพลง Saturday Night is alright มาเปลี่ยนตัวละคร ตอนนี้ทำได้ดีมาก ดีจนอยากตบมือให้ ในชีวิตช่วงนี้เร็จจี้จะเปลี่ยนชื่อเอลตัน จอห์นใครที่อยากรู้ว่าเขาเอาชื่อมาจากไหนเราขอไม่เล่า ไปดูกันในโรงนะคะความยากลำบากของเร็จจี้ที่วิ่งตามหาชื่อเสียงพร้อมนักแต่งเพลงอีกคนที่ชื่อว่าเบอร์นี่ ทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนสนิทกันโดยที่มีค่ายเพลงค่ายหนึ่งสนับสนุนการทำเพลงของทั้งคู่เราจะได้เห็นว่าเอลตันเริ่มรู้สึกตัวแล้วว่าเขาไม่ได้ชอบผู้หญิง ในช่วงนี้หนังสนุกมาก เราชอบที่สุดเลย เด็กอ้วนแว่นไม่เป็นที่สนใจ เพราะไม่ได้หน้าตาดีกลับทำเพลงที่คนแก่ยังผิวปากตามได้อย่าง Your song และกลายเป็นที่โด่งดังในที่สุด
หลังจากความโด่งดังเป็นของเขาแล้วตัวละครอีกตัวที่ทำให้เขากลายเป็นคนติดเหล้า ติดยา และติดเซ็กส์ คือจอร์น รีด ซึ่งไร้ความจริงใจมอบว่าเอลตันคือธุรกิจ เขาคอยเป่าหูและยุยงให้เอลตันทำอะไรอีกหลายอย่าง ยาส่งผลให้อารมณ์ของเขาขึ้นๆ ลงๆ อาการแบบนี้มากกว่าซึมเศร้านะคะ และยังวิ่งหาความรักอยู่จนในที่สุดก็ “ฆ่าตัวตาย” หน้าม่านที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ท่าทางอารมณ์ดี แต่เบื้องหลังคือคราบน้ำตา สุรา และโคเคน “อะไรที่ขยับได้ผมก็มีเซ็กส์กับมันทั้งหมดนั่นละ” จนในที่สุดทุกอย่างก็ระเบิด เขาอยากจะหายและเราขอบคุณพระเจ้าที่ไม่พรากเอลตัน จอห์นไปในวันนั้น เพราะผลงานต่อๆ มาของเขาคือมาสเตอร์พีสที่จะฝากไว้ให้กับโลกของเราอย่างที่หาใครทดแทนได้ยากหรืออาจจะไม่ได้เลย
เราขอชื่อชมทารอน อีเกอร์ตันที่ร้องเพลงออกมาได้อย่างสุดเสียงและไม่เลือกที่จะลิปซิ้งค์ ทุกฉากที่ร้องเพลงในเรื่องเราไม่รู้ว่าเขาถ่ายยังไงนะคะ แต่เขาร้องเพลงสุดเสียงจริงๆ เขาเล่นทุกบทได้อย่างสมบทบาท สายตาที่เขามองผู้ชายแบบนี้ละถูกต้อง ตอนที่เขาอยู่บนเวทีก็แสนจะมีเสน่ห์ ร้องไห้ก็ขื่นขม รอชมรอให้กำลังใจอยู่อยากให้ได้รางวัลจริงๆ หากจะให้เทียบกับโบฮีเมี่ยนเราชอบ Rocketman มากกว่า ถึงความเท่จะน้อยกว่า แต่ความเฟียสความวิบวับของเสื้อผ้าจริตจะกร้านจะก้านของนักแสดงนี่ไม่แพ้โบฮีเมี่ยนแน่นอนค่ะ
Rocketman จะเป็น 1 ใน 3 หนังที่ดีที่สุดของเรา(ของส่วนตัวนะคะ55555)ในปีนี้ เชียร์ค่ะ
Rocketman : Elton John ความโด่งดังที่เหงาเท่าอวกาศ
Rocketman กำกับโดย Dexter Fletcher (ผู้กำกับ Bohiemian Rhabsody) นำแสดงโดย Taron Egerton (พระเอก Kingmans) หนังเล่าถึงชีวิตของเอลตัน เฮอร์คิวลิส จอห์น หรือ เร็จจี้ ดไวท์ ตั้งแต่เริ่มต้นของความเจ็บปวดในชีวิตที่ได้มาจากครอบครัว ปมปัญหาของตัวละครที่วิ่งไล่ตามหาความรักไปพร้อมกับความฝันที่อยากจะเป็นนักร้องนักดนตรี ฟังแก่นเรื่องแล้วดูเครียดใช่ไหมคะ แต่หนังกลับทำออกมาได้สนุกโดยใช้เพลงสุดมันอย่าง The bitch is back,Saturday Night is alright มาดึงอารมณ์คนดูให้สนุกได้ มุกตลกที่ใส่มาก็น่ารัก แต่บางมุขมันก็ตลกร้ายจนเราไม่รู้ว่าจะขำหรือเศร้ากันแน่ เรื่องดำเนินโดยนำชีวิตช่วงที่พีคที่สุดของเอลตันมาเป็นจุดเริ่มต้น และย้อนพาเราไปดูส่วนต่างๆ ของชีวิตเขาจนมาประจบที่ปัจจุบันของเรื่อง เราจะขอพูดถึงประเด็นต่างๆ ในเรื่อง 3 ประเด็นคือ ชีวิตของเขาในวัยเด็ก ชีวิตในช่วงเริ่มค้นหาตัวตน และชีวิตในช่วงที่พีคที่สุด
ในวัยเด็กเร็จจี้ ดไวท์ เป็นเด็กอ้วน แว่น ขี้อายที่มีพรสวรรค์ทางด้านดนตรีโดยเฉพาะการเล่นเปียโน และได้ทุนราชบัณฑิตให้เรียนเปียโน เขาพยายามใช้เปียโนเพื่อเรียกร้องความสนใจจากพ่อ อยากให้พ่อเห็นว่าเขาก็ทำได้ พ่อที่ไร้หัวใจ เย็นชา และไม่เคยแสดงออกถึงความรัก ส่วนแม่ก็คือผู้หญิงอ้วนปากร้ายที่จะดุด่าลูกอยู่เป็นประจำ ในที่สุดพ่อแม่ของเขาก็หย่าร้าง แม่มีสามีใหม่ ชายที่แนะนำให้เร็จจี้ได้รู้จักกับเอลวิส เพสรี่และเพลงร็อค ในเรื่องเราจะเห็นได้ว่าไอวี่คุณยายของเร็จจี้คนเดียวเท่านั้นที่ดูเหมือนสติสะตังยังจะดีอยู่ และเป็นกำลังใจให้เขาเสมอๆ ชีวิตในวัยเด็กของเหมือนจุดเริ่มต้นของความเจ็บปวด เด็กคนหนึ่งที่ไม่แม้แต่จะได้รับความรักและอ้อมกอดจากพ่อแม่ “ตอนนั้นผมยังเด็ก” ทารอนเล่นบทนี้ได้ดีมาก เขาส่งอารมณ์ความฉุนเฉียวที่ต้องเล่าชีวิตของตนให้กลุ่มบำบัดฟัง มันทำให้คนดูเชื่อได้ทันทีเลยนะว่านี่แหละคนที่เจ็บช้ำน้ำใจและไม่เคยได้รับความรัก
เร็จจี้ได้เล่นดนตรีตามที่ใจต้องการ เราชอบที่หนังเปลี่ยนตัวละครจากวัยเด็กมาเป็นวัยหนุ่มโดยใช้เพลง Saturday Night is alright มาเปลี่ยนตัวละคร ตอนนี้ทำได้ดีมาก ดีจนอยากตบมือให้ ในชีวิตช่วงนี้เร็จจี้จะเปลี่ยนชื่อเอลตัน จอห์นใครที่อยากรู้ว่าเขาเอาชื่อมาจากไหนเราขอไม่เล่า ไปดูกันในโรงนะคะความยากลำบากของเร็จจี้ที่วิ่งตามหาชื่อเสียงพร้อมนักแต่งเพลงอีกคนที่ชื่อว่าเบอร์นี่ ทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนสนิทกันโดยที่มีค่ายเพลงค่ายหนึ่งสนับสนุนการทำเพลงของทั้งคู่เราจะได้เห็นว่าเอลตันเริ่มรู้สึกตัวแล้วว่าเขาไม่ได้ชอบผู้หญิง ในช่วงนี้หนังสนุกมาก เราชอบที่สุดเลย เด็กอ้วนแว่นไม่เป็นที่สนใจ เพราะไม่ได้หน้าตาดีกลับทำเพลงที่คนแก่ยังผิวปากตามได้อย่าง Your song และกลายเป็นที่โด่งดังในที่สุด
หลังจากความโด่งดังเป็นของเขาแล้วตัวละครอีกตัวที่ทำให้เขากลายเป็นคนติดเหล้า ติดยา และติดเซ็กส์ คือจอร์น รีด ซึ่งไร้ความจริงใจมอบว่าเอลตันคือธุรกิจ เขาคอยเป่าหูและยุยงให้เอลตันทำอะไรอีกหลายอย่าง ยาส่งผลให้อารมณ์ของเขาขึ้นๆ ลงๆ อาการแบบนี้มากกว่าซึมเศร้านะคะ และยังวิ่งหาความรักอยู่จนในที่สุดก็ “ฆ่าตัวตาย” หน้าม่านที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ท่าทางอารมณ์ดี แต่เบื้องหลังคือคราบน้ำตา สุรา และโคเคน “อะไรที่ขยับได้ผมก็มีเซ็กส์กับมันทั้งหมดนั่นละ” จนในที่สุดทุกอย่างก็ระเบิด เขาอยากจะหายและเราขอบคุณพระเจ้าที่ไม่พรากเอลตัน จอห์นไปในวันนั้น เพราะผลงานต่อๆ มาของเขาคือมาสเตอร์พีสที่จะฝากไว้ให้กับโลกของเราอย่างที่หาใครทดแทนได้ยากหรืออาจจะไม่ได้เลย
Rocketman จะเป็น 1 ใน 3 หนังที่ดีที่สุดของเรา(ของส่วนตัวนะคะ55555)ในปีนี้ เชียร์ค่ะ