มีรายการทีวีเยอรมันชื่อ “Achtung Abzocke” แปลเป็นไทยคงประมาณว่า “ระวัง พวกต้มตุ๋นหลอกหลวง” เมื่อสามวันก่อนออกอากาศแฉด้านมืดของการท่องเที่ยวไทย ตอนแรกว่าจะแปะลิงค์ให้ดูด้วยกันแต่ปรากฏว่าที่เมืองไทยเปิดไม่ได้ เล่าให้ฟังเลยละกัน
ประเทศไทยเป็นเป้าหมายหลัก หนึ่งในสามสำหรับนักท่องเที่ยวเยอรมัน และนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันก็มีจำนวนมากที่สุดในโลกรองจากนักท่องเที่ยวจีน
นักท่องเที่ยวที่มาเมืองไทยสิ่งแรกที่อยากทำคือนั่งตุ๊กๆ แต่ราคามันแพงสุดๆ ทีมงานไปช่วยกันโบกหลายคันก็มีแต่ราคาแพงแบบรับไม่ได้ มีคันนึงตกลงราคากันได้ พอขึ้นแล้วเปลี่ยนราคา ขอเงินเพิ่ม พอไปถึงแถวๆหน้าวัดพระแก้ว ตุ๊กๆบอกไม่มีเงินทอน มีผู้ชายห้อยสัญลักษณ์ตำรวจท่องเที่ยว เดินเข้ามาช่วยเหลือให้แลกเงิน บอกว่าวันนี้วัดพระแก้วมีพระราชพิธี ตอนนี้วัดปิดบ่ายสามค่อยมาใหม่ แถมย้ำว่าพิธีกรชายใส่กางเกงขาสั้น เข้าวัดไม่ได้หรอก พรุ่งนี้ค่อยมา ทีมงานทำเป็นเออออ เดินหนีมาที่วัดพระแก้วก็พบว่าไม่มีพิธีอะไร วัดไม่ปิดและมีกางเกงขายาวขาย เข้าได้ไม่มีปัญหา พอเสร็จจากวัดพระแก้วเค้ากลับไปหาตำรวจปลอมคนเดิม ทำทีเหมือนขอความช่วยเหลือ ตำรวจปลอมยังคงยืนยันว่าวัดปิด เสนอให้ไปเที่ยวที่อื่น และเรียกตุ๊กๆให้ด้วยราคาที่ถูกมากๆ ปรากฎว่าตุ๊กๆพาไปร้านขายอัญมณี ผ้าไหม และอื่นๆอีกหลายอย่าง เรียกว่าเสียเวลาทั้งวันแต่แทบไม่ได้ไปไหนเลยนอกจากร้านขายของ พอตกกลางคืน พวกเค้าไปตรอกข้าวสาร ไปร้านที่รับทำบัตรปลอม มีบัตรปลอมแทบทุกอย่าง บัตรขึ้นรถไฟ บัตรประชาชน ใบขับขี่ สารพัดทั่วโลก เค้าขอให้เจ้าของร้านทำสัญลักษณ์ตำรวจท่องเที่ยวไทย แต่ร้านไม่รับทำ วันรุ่งขึ้นพวกเค้ากลับไปที่หน้าวัด เจอตำรวจปลอมคนเดิม พวกเค้าบอกว่าจะแจ้งตำรวจจับ ตำรวจปลอมคนนั้นอ้างว่าสัญลักษณ์นี่เป็นแค่ของที่ระลึก เค้ามารอเพื่อนเฉยๆ ไม่เกี่ยวอะไรกับแถวนี้ ขู่กันไปมา ตำรวจปลอมยอมถอดสัญลักษณ์ตำรวจท่องเที่ยวให้แล้วเดินหนีไป
จากนั้นพวกเค้าไปซื้อทัวร์ไปตลาดน้ำดำเนินสะดวก มีตุ๊กๆราคาถูกมากๆ ขับไปส่งที่ท่าเรือ พอถึงท่าเรือมีคนขายตั๋วคนละ 800 บาท สี่คน 3,200 บาท แล้วลงเรือไปได้เลย ที่ตลกคือ เรือที่จอดอยู่เป็นเรือใหญ่เหมือนเฟอรี่ แต่แค่ให้เดินผ่านเท่านั้น ด้านหลังมีเรือหางยาวลำเล็กจอดอยู่ ทีมงานลงเรือลำเล็กล่องไปตามแม่น้ำเจ้าพระยา เลาะเข้าคลองเล็กคลองน้อย เจอเรือขายน้ำอัดลมหนึ่งลำ แล้ววนกลับมาออกแม่น้ำเจ้าพระยา ส่งที่ท่าไหนก็ไม่รู้แล้วขับเรือหนีไปเลย วันต่อมาพวกเค้ากลับไปที่ขายตั๋วเรือ บอกว่าโดนโกงจะขอเงินคืน หัวหน้าออกมาคุยด้วยพอรู้ว่าเป็นนักข่าวต่างประเทศ ก็คืนเงินให้ แต่ไม่วายจะต่อรองว่าเค้าจำเป็นต้องทำ มีลูกมีเมียต้องเลี้ยง สุดท้ายคืนให้ 2,500 บาท
ตกกลางคืน ทีมงานชายสองคนไปเที่ยวพัฒพงษ์ ซ่อนกล้องถ่ายที่มืดไว้ เจอคนขายตั๋วโชว์ปิงปอง ขายตั๋วคนละ 300 บาท ได้เครื่องดื่มหนึ่งดริงค์ สุดท้ายพอเช็คบิล เสียเงินไปเกือบหกพัน ทั้งๆที่ดื่มเบียร์คนละขวด เจ้าของร้านอ้างค่าโน่นค่านี่และไล่พวกเค้าออกมาจากบาร์ ทีมงานพยายามไปโวยวายกับคนขายตั๋วที่อยู่ด้านนอก สุดท้ายได้เงินคืนมา 3,000 บาท
วันต่อมาทีมงานบินไปที่ภูเก็ต เช่ารถมอเตอร์ไซค์ แล้วเอาไปจอดไว้ข้างถนนที่มีรถมอเตอร์ไซค์จอดเรียงรายเป็นแถว แต่ถูกตำรวจล็อครถ คนแถวนั้นบอกว่ามันเป็นที่ห้ามจอด มันเคยเป็นสีขาวแดง แต่จริงๆแล้วสีมันลอกไปหมด ไม่เห็นเลยว่ามีการทาสีที่ฟุตบาท ทีมงานถ่ายรูปฟุตบาทและเดินไปสถานีตำรวจ พวกเค้าพยายามอธิบายว่า ตรงนั้นมันไม่มีสีขาวแดง ไม่มีป้าย พวกเค้าไม่รู้จริงๆว่าห้ามจอด สรุปว่าโดนปรับ 1,000 บาท
วันต่อมาพวกเค้าไปเล่นเจ็ทสกี เพราะต้องการพิสูจน์เรื่องมาเฟียเจ็ทสกี ที่มีนักท่องเที่ยวโดนหลอกมาแล้วจำนวนมาก คือก่อนเล่นต้องเซ็นชื่อรับรองว่า ถ้าทำเจ็ทสกีพังต้องชดใช้เงินคืนจำนวน 25,000 บาท ปรากฎว่าขี่ๆไปแล้วมันก็พังจริงๆ แต่วันนั้นโชคดีที่มีทหารมาตรวจจัดระเบียบชายหาด เลยไม่โดนหลอกเก็บเงินเพิ่ม
กลางคืนทีมงานไปเที่ยวบาร์แถวป่าตอง โดนชาร์จค่าเล่นเกม ค่าดริงค์และอื่นๆอีกมากมาย
วันต่อมา ทีมงานไปเที่ยววัดแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงในภูเก็ต เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวจีน ในวัดมีการขายเครื่องรางของขลัง เค้าซื้อสร้อยคอทองแท้และพระเครื่องมาในราคา 6,800 บาท เค้าไปที่ร้านทองในเมืองและให้ร้านทองตีราคาพระเครื่อง ร้านทองบอกว่าแบบนี้เหมือนกันเป๊ะ ที่ร้านขาย 1,200 บาท ทีมงานซื้อสร้อยที่เหมือนกันมาด้วยและตรงกลับไปที่วัดเพื่อเจรจา แต่ถูกขอร้องให้ออกมารอด้านนอก เมื่อกรุ๊ปทัวร์จีนออกไปแล้ว จึงมีคนมาเจรจาด้วยและยอมคืนเงินทั้งหมดด้วยอารมณ์โกรธมาก
วัดถัดมาบินไปเชียงใหม่ ไม่โดนโกงอะไร แต่เค้าไม่โอเคกับโชว์ช้างที่ไม่ได้อยู่ในธรรมชาติ แต่ไปเจอช้างเตะบอล วาดรูปและร้านขายของทุกมุม พวกเค้ากลับไปบอกบริษัททัวร์ว่า ควรบอกรายละเอียดตอนขายให้ครบถ้วน เพราะลูกค้าคาดหวังจะมาดูช้างในป่ากับธรรมชาติ เจ้าของร้านยอมรับข้อเสนอและขอโทษโดยดี
วันสุดท้ายทีมงานไปที่สามเหลี่ยมทองคำ มีรถรับจ้างไปส่งถ้ำหลวง คนละ 100 บาท แต่พาไปส่งที่วัดถ้ำอะไรซักอย่างแถวๆนั้น ถ้าอยากไปดูถ้ำหลวงที่เด็กไปติดอยู่ ต้องเหมารถไป 1,000 บาท พอไปถึงเจอร้านขายของตั้งเรียงรายเต็มไปหมด พอเดินเข้าไปถึงปากถ้ำก็พบว่า ห้ามเข้า มีแต่รูปนักการเมืองกับทีมฟุตบอลให้ดูเท่านั้น
ในวีดีโอเค้าจะเบลอหน้าทุกคน ยกเว้นพวกที่โกงเห็นหน้าชัดเจนมากๆและถ่ายวีดีโอตอนโกงไว้หมด เรียกว่าเป็นหลักฐานเอาไปแจ้งตำรวจจับได้แน่นอน แต่เสียดาย วีดีโอนี้ดูนอกประเทศเยอรมันไม่ได้ เข้าใจว่าเค้าคงตั้งใจปิดกั้นไว้ไม่ให้ดู
รู้ทั้งรู้ว่าเค้าเอาความจริงมาพูด แต่ก็รู้สึกอายมากๆ มันน่ารังเกียจจริงๆ นี่ขนาดเป็นคนไทยยังเคยโดนแกงค์หน้าวัดพระแก้วหลอกเลย แถมเคยเจอทัวร์ปลอมๆที่กระบี่ด้วย ส่วนพวกแท็กซี่ ตุ๊กๆ รถแดงโก่งราคานี่ไม่ต้องพูดถึง โดนกันทั้งประเทศอยู่แล้ว รู้สึกแย่มากๆ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็ไม่มีเวลาพอที่จะไปโวยวายเอาเงินคืน ได้แต่ไปเขียนรีวิวด่ากันเต็มไปหมด ด่ากันจนรายการนี้เอาข้อมูลมาถ่ายรายการเพื่อพิสูจน์ความจริง แล้วมันก็จริงทุกอย่างซะด้วย เสียใจแทนคนที่ทำมาหากินอย่างตั้งใจ คนดีๆ ทัวร์ดีๆ มีเยอะแยะ แต่พอภาพพจน์มันเสียไปแล้ว มันกอบกู้คืนมายากมากๆ
ใครที่อยู่เยอรมัน แนบลิงค์ไว้ในคอมเมนท์แรกนะคะ ตามไปดูกันได้
ที่มา : คุณ Naratee Black /
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=2494683447237163&set=a.201108903261307&type=3&theater
เกิดเป็นคนไทยนี่น่าอับอายจริงๆ ทำแต่เรื่องน่าอับอายชาวโลก
ประเทศไทยเป็นเป้าหมายหลัก หนึ่งในสามสำหรับนักท่องเที่ยวเยอรมัน และนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันก็มีจำนวนมากที่สุดในโลกรองจากนักท่องเที่ยวจีน
นักท่องเที่ยวที่มาเมืองไทยสิ่งแรกที่อยากทำคือนั่งตุ๊กๆ แต่ราคามันแพงสุดๆ ทีมงานไปช่วยกันโบกหลายคันก็มีแต่ราคาแพงแบบรับไม่ได้ มีคันนึงตกลงราคากันได้ พอขึ้นแล้วเปลี่ยนราคา ขอเงินเพิ่ม พอไปถึงแถวๆหน้าวัดพระแก้ว ตุ๊กๆบอกไม่มีเงินทอน มีผู้ชายห้อยสัญลักษณ์ตำรวจท่องเที่ยว เดินเข้ามาช่วยเหลือให้แลกเงิน บอกว่าวันนี้วัดพระแก้วมีพระราชพิธี ตอนนี้วัดปิดบ่ายสามค่อยมาใหม่ แถมย้ำว่าพิธีกรชายใส่กางเกงขาสั้น เข้าวัดไม่ได้หรอก พรุ่งนี้ค่อยมา ทีมงานทำเป็นเออออ เดินหนีมาที่วัดพระแก้วก็พบว่าไม่มีพิธีอะไร วัดไม่ปิดและมีกางเกงขายาวขาย เข้าได้ไม่มีปัญหา พอเสร็จจากวัดพระแก้วเค้ากลับไปหาตำรวจปลอมคนเดิม ทำทีเหมือนขอความช่วยเหลือ ตำรวจปลอมยังคงยืนยันว่าวัดปิด เสนอให้ไปเที่ยวที่อื่น และเรียกตุ๊กๆให้ด้วยราคาที่ถูกมากๆ ปรากฎว่าตุ๊กๆพาไปร้านขายอัญมณี ผ้าไหม และอื่นๆอีกหลายอย่าง เรียกว่าเสียเวลาทั้งวันแต่แทบไม่ได้ไปไหนเลยนอกจากร้านขายของ พอตกกลางคืน พวกเค้าไปตรอกข้าวสาร ไปร้านที่รับทำบัตรปลอม มีบัตรปลอมแทบทุกอย่าง บัตรขึ้นรถไฟ บัตรประชาชน ใบขับขี่ สารพัดทั่วโลก เค้าขอให้เจ้าของร้านทำสัญลักษณ์ตำรวจท่องเที่ยวไทย แต่ร้านไม่รับทำ วันรุ่งขึ้นพวกเค้ากลับไปที่หน้าวัด เจอตำรวจปลอมคนเดิม พวกเค้าบอกว่าจะแจ้งตำรวจจับ ตำรวจปลอมคนนั้นอ้างว่าสัญลักษณ์นี่เป็นแค่ของที่ระลึก เค้ามารอเพื่อนเฉยๆ ไม่เกี่ยวอะไรกับแถวนี้ ขู่กันไปมา ตำรวจปลอมยอมถอดสัญลักษณ์ตำรวจท่องเที่ยวให้แล้วเดินหนีไป
จากนั้นพวกเค้าไปซื้อทัวร์ไปตลาดน้ำดำเนินสะดวก มีตุ๊กๆราคาถูกมากๆ ขับไปส่งที่ท่าเรือ พอถึงท่าเรือมีคนขายตั๋วคนละ 800 บาท สี่คน 3,200 บาท แล้วลงเรือไปได้เลย ที่ตลกคือ เรือที่จอดอยู่เป็นเรือใหญ่เหมือนเฟอรี่ แต่แค่ให้เดินผ่านเท่านั้น ด้านหลังมีเรือหางยาวลำเล็กจอดอยู่ ทีมงานลงเรือลำเล็กล่องไปตามแม่น้ำเจ้าพระยา เลาะเข้าคลองเล็กคลองน้อย เจอเรือขายน้ำอัดลมหนึ่งลำ แล้ววนกลับมาออกแม่น้ำเจ้าพระยา ส่งที่ท่าไหนก็ไม่รู้แล้วขับเรือหนีไปเลย วันต่อมาพวกเค้ากลับไปที่ขายตั๋วเรือ บอกว่าโดนโกงจะขอเงินคืน หัวหน้าออกมาคุยด้วยพอรู้ว่าเป็นนักข่าวต่างประเทศ ก็คืนเงินให้ แต่ไม่วายจะต่อรองว่าเค้าจำเป็นต้องทำ มีลูกมีเมียต้องเลี้ยง สุดท้ายคืนให้ 2,500 บาท
ตกกลางคืน ทีมงานชายสองคนไปเที่ยวพัฒพงษ์ ซ่อนกล้องถ่ายที่มืดไว้ เจอคนขายตั๋วโชว์ปิงปอง ขายตั๋วคนละ 300 บาท ได้เครื่องดื่มหนึ่งดริงค์ สุดท้ายพอเช็คบิล เสียเงินไปเกือบหกพัน ทั้งๆที่ดื่มเบียร์คนละขวด เจ้าของร้านอ้างค่าโน่นค่านี่และไล่พวกเค้าออกมาจากบาร์ ทีมงานพยายามไปโวยวายกับคนขายตั๋วที่อยู่ด้านนอก สุดท้ายได้เงินคืนมา 3,000 บาท
วันต่อมาทีมงานบินไปที่ภูเก็ต เช่ารถมอเตอร์ไซค์ แล้วเอาไปจอดไว้ข้างถนนที่มีรถมอเตอร์ไซค์จอดเรียงรายเป็นแถว แต่ถูกตำรวจล็อครถ คนแถวนั้นบอกว่ามันเป็นที่ห้ามจอด มันเคยเป็นสีขาวแดง แต่จริงๆแล้วสีมันลอกไปหมด ไม่เห็นเลยว่ามีการทาสีที่ฟุตบาท ทีมงานถ่ายรูปฟุตบาทและเดินไปสถานีตำรวจ พวกเค้าพยายามอธิบายว่า ตรงนั้นมันไม่มีสีขาวแดง ไม่มีป้าย พวกเค้าไม่รู้จริงๆว่าห้ามจอด สรุปว่าโดนปรับ 1,000 บาท
วันต่อมาพวกเค้าไปเล่นเจ็ทสกี เพราะต้องการพิสูจน์เรื่องมาเฟียเจ็ทสกี ที่มีนักท่องเที่ยวโดนหลอกมาแล้วจำนวนมาก คือก่อนเล่นต้องเซ็นชื่อรับรองว่า ถ้าทำเจ็ทสกีพังต้องชดใช้เงินคืนจำนวน 25,000 บาท ปรากฎว่าขี่ๆไปแล้วมันก็พังจริงๆ แต่วันนั้นโชคดีที่มีทหารมาตรวจจัดระเบียบชายหาด เลยไม่โดนหลอกเก็บเงินเพิ่ม
กลางคืนทีมงานไปเที่ยวบาร์แถวป่าตอง โดนชาร์จค่าเล่นเกม ค่าดริงค์และอื่นๆอีกมากมาย
วันต่อมา ทีมงานไปเที่ยววัดแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงในภูเก็ต เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวจีน ในวัดมีการขายเครื่องรางของขลัง เค้าซื้อสร้อยคอทองแท้และพระเครื่องมาในราคา 6,800 บาท เค้าไปที่ร้านทองในเมืองและให้ร้านทองตีราคาพระเครื่อง ร้านทองบอกว่าแบบนี้เหมือนกันเป๊ะ ที่ร้านขาย 1,200 บาท ทีมงานซื้อสร้อยที่เหมือนกันมาด้วยและตรงกลับไปที่วัดเพื่อเจรจา แต่ถูกขอร้องให้ออกมารอด้านนอก เมื่อกรุ๊ปทัวร์จีนออกไปแล้ว จึงมีคนมาเจรจาด้วยและยอมคืนเงินทั้งหมดด้วยอารมณ์โกรธมาก
วัดถัดมาบินไปเชียงใหม่ ไม่โดนโกงอะไร แต่เค้าไม่โอเคกับโชว์ช้างที่ไม่ได้อยู่ในธรรมชาติ แต่ไปเจอช้างเตะบอล วาดรูปและร้านขายของทุกมุม พวกเค้ากลับไปบอกบริษัททัวร์ว่า ควรบอกรายละเอียดตอนขายให้ครบถ้วน เพราะลูกค้าคาดหวังจะมาดูช้างในป่ากับธรรมชาติ เจ้าของร้านยอมรับข้อเสนอและขอโทษโดยดี
วันสุดท้ายทีมงานไปที่สามเหลี่ยมทองคำ มีรถรับจ้างไปส่งถ้ำหลวง คนละ 100 บาท แต่พาไปส่งที่วัดถ้ำอะไรซักอย่างแถวๆนั้น ถ้าอยากไปดูถ้ำหลวงที่เด็กไปติดอยู่ ต้องเหมารถไป 1,000 บาท พอไปถึงเจอร้านขายของตั้งเรียงรายเต็มไปหมด พอเดินเข้าไปถึงปากถ้ำก็พบว่า ห้ามเข้า มีแต่รูปนักการเมืองกับทีมฟุตบอลให้ดูเท่านั้น
ในวีดีโอเค้าจะเบลอหน้าทุกคน ยกเว้นพวกที่โกงเห็นหน้าชัดเจนมากๆและถ่ายวีดีโอตอนโกงไว้หมด เรียกว่าเป็นหลักฐานเอาไปแจ้งตำรวจจับได้แน่นอน แต่เสียดาย วีดีโอนี้ดูนอกประเทศเยอรมันไม่ได้ เข้าใจว่าเค้าคงตั้งใจปิดกั้นไว้ไม่ให้ดู
รู้ทั้งรู้ว่าเค้าเอาความจริงมาพูด แต่ก็รู้สึกอายมากๆ มันน่ารังเกียจจริงๆ นี่ขนาดเป็นคนไทยยังเคยโดนแกงค์หน้าวัดพระแก้วหลอกเลย แถมเคยเจอทัวร์ปลอมๆที่กระบี่ด้วย ส่วนพวกแท็กซี่ ตุ๊กๆ รถแดงโก่งราคานี่ไม่ต้องพูดถึง โดนกันทั้งประเทศอยู่แล้ว รู้สึกแย่มากๆ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็ไม่มีเวลาพอที่จะไปโวยวายเอาเงินคืน ได้แต่ไปเขียนรีวิวด่ากันเต็มไปหมด ด่ากันจนรายการนี้เอาข้อมูลมาถ่ายรายการเพื่อพิสูจน์ความจริง แล้วมันก็จริงทุกอย่างซะด้วย เสียใจแทนคนที่ทำมาหากินอย่างตั้งใจ คนดีๆ ทัวร์ดีๆ มีเยอะแยะ แต่พอภาพพจน์มันเสียไปแล้ว มันกอบกู้คืนมายากมากๆ
ใครที่อยู่เยอรมัน แนบลิงค์ไว้ในคอมเมนท์แรกนะคะ ตามไปดูกันได้
ที่มา : คุณ Naratee Black / https://www.facebook.com/photo.php?fbid=2494683447237163&set=a.201108903261307&type=3&theater