สยามสแควร์ แหล่งวัยรุ่น ความทันสมัย แฟชั่น ใจกลางกรุงเทพมหานคร ผมคิดเล่นๆว่าถ้าถามคนกรุงเทพว่าเคยไปสยามหรือไม่ คนที่ตอบว่าไม่คงน้อยเต็มที ภาพจำของผมกับสยามเริ่มต้นที่ห้างสีเขียวเข้ม มีบันไดหน้าห้างที่วัยรุ่นต้องมานั่งรอแมวมองเผื่อจะได้เข้าวงการบันเทิง ถัดไปเป็นโรงแรมสยามอินเตอร์-คอนติเนนตัล แล้วก็ห้างมาบุญครองที่มีความเชื่ออยู่ 2 เรื่องคือถ้าคนมาเดินห้างครบ 2 แสนคนห้างจะถล่ม กับห้ามเปิดมือถือในมาบุญครองเพราะจะถูกจูน

          วันนี้จะไปสยามกันอีกรอบ เที่ยวในสถานที่เที่ยว(ทั้งเสียเงินและฟรี)ที่ไม่ใช่เดินห้าง กินอาหารในร้านตำนานคู่สยาม กระทู้เหมาะสำหรับอ่านในห้องน้ำ อ่านบนรถ หรือจริงๆก็อ่านที่ใหนก็ได้ตามใจท่านๆเลย รวดเดียวจบ 
คราวนี้เราจะไปเที่ยวกันตามแผนที่นี้นะครับ ใครอยากเที่ยวตามก็เซฟแผนที่นี้ไปได้เลยตามสบาย เริ่มที่แรกกันเลยครับ
สถานที่: พิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน
ที่ตั้ง: ซอยเกษมสันต์2 ข้างอาคารสยามกลกาล ถนนพระรามที่1
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันเวลา 9:00-18:00น.
ค่าเข้าชม: เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปีเข้าฟรี อายุไม่เกิน 22 ปีราคาคนละ 100 บาท ผู้ใหญ่ราคาคนละ 200 บาท
เวปไซท์: http://www.jimthompsonhouse.com/
หมายเหตุ: ตั้งแต่ 1 มิ.ย. 2562 ผู้ที่นำรถส่วนตัวไปต้องไปจอดที่โรงแรม Holiday Inn และจะมีรถรับ-ส่งบริการ

จิม ทอมป์สัน หรือ เจมส์ แฮร์ริสัน วิลสัน ทอมป์สัน เป็นชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียงเรื่องผ้าไหมในประเทศไทยและหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยในประเทศมาเลเซีย
          วันที่ไปอากาศค่อนข้างร้อน กว่าจะเดินไปถึงบ้านจิม ทอมป์สันก็เหงื่อตก จ่ายเงิน 200 บาทแล้วเข้าไปรอด้านใน การเที่ยวในบ้านจิม ทอมป์สันจะต้องไปกับผู้นำทัวร์มีแค่บางพื้นที่ที่สามารถเดินเองได้ ส่วนใหญ่คนที่มาเที่ยวเท่าที่เห็นในวันนั้นจะเป็นชาวยุโรป อเมริกันและญี่ปุ่น ส่วนคนไทยนะนับหัวได้เลย
          เมื่อถึงเวลาที่นัดกันไว้ ผู้นำทัวร์กลุ่มของผมก็มา มีคนร่วมกลุ่มทั้งหมด 4 คนถ้วน ด้านในของบ้านห้ามถ่ายภาพหรือวิดีโออย่างเด็ดขาด ไม่ใช่ว่ากลัวภาพหลุดไปหรอก ผู้นำทัวร์บอกว่าเมื่อก่อนไม่ห้ามแต่บางคนมัวแต่ถ่ายรูปจนไปชนข้าวของเสียหาย หลังจากนั้นจึงห้าม
          กลุ่มของเราเดินเข้าห้องโน้นออกห้องนี้ตามการนำของผู้นำทัวร์พร้อมกับฟังเรื่องราวของจิม ทอมป์สันไปด้วย พอได้ฟังที่มาและเรื่องราวของสิ่งของต่างๆแล้ว ก็สมควรแล้วแหละที่เขาห้ามถ่ายภาพ ถ้าของเสียหายมานี่ยุ่งเลย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเราก็จบการทัวร์ ได้ความรู้มากมายทั้งประวัติจิม ทอมป์สัน การค้าผ้าไหม และวิถีชุมชนข้างคลองแสนแสบสมัยก่อน คุ้มค่า 200 บาทมากๆ

สถานที่: หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
ที่ตั้ง: หัวมุมถนนพระรามที่ 1 ตัดกับถนนพญาไท ตรงข้ามห้างมาบุญครอง(MBK)
เวลาเปิด-ปิด: อังคาร-อาทิตย์ เวลา 10:00-21:00น.
ค่าเข้าชม: ไม่เสียค่าเข้าชม
เวปไซท์: https://www.bacc.or.th/

          หอศิลปขนาดใหญ่ย่านสยามสแควร์ที่เกือบจะไม่ได้เกิด ไม่คิดว่าโครงการสร้างอาคารหลังนี้มีมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2538 ผ่านมรสุมเกือบจะถูกยุบทำเป็นที่ขายของจนเปิดตึกได้ในปี พ.ศ. 2548 เมื่อก่อนผมก็เคยคิดว่าตึกที่ไว้แสดงงานศิลปะอย่างเดียวมันจะอยู่รอดมั้ย กลายเป็นว่าตอนนี้ผมจะเข้าตึกนี้แทบทุกครั้งที่มีโอกาส
ทางเข้าอาคารสามารถเดินเข้าจาก sky walk ก็ได้หรือเดินเข้าจากทางเข้าชั้นล่างก็ได้ เข้าไปปุ๊บบรรยากาศของศิลปะก็จะปกคลุมทันที
          ภายในตัวอาคารออกแบบสวยงาม ผมว่าสวยกว่าที่เห็นจากข้างนอกเยอะ มีมุมให้ถ่ายรูปได้หลายมุม คนมาถ่ายรูปที่นี่กันไม่น้อยเลย กินข้าวอิ่มๆแวะไปเสพงานศิลป์เป็นอาหารทางใจก็ดีนะครับ นอกจากมีงานศิลปะให้ชมแล้วยังมีทั้งร้านค้าที่เกี่ยวกับงานศิลปะ ร้านขนมเครื่องดื่มอยู่ไม่น้อย ใครชอบงานศิลป์ งานทำมือ มาที่นี่ได้

สถานที่: พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ
ที่ตั้ง: ชั้น 6 อาคาร Siam Discovery
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน 10:00-20:00น.
ค่าเข้าชม: ค่าเข้าชมหลายแพ็คเกจ ดูได้จากเวปไซท์
เวปไซท์: https://www.madametussauds.com/bangkok/th

           พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งที่นับได้เป็นแห่งที่ 10 ของมาดามทุสโซ เปิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 ราคาบัตรเข้าชมออกจะแรงใช้ได้ ที่นี่จะมีโปรโมชั่นร่วมกับ Sealife Bangkok ซึ่งจะมีสิทธิพิเศษอื่นๆด้วย แต่ถ้าจะเข้าชมอย่างเดียวทั้ง 2 ที่ ซื้อบัตรแยกกันถูกกว่า โดยรอบนี้ผมซื้อบัตรเข้าชมมาดามทุสโซแบบเข้าชมก่อนเที่ยงวัน ราคาท่านละ 385 บาท บัตรเข้า Sealife แบบ single visit อีกท่านละ 531 บาท รวมคนละ 916 บาท ซึ่งบัตรประเภท combo จะเริ่มต้นที่คนละ 1090 บาท
          ซื้อบัตรเรียบร้อย เดินเข้ามาห้องแรกเป็นห้องจัดแสดงหุ่นเหมือนของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลเดชวิกรม พระบรมราชชนกและ
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ห้องนี้สวยมากๆครับ
          ห้องจัดแสดงหลากหลายมาก มีทั้งผู้นำประเทศ นักกีฬาชื่อดัง ดารานักร้อง เช่นศาห์รุข ข่าน นักแสดงชื่อดังซึ่งนิตยสาร Newsweek ของอเมริกาจัดให้เป็น 1 ใน 50 ผู้ทรงอิทธิพลของโลกในปี 2008 หรือจะไปนั่งคุยกับวง One Direction ก็ได้
          อีกห้องที่สวยมากๆคือห้องจัดแสดงหุ่นเหมือนผู้พันเบิร์ด ในเรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช รายละเอียดสุดยอดจริงๆ พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งเปิดโอกาสให้ถ่ายภาพประกบคนดังได้แบบใกล้ชิดสุดๆแถมมีเกมเล็กๆน้อยๆให้เล่น(ซึ่งผมว่าเฉยๆ)

สถานที่: พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Sea Life Bangkok Ocean World
ที่ตั้ง: ชั้น B1 Siam Paragon
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน 10:00-21:00น.
ค่าเข้าชม: ค่าเข้าชมหลายแพ็คเกจ ดูได้จากเวปไซท์
เวปไซท์: https://www.sealifebangkok.com/

          พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำกลางเมือง เดินทางสะดวกมาก เดิมชื่อ Siam Ocean World ปัจจุบันดูแลโดยบริษัท Merlin Entertainments ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สหราชอาณาจักร และเป็นเจ้าของ Legoland, Madame Tussauds ทั่วโลกอีกด้วย(เลยมีบัตรโปรโมชั่นร่วมกันได้)
          Sea Life Bangkok มีขนาดประมาณหนึ่งหมื่นตารางเมตร ความจุของตู้ปลารวม 5ล้านลิตร เปิดในปี 2005 หากเทียบกับ S.E.A Aquarium ของสิงคโปร์ที่เปิดปี 2012 แล้วล่ะก็ รายนั้นความจุตู้ปลารวม 45 ล้านลิตรซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกตอนนี้ อันดับ1เป็นของพี่จีนเขา
          ถึงขนาดไม่ใหญ่เท่าของสิงคโปร์แต่ก็มีอะไรให้ดูไม่น้อย ตั้งแต่ปลาน้ำจืด น้ำเค็ม กบ เขียด งู เต่า มีหมด เดินไปเห็นว่ามีโซนหมีขาวหลงดีใจ เดินเข้าไปดู อ้าวหุ่น ผมชอบส่วนจัดแสดงที่เป็นพระอภัยมณีที่มีนางยักษ์จมน้ำอยู่ในตู้ปลา ดูอลังการและสวยมากนั่งดูฉลามปาดหน้านางยักษ์ไปมา อันนี้ผมว่าสวยกว่าที่สิงคโปร์อีก