"ก็ไม่ได้แย่นะ"
นี่คือความคิดแรกที่ออกมาจากโรง

ก่อนจะไปเกี่ยวกับเรื่องเนื้อหาขอพูดในส่วนของนักแสดงก่อน ส่วนตัวเลยผมไม่ชอบ ทอม ฮอลแลนด์ที่แสดงในบทSpider-man ฉบับMCU เพราะว่ามันเด็กเกินไปและการแสดงมันดูล้นๆจนน่ารำคาญในภาคHome coming แต่พอมาภาคFar from homeรู้สึกว่าเล่นดีมาก และดูเข้ากับคาแรคเตอร์ของ ปีเตอร์ ปาร์กเกอร์ได้มากขึ้น ก็ดูมีความเป็นสไปดี้แบบไฮสคูลขึ้นมาหน่อยนึงนะ

ส่วน เจค จิลเลนฮาล ไม่ต้องอธิบายมากทำได้ดีอยู่แล้ว จะแสดงให้เป็นคนดีก็รู้สึกว่าเป็นคนดีจริงๆ แต่พอจะชั่วก็รู้สึกว่าชั่วได้แบบสมจริง ทั้งเรื่องผมชอบการแสดงของเจค จิลเลนฮาล สุดแล้วนะ

มาในส่วนของเนื้อเรื่อง
ผมชอบในองค์แรก ที่มีความเป็นหนังวัยรุ่นฮิปๆแบบย้อนยุค ไม่รู้ว่าตั้งใจทำให้เป็นแบบนี้หรือองค์แรกมันเชยจนทำให้ผมรู้สึกอย่างงั้นก็ไม่รู้ แต่เอาเป็นว่าผมชอบละกัน แต่พอหลังจากนั้นมันก็ไม่มีอะไรมาก ก็ดำเนินเรื่องตามสูตรหนังฮีโร่Marvelไปเรื่อยๆ ต่อให้ผมไม่สปอยคุณคงรู้อ่ะเนอะว่ามันจะเป็นยังไง มันแทบไม่มีอะไรให้เดา มันดูออกง่ายมากๆ ถ้านึกไม่ออกว่าเดาง่ายขนาดไหน ก็ให้นึกถึงว่า เวลา8.00AM เรารู้ว่าในทีวีจะมีเพลงชาติขึ้น อะไรประมาณนี้

ในสิ่งที่ไม่ชอบพอเดินเข้าเนื้อเรื่ององค์2คือ ด้วยความที่มันเป็นสูตรหนังฮีโร่ของMarvel ถ้ามันไม่มีอะไรพีคๆก็จะน่าเบื่อและเนิบนาบมาก ใช่ครับSpider-man Far from homeไม่มีอะไรพีคๆให้เราตื่นตาตื่นใจเลย จนทำให้ผมรู้สึกค่อนข้างเบื่อนิดหน่อยหลังจากที่หนังมันเข้าช่วงที่จะดำเนินเรื่องจริงจัง ที่จะชอบก็มีแค่ ฉากแอคชั่นกับCGของมอนเตอร์ธาตุที่มาให้เห็นในตัวอย่างแค่นั้นแหละ แต่ผมไม่ได้ยหมายความว่าเนื้อเรื่องตรงนี้มันแย่นะ ก็คือทำออกมาดี แต่ก็ไม่ได้ดีมาก ประมาณว่าพอดูได้เพลินๆนั่นแหละครับ

อีกจุดที่ไม่ชอบเลยคือ ปกติหนังMarvelจะใส่มุขตลกเข้ามาเพื่อให้มันมีความแมสและไม่ตึงเครียดเกินไป ง่ายๆคือทำให้รู้สึกดูง่ายแหละ ซึ่งผมไม่มีปัญหากับตรงนี้เลยนะ ที่ผ่านๆมาผมโอเคกับจุดนี้มากเพราะมันทำให้หนังสนุก แต่ถ้าคุณใส่ผิดจังหวะหรือยัดเยียดมากเกินไปมันก็เป็นสิ่งที่ทำให้หนังมันดูน่ารำคาญขึ้นมาได้ทันที ซึ่งSpider-man Far from home ก็ต้องบอกว่าใส่มุขตลกมาเกินความจำเป็นไปหน่อย และมันส่งผลต่อกับตัวเนื้อเรื่องด้วย มันมีหลายๆฉากที่ผมงงว่า จะตัดเอาฉากนี้มาทำไมวะ มันทำให้เนื้อเรื่องดูขัดหูขัดหาเกินไปอ่ะ ผมรู้สึกว่าฉากที่พยายามจะยัดเยียดมุขตลก มันรกเส้นเรื่องมากๆ ถ้าคุณเอาฉากพวกนั้นออกไปแล้วไปโฟกัสที่เนื้อเรื่อง หนังมันจะดีกว่านี้มากๆจริงๆ 

ในส่วนเส้นเรื่องของMJกับPeter คงเห็นในตัวอย่างแล้วว่าพ่อหนุ่มปีเตอร์ ปาร์กเกอร์ พยายามจะจีบMJ ซึ่งในส่วนของพาร์ทความรักมันเป็นเส้นเรื่องรองที่เดินมาพร้อมเส้นเรื่องหลักได้ค่อนข้างดีแต่รู้สึกว่ามันก็รวบรัดเกินไปหน่อย ในหัวตอนที่ดูพาร์ทนี้ในหนังผมคิดว่า "ถ้ามันจะเล่นเรื่องนี้ทำไมมันไม่ปูตั้งแต่ภาคHome coming?" แต่ก็ถือว่าเป็นการรวบรัดที่ไม่ได้ชุ่ยเกินไป ก็พอที่จะโอเคไปกับมันได้

อย่างสุดท้าย หนังมีความขายแฟนคลับMarvelเยอะมาก ผมคิดว่ามันอาจจะไม่เป็นมิตรกับคนดูหนังขาจรสักเท่าไหร่ เพราะคุณอาจจะงงๆกับบางอย่างในหนังว่าใส่มาทำไม และก็อาจจะเกิดอารมณ์แบบว่า "เพื่อ ตรูไม่อินเฟ้ย!" ได้นะ 

ปล.มี Post credit 2 ตัว
อันนี้สปอยนิดหน่อย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อันแรกก็สำคัญแหละสำหรับจักรวาลMCU แต่ก็ไม่ได้มากขนาดที่สื่อต่างประเทศบอกกัน
อันที่สอง ขำๆตามสไตล์Marvel 

สรุป
คะแนน 6.5/10
ชอบในองค์แรกของหนังที่มีความเป็นหนังวัยรุ่นฮิปๆ แต่พอดำเนินเรื่องไปสักพักก็เริ่มเข้าสูตรหนังฮีโร่Marvel เนื้อเรื่องไม่ได้ตื่นตาตื่นใจจนรู้สึกเนิบๆนาบๆมาก และก็รู้สึกเบื่อนิดหน่อย แต่ก็พอดูได้เพลินๆ เหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้คิดอะไรมาก เป็นหนังเบาสมองอีกเรื่อง มุขตลกใส่มาเกินความจำเป็นจนทำให้รำคาญในขณะที่เส้นเรื่องหลักกำลังดำเนินอยู่ หนังมีความขายแฟนคลับMarvel คนดูหนังขาจรอาจจะเกิดอารมณ์ไม่อินกับบางฉากได้ เจค จิลเลนฮาล คือสิ่งที่ดีที่สุดในหนังเรื่องนี้