“โจรปล้นสิบครั้งไม่เท่าไฟไหม้ครั้งเดียว” ยังคงเป็นสำนวนที่ยังใช้ได้เสมอเพราะต่อให้โจรขึ้นบ้านเอาข้าวของเราไปทั้งหมด
เราก็ยังคงเหลือบ้านให้เราสำหรับอยู่อาศัย แต่หากเกิดไฟไหม้ขึ้นมาบ้านที่จะอยู่ก็ยังไม่มี ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้คงไม่มีใครอยาก
ให้เกิดขึ้น ทำให้ใครหลายๆ คนเลือกที่จะทำประกันอัคคีภัยเพื่อป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างน้อยหากเกิดอะไรขึ้นมา ก็มีเงิน
ที่มาช่วยชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นได้
แต่เพื่อนๆ รู้ไหมครับนอกจาก ‘‘ประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัย’’ จะช่วยเราชดเชยจากเหตุการณ์ไฟไหม้ได้แล้ว ยังสามารถชดเชย
เหตุการณ์อื่นๆ ได้อีกด้วย K-Expert จึงอย่ากจะแนะนำประโยชน์อื่นๆ ที่ ‘‘ประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัย’’ สามารถชดเชยให้กับเรา
มาจากเรื่องใดได้บ้าง
1. กรณีฝนตกแล้วมีฟ้าผ่า ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านช็อตเสียหาย หรือเกิดฟ้าผ่าลงบ้านทำให้เกิดไฟไหม้ แบบนี้คุ้มครอง
นะครับ แต่ทรัพย์สินที่เสียหายต้องระบุความคุ้มครองไว้ตอนทำประกันภัยด้วย (ภัยจากฟ้าผ่ารวมถึงความเสียหายต่อเครื่องใช้ไฟฟ้า
และอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เกิดจากการลัดวงจรจากฟ้าผ่า)
2. กรณีเกิดลมพายุพัดหลังคาบ้านปลิว หรือเกิดลมพายุพัดต้นไม้หักล้มทับบ้านแบบนี้ประกันภัยมีความคุ้มครอง แต่ถ้าเกิดจาก
น้ำฝนสาดเข้ามาเฉยๆ แบบนี้ไม่คุ้มครองนะครับ (ภัยจากลมพายุ)
3. กรณีแก๊สที่ใช้ในครัวเรือน หรือแก๊สที่ใช้ในการทำกับข้าวเกิดระเบิดแบบนี้คุ้มครองแต่หากเกิดจาการระเบิดของพวกวัตถุระเบิด
รถหรือเกิดจากเหตุความไม่สงบ การก่อการร้าย แบบนี้ประกันไม่คุ้มครองนะครับ ซึ่งจะเกี่ยวกับภัยที่มาจากการระเบิด
4. กรณีฝนตกทำให้น้ำฝนรั่วจากหลังคาที่แตกอยู่แล้ว ไหลลงมาโดนฝ้าเพดาน จนเกิดความเสียหาย หรือน้ำรั่วจากท่อจนทำให้
พื้นไม้ลามิเนตเปียกน้ำจนเสียหาย แบบนี้คุ้มครองนะครับ (ภัยเนื่องจากน้ำ(ไม่รวมน้ำท่วม) อันเกิดขึ้นโดยอุบัติเหตุจากการปล่อย
การรั่วไหล หรือการล้นออกมาของน้ำหรือไอน้ำ จากท่อน้ำ ถังน้ำ ระบบทำความร้อน ระบบทำความเย็น ระบบปรับอากาศ เครื่อง-
สูบน้ำ และรวมถึงน้ำฝนที่ไหลผ่านเข้าไปภายในอาคารจากการเสียหายของหลังคา หน้าต่าง ประตู วงกบประตูหน้าต่าง ช่องลม
ช่องรับแสงสว่าง ท่อน้ำหรือรางน้ำ)
5. กรณีฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วมขัง ทำให้บ้านเราเสียหาย แบบนี้ก็คุ้มครองนะครับ ซึ่งจะเกี่ยวกับภัยที่มาจากน้ำท่วม
6. กรณีมีคนเมาขับรถมาชนประตูบ้านเราพัง แบบนี้ประกันคุ้มครองครอง แต่หากคนที่ขับรถมาชนประตูบ้านเราเป็นคนในครอบครัว
หรือเป็นบุคคลที่พักอาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นด้วย แบบนี้ประกันไม่คุ้มครองนะครับ ซึ่งจะเกี่ยวกับภัยที่มาจากการเฉี่ยว และหรือการ
ชนของยานพาหนะหรือสัตว์พาหนะ
7. กรณีเกิดแผ่นดินไหว หรือเกิดสึนามิขึ้น ทำให้บ้านพังเสียหาย แบบนี้คุ้มครอง แต่ต้องเกิดขึ้นจากภัยธรรมชาติเท่านั้น
8. กรณีเกิดลูกเห็บ หรือน้ำค้างแข็งตกใส่หลังคาบ้านเสียหายหรือหลังคาทะลุแบบนี้คุ้มครองซึ่งจะเกี่ยวกับภัยที่มาจากลูกเห็บ)
9. กรณีเครื่องบินชำรุดทำให้กระเป๋าที่อยู่ภายในเครื่อง ตกออกมาจนหล่นใส่หลังคาบ้าน ทำให้บ้านของเราได้รับความเสียหาย
แบบนี้คุ้มครองเช่นกันนะครับ ซึ่งจะเกี่ยวกับภัยที่มาจากอากาศยาน และหรือวัตถุที่ตกจากอากาศยาน รวมถึงจรวดซึ่งขับเคลื่อน
ด้วยตัวเองและยานอวกาศ ยกเว้นจรวดที่เป็นอาวุธ
สำหรับความคุ้มครองในข้อ 2, 5, 7, 8 บริษัทประกันจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงทุกภัยรวมกันแล้ว
ไม่เกิน 20,000 บาทต่อปี
หากเกิดความเสียหายกับทรัพย์สินของเราที่ได้ทำประกันไว้ ตามข้อ 1-9 เพื่อนๆ ต้องรีบแจ้งให้ประกันทราบทันทีนะครับ และต้อง
ส่งเอกสารให้ประกันภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่เกิดความเสียหาย โดยต้องส่งหนังสือเรียกร้องความเสียหายเป็นลายลักษณ์อักษร
ซึ่งต้องแจ้งรายละเอียดทรัพย์สินที่เสียหาย พร้อมแจ้งมูลค่าความเสียหาย หากมีการทำประกันไว้หลายฉบับ (กับบริษัทประกันอื่น)
ต้องแจ้งให้บริษัทประกันนั้นๆ ทราบด้วย
และอีกข้อที่เพื่อนๆ ควรรู้คือทางบริษัทประกันจะมีความคุ้มครองในส่วนของค่าเช่าให้เป็นการชั่วคราว หากบ้านพักที่ทำประกัน
เกิดความเสียหายมากกว่า 50% ซึ่งเพื่อนๆ สามารถตรวจสอบรายละเอียดและเงื่อนไขได้จากกรมธรรม์ประกันอัคคีภัยที่เพื่อนๆ
ได้ทำไว้กับบริษัทประกันภัย
ทางทีมงาน K-Expert หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์กับเพื่อนๆ ทุกคน ทำให้รู้ว่าประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัย ไม่ได้คุ้มครองแค่ไฟไหม้
เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีความคุ้มครองที่หลากหลายอีกด้วย ดังนั้น หากเกิดเหตุขึ้นมา แต่อันนี้ไม่ได้อยากให้เกิดนะครับ เพื่อนๆ จะ
ได้ไม่เสียสิทธิที่ควรจะได้รับกันนะครับ
** ทั้งนี้ หากเพื่อนๆ มีข้อสงสัยสามารถตรวจสอบความคุ้มครอง และเงื่อนไขต่างๆ ในการรับประกันภัย ได้จากบริษัทประกันภัยที่
เพื่อนๆ ได้ทำไว้ **
ประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัย ไม่ได้คุ้มครองเฉพาะไฟไหม้เท่านั้น แต่ยังมีความคุ้มครองด้านอื่นๆ อีกด้วย !!!
เราก็ยังคงเหลือบ้านให้เราสำหรับอยู่อาศัย แต่หากเกิดไฟไหม้ขึ้นมาบ้านที่จะอยู่ก็ยังไม่มี ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้คงไม่มีใครอยาก
แต่เพื่อนๆ รู้ไหมครับนอกจาก ‘‘ประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัย’’ จะช่วยเราชดเชยจากเหตุการณ์ไฟไหม้ได้แล้ว ยังสามารถชดเชย
1. กรณีฝนตกแล้วมีฟ้าผ่า ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านช็อตเสียหาย หรือเกิดฟ้าผ่าลงบ้านทำให้เกิดไฟไหม้ แบบนี้คุ้มครอง
2. กรณีเกิดลมพายุพัดหลังคาบ้านปลิว หรือเกิดลมพายุพัดต้นไม้หักล้มทับบ้านแบบนี้ประกันภัยมีความคุ้มครอง แต่ถ้าเกิดจาก
3. กรณีแก๊สที่ใช้ในครัวเรือน หรือแก๊สที่ใช้ในการทำกับข้าวเกิดระเบิดแบบนี้คุ้มครองแต่หากเกิดจาการระเบิดของพวกวัตถุระเบิด
4. กรณีฝนตกทำให้น้ำฝนรั่วจากหลังคาที่แตกอยู่แล้ว ไหลลงมาโดนฝ้าเพดาน จนเกิดความเสียหาย หรือน้ำรั่วจากท่อจนทำให้
5. กรณีฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วมขัง ทำให้บ้านเราเสียหาย แบบนี้ก็คุ้มครองนะครับ ซึ่งจะเกี่ยวกับภัยที่มาจากน้ำท่วม
6. กรณีมีคนเมาขับรถมาชนประตูบ้านเราพัง แบบนี้ประกันคุ้มครองครอง แต่หากคนที่ขับรถมาชนประตูบ้านเราเป็นคนในครอบครัว
7. กรณีเกิดแผ่นดินไหว หรือเกิดสึนามิขึ้น ทำให้บ้านพังเสียหาย แบบนี้คุ้มครอง แต่ต้องเกิดขึ้นจากภัยธรรมชาติเท่านั้น
8. กรณีเกิดลูกเห็บ หรือน้ำค้างแข็งตกใส่หลังคาบ้านเสียหายหรือหลังคาทะลุแบบนี้คุ้มครองซึ่งจะเกี่ยวกับภัยที่มาจากลูกเห็บ)
9. กรณีเครื่องบินชำรุดทำให้กระเป๋าที่อยู่ภายในเครื่อง ตกออกมาจนหล่นใส่หลังคาบ้าน ทำให้บ้านของเราได้รับความเสียหาย
สำหรับความคุ้มครองในข้อ 2, 5, 7, 8 บริษัทประกันจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงทุกภัยรวมกันแล้ว
หากเกิดความเสียหายกับทรัพย์สินของเราที่ได้ทำประกันไว้ ตามข้อ 1-9 เพื่อนๆ ต้องรีบแจ้งให้ประกันทราบทันทีนะครับ และต้อง
และอีกข้อที่เพื่อนๆ ควรรู้คือทางบริษัทประกันจะมีความคุ้มครองในส่วนของค่าเช่าให้เป็นการชั่วคราว หากบ้านพักที่ทำประกัน
ได้ทำไว้กับบริษัทประกันภัย
ทางทีมงาน K-Expert หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์กับเพื่อนๆ ทุกคน ทำให้รู้ว่าประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัย ไม่ได้คุ้มครองแค่ไฟไหม้
** ทั้งนี้ หากเพื่อนๆ มีข้อสงสัยสามารถตรวจสอบความคุ้มครอง และเงื่อนไขต่างๆ ในการรับประกันภัย ได้จากบริษัทประกันภัยที่