ก็เป็นหนังภาคต่อฟอร์มใหญ่กันทั้งคู่นะครับ ที่คนทั่วโลกต่างรอคอยกัน เรื่องหนึ่งเป็นหนังแนวรถซิ่งอาชญากรรมที่ดำเนินเดินทางตลอดระยะเวลา 19 ปีมาแล้ว ที่ตัวหนังยิ่งสร้างขึ้นเยอะตามจำนวนภาคยิ่งทำรายได้เพิ่มขึ้น และคำวิจารณ์ของหนังในเว็บต่างๆดีขึ้นเรื่อยๆนับตั้งแต่ภาค 4 เป็นต้นมา
อีกเรื่องเป็นหนังสายลับชาติอังกฤษระดับตำนานเจ้าแรกๆก่อนจะมีหนังดังแนวเดียวกันออกมาภายหลังอย่าง Mission Impossible, Jason Bourne, Kingsman ที่ดำเนินมาอย่างยาวนานตลอด 57 ปีบนจอภาพยนตร์ ธีมเพลงเฉพาะตัว เปลี่ยนนักแสดงในการรับบทเป็นตัวเอกมา 6 คนแล้ว แต่ละคนก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ต่างกันนั้นคือพยัคฆ์ร้าย เจมส์ บอนด์ 007 ซึ่งภาคนี้ เป็นภาคที่ 25 และเป็นภาคลำดับที่ 5 ภาคสุดท้ายของนักแสดง
แดเนี่ยล เคร็ก ที่จะมารับบทเป็นเจมส์ บอนด์ ทิ้งทวนก่อนจะมีการแคสติ้งบทนี้ให้นักแสดงคนอื่นมาสานต่อ
Fast & Furious 9 (2020) ตอนนี้อย่างที่ใครหลายๆคนรู้กันว่า ทีมงานผู้สร้างหนังเรื่องนี้ รวมถึงนักแสดงนำได้ยกทีมกองถ่ายมาถ่ายทำที่ประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะถ่ายทำ 3-4 เดือนที่จังหวัดกระบี่ ภาคใต้ของเรา เมื่อวานใครที่ติดตามไอจีส่วนตัวของพี่วิน ดีเซล คงได้เห็นพี่แกออกมาพูดเปิดกล้องวันแรกในประเทศไทยกับ
มิเชลล์ ร็อดดิเกซ นางเอกของหนังชุดนี้ โดยที่ทางทีมงานทุ่มงบไปกว่า 340 ล้านบาท ในการเซ็ตฉากต่างๆ ปิดถนน เพื่อทำฉากขับรถไล่ล่าอันดุเดือด ตามสไตล์หนังฟาสที่ต้องมีฉากขับรถไล่ล่าระหว่างพระเอกกับพวกตัวร้ายเป็นฉากแอ็คชั่นจุดขายประจำแฟรนไซส์ชุดนี้
ในภาคนี้ได้ผู้กำกับคนเดิมอย่าง จัสติน หลิน ที่เคยกำกับหนังฟาสภาค 3-6 กลับมากำกับต่อในภาคนี้ และแกก็มีสัญญากับทางค่ายหนังกำกับภาค 10 ปิดฉากหนังชุดนี้อีกด้วย เรียกได้ว่า แกได้กำกับหนังชุดนี้มากที่สุดและทำออกมาได้ดีกว่าผู้กำกับคนอื่นๆที่เคยได้กำกับหนังชุดนี้ คนเขียนบทก็ยังเป็น คริส มอร์แกน ที่เขียนบทให้หนังชุดนี้มาตั้งแต่ภาค 3-8 ก็รับหน้าที่เขียนบทให้หนัง
ฟาสภาคนี้อยู่ ในหนังภาคแยก Hobbs & Shaw แกก็ยังเขียนบทให้อยู่
ตัวร้ายในภาคนี้ ไม่ได้เป็นขุ่นแม่ ชาร์ลิส เธอรอน ในบท
ไซเฟอร์ เจ้าแม่ไอทีที่ภาคที่แล้วพวกดอมยังไม่ได้สู้อะไรกับนางมาก นางโดดร่มหนีไปก่อน ตัวหนังไม่ได้เล่าต่อจากเหตุการณ์ในภาตก่อนของนาง ในภาคนี้เปิดตัว ตัวร้ายคนใหม่ ที่แสดงโดยนักมวยปล้ำชื่อดังจากสมาคม WWE นั่นก็คือ จอห์น ซีน่า ที่พี่แกเคยสัมภาษณ์ไว้นานแล้วว่า แกอยากจะมาแจมแสดงในหนังชุดนี้ เหมือน เดอะ ร็อค
แกก็ได้มาแสดงสมใจอยาก ในบทวายร้ายคู่ปรับของดอมคนใหม่ แต่ก็ไม่รู้ว่าตัวหนังจะโยงเรื่องเชื่อมกับภาคแปดไหม ตัวร้ายคนใหม่อาจจะมีความเชื่อมโยงกับไซเฟอร์ก็เป็นได้
ทีมนักแสดงสมทบก็ยังเหมือนเดิม นอกจาก วิน ดีเซล ยอดพระเอกนักซิ่งในบท โดมินิค โทเร็ตโต้ ก็มี
มิเชลล์ ร็อดดิเกซ ในบท
เล็ตตี้ ภรรยาสุดแกร่งของดอม, ไทรีส กิ๊บสัน ในบท โรมัน เพียร์ซ นักซิ่งตัวโจ๊กประจำทีม, ลูคัส คริส ในบท เท็จ หนุ่มไอที, นาตาลี มูเอลล่า ในบท แรมซีย์ แฮ็กเกอร์สาวผมฟู, เคริต์ รัสแซล ในบท มิสเตอร์โนบอดี้
สายลับรุ่นเดอะ หน่วยข่าวกรองทหาร และ จอร์ดาน่า บรูสเตอร์ ในบท มีอา น้องสาวของดอม ภรรยาของ
ไบรอัน ในภาคนี้เธอจะกลับมาแสดงและตัวบทจะเด่นขึ้นกว่าภาคก่อนๆตามที่ทีมงานบอกไว้
ในส่วนของเนื้อหา การดำ
เนินเรื่อง ตัวบทต่างๆ ยังไม่มีการออกมาเปิดเผยว่าหนังจะมาในรูปแบบลักษณะไหน จะเล่าเรื่องต่ออย่างไร แต่ที่รู้แน่ๆคือ ฉากแอ็คชั่นจัดหนักจัดเต็มไม่แพ้ภาคก่อนๆแน่นอน โดยเฉพาะฉากขับรถไล่ล่าที่เป็นจุดขายหลักประจำแฟรนไซส์ชุดนี้ ที่ภาคก่อนๆ เราเห็นทั้ง ฉากขับรถลากตู้เซฟถล่มเมืองริโอ, ฉากขบวนรถซิ่งสู้กับรถถังบน
สะพานไฮเวย์ในประเทศสเปน, ฉากขับรถด้วยความเร็วสูงทะลุตึกสองตึก ในประเทศอาบูดาบี ภาคล่าสุด เล่นบุกฐานทัพรัสเซีย ขบวนรถซิ่งสู้กับเรือดำน้ำ มาเว่อร์ตามสเต็ปขึ้นเรื่อยๆ ภาคนี้ มาในไทย ไม่รู้พวกพี่ดอมจะได้รับภารกิจมาซิ่งรถทำอะไรอีกต้องรอดูครับ...
โลเคชั่นที่ถ่ายทำในภาคนี้ มีทั้งในเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ, เมืองในแถบประเทศแอฟริกาใต้, เมืองแอลเอ ประเทศสหรัฐอเมริกา และจังหวัดกระบี่ ประเทศไทย
ส่วน เดอะ ร็อค ที่เคยมีข่าวเกาเหลาไม่กินเส้นกับ วิน ดีเซล ที่เคยเป็นข่าวระหว่างการถ่ายทำภาคแปดนั้น พี่แกบอกว่าจะกลับมาแสดงในบท ลุค ฮ็ฮบบ์ เหมือนเดิมในภาคสุดท้าย ภาค 10 นั่นเอง ไม่ได้โกธรกันขนาดจะไม่กลับมาแสดงอีก แต่ที่แกไม่ปรากฏตัวในภาค 9 เพราะแกติดถ่ายทำหนังเยอะหลายเรื่องด้วยในปีนี้ถึงปีหน้า ปีนี้เดือนสิงหาคม ก็ได้เห็น พี่แกแสดงหนังคู่กับ
เจสัน สเตแธม อีก หนังภาคแยกฟาส Hobbs & Shaw ไปก่อน ผลงานการกำกับของ เดวิด ลินซ์ ผู้กำกับเรื่อง John Wick, Atomic Blonde และ Deadpool 2 รับประกันความดีงามและความมันจากฝีมือผู้กำกับคนนี้ได้เลยครับ
มาต่อกันในเรื่อง James Bond 25 หลังจากที่ไม่นานนี้ตัวนักแสดงนำอย่าง
แดเนี่ยล เคร็ก ได้รับบาดเจ็บระหว่างการถ่ายทำพี่เหี่ยวโหดแก ลื่นล้ม พักการถ่ายทำไปหลายสัปดาห์ ตอนนี้แกหายดีและกลับมาถ่ายทำเหมือนเดิมแล้ว โดยที่โลเคชั่นหลักในภาคนี้ อยู่ที่ประเทศจาไมก้า
ทีมนักแสดงหน้าเดิมนอกจากเคร็ก ก็มีนางเอกจากภาค Spectre เลอา แซดู นักแสดงสาวชาวฝรั่งเศส กลับมาแสดงในบทเดิม แฟนสาวของบอนด์, เรล์ฟ ไฟนส์ ผู้รับบทเป็น M หัวหน้าบอนด์คนใหม่ที่มาสานบทต่อจาก จูดี้
เด้นท์ M คนเก่านั่นเอง, เบน บิชอว์ ในบท Q ผู้ที่คอยประดิษฐ์สิ่งของนู้นนี่นั้นให้บอนด์ในการออกทำภารกิจ ทั้งรถเอย เครื่องมืออีเล็คโทรนิคต่างๆ พร้อมกับพูดตลอดทุกภาคว่า "นำอุปกรณ์มาคืนในสภาพเดิมด้วยนะ 007" ผลคือ ของที่แกประดิษฐ์บอนด์แมร่งทำพังทุกภาค 555
ผู้กำกับ ผมจำชื่อแกไม่ได้ ชื่ออ่านโคตรยาก รู้แต่เป็นลูกครึ่งอเมริกัน-ญี่ปุ่น
แปปนะ...หนังสายลับอังกฤษ ที่มีธรรมเนียมไม่เอาผู้กำกับหรือมือเขียนบท นอกสหราชอาณาจักร ทำไมภาคนี้เอามะกันลูกครึ่งญี่ปุ่นมากำกับ แหวกแนวมาก ยังไม่ค่อยเห็นมีผลงานเด่นๆ แกมาจากการกำกับซีรีย์เรื่อง True Detective แถมมีข่าวออกมาว่า พี่แกคนนี้มีปัญหาติดเกมอย่างหนัก ไม่ค่อยสนใจงาน มากองถ่ายสาย ทำให้ทีมนักแสดงและทีมงานเดือดร้อน เห้อ....หนัง 007 ภาคนี้ ดูท่าที แบบว่า... ออกมาดีเท่า Die Another Day รึเปล่าว๊าาาา 555 (ทำไมไม่เอา มาร์ติน แคมป์เบล มากำกับอะ แกทำภาค Goldeneye ของบอนด์เพรียซ์โคตรแจ่ม มากำกับในภาค Casino Royale ของ
บอนด์เคร็ก ก็โคตรโดน คิดถึงเฮียเบลเลยจริงๆ)
(แซม เมนเดส ไม่รู้มีใครเสียดายแกคนนี้เหมือนผมไหม คือ ก่อนหน้ามากำกับหนังบอนด์ แกมีผลงานหนังดีๆ หนังเข้าชิงรางวัลมากมาย ตอนมากำกับ บอนด์ภาค Skyfall โคตรจะดีงามทุกอย่าง แต่พอภาคล่าสุด Spectre ... กลับบ้านเก่าไปเลย เหมือนผู้กำกับคนละคนกับภาค Skyfall ไงอย่างงั้น)
ตัวร้ายในภาคนี้ นำแสดงโดย รามี มาเลค นักแสดงชาวอเมริกันที่เพิ่งคว้ารางวัลออสการ์ในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเรื่อง Bohemian Rhapsody ที่พี่แกสวมบทบาทฟร้อนท์แมน วงร็อคระดับตำนานของอังกฤษ วง Queen นั่นเอง และนักแสดงในบทเพื่อนของบอนด์จากภาค Casino Royale และ Quantum Of Solace สายลับมะกันซีไอเอ ฟีนิกซ์ เลเธอร์ ที่แสดงโดย เจฟฟรีย์ เวท ก็มาแสดงในภาคนี้ด้วย
ตัวร้ายในหนังบอนด์หลายภาคที่ผ่านมา ดีกรีระดับดาราออสการ์กันทั้งนั้น หลายคนที่แสดงแล้วน่าประทับใจ เป็นตัวร้ายที่ออกมาแย่งซีนพระเอก แต่หลายคนก็มาเสียของ อย่าง คริสตอฟ วอล์ซ ในภาค Spectre เป็นต้น คือ นอกจากบทจะทำให้เป็นตัวร้ายที่ดูกระจอกและโง่มากไม่พอ ยังไม่ให้บทการแสดงทางอารมณ์ดีๆกับแกอีก ลองไปเทียบกับ ตัวร้ายภาค
Casino Royale กับ Skyfall สิ คนละชั้นกันเลย กับตัวบทที่เขียนมาส่งตัวนักแสดง ก็ต้องรอดูครับว่าบทของตัวร้ายในภาคนี้ จะออกมาดูดีเท่าสองภาคนั้นรึเปล่า หรือ จะตกม้าตายในหนังฟอร์มใหญ่แบบ คริสตอฟ วอล์ซ ตัวร้ายภาค Quantum Of Solace บทไม่ดีเด่อะไรมาก แต่ยังดูดีกว่าบทของเฮีย
วอล์ซ นะครับ เสียดายเฮียวอล์ซในเรื่องนี้มาก เอาดาราออสการ์มาฆ่าชัดๆ
เนื้อย่อคร่าวๆของหนังในภาคนี้ ที่ทีมงานเผย เล่าเรื่องราวหลังภาค Spectre บอนด์ได้ลาออกจากหน่วยข่าวกรอง MI6 ไปอยู่กับแฟนสาวในประเทศจาไมก้า ได้ไม่นานนัก เพื่อนเก่าของบอนด์ ฟินิกซ์ สายลับซีไอเอ ได้มาขอความช่วยเหลือกับบอนด์ ให้ไปตามหานักวิทยาศาสตร์ที่ถูกจับตัวไป โดยองค์กรอาชญากรรมที่มีหัวหน้าเป็นผู้ร้ายที่เก่งด้านอุปกรณ์ไฮเทค
ฟังเรื่องย่อคร่าวๆมันดูเหมือนพล็อตหนังบอนด์ยุคเก่าอะ พวกบอนด์เพรียซ์ บอนด์มัวร์ ฟังดูลิเกๆไงไม่รู้ บอนด์เคร็กมันขายความดิบเถื่อน ดราม่า สมจริง แบบสามภาคแรก ภาค Spectre มันก็ลิเกๆแบบบอนด์คนก่อนๆล่ะ ภาคนี้ออกลิเกโบราณเลยล่ะ แถมผู้กำกับไม่ค่อยสนใจงานด้วย ติดเกม เห้อ...007 ภาคนี้ ดูจากหน้างานแล้ว เครียดแทนทีมงานผู้สร้างเลย เอา
มาร์ติน แคมป์เบล กลับมาเถอะ
ที่สำคัญที่สุดครับทั้ง Fast & Furious 9 และ Bond 25 นั่น หนังเข้าฉายในเดือนเดียวกัน คือ เดือนเมษายน 2020 นั่นเอง เรียกได้ว่า เป็นหนัง
แอ็คชั่นฟอร์มใหญ่แห่งปีทั้งคู่มาฉะกันเลย รายได้ของหนังคงพอๆกันแหละ ต้องอยู่ระดับ 300 ล้านขึ้น แฟนหนังสองเรื่องนี้ เฉพาะในไทยก็เยอะโคตร เรียกว่าดูควบเลย ทั้งฟาสและบอนด์ หนังกระแสดีทั้งสองเรื่อง แต่ตอนนี้นะ ผมกลับอยากดูฟาสมากกว่า ที่ดูตอนนี้จะอลังและเว่อร์กว่า เพราะ หนังบอนด์เคร็กจากที่ดูหน้างานพร้อมพล็อตเรื่องในตอนนี้ดูหนังจะไม่สนุก ลิเกๆ ไงไม่รู้ แต่ยังไงก็ดูแหละ เพราะติดตามมาตั้งแต่ Casino Royale
Fast & Furious 9 กับ James Bond 25 อัพเดตข่าวหนังดังทั้งสองเรื่อง
อีกเรื่องเป็นหนังสายลับชาติอังกฤษระดับตำนานเจ้าแรกๆก่อนจะมีหนังดังแนวเดียวกันออกมาภายหลังอย่าง Mission Impossible, Jason Bourne, Kingsman ที่ดำเนินมาอย่างยาวนานตลอด 57 ปีบนจอภาพยนตร์ ธีมเพลงเฉพาะตัว เปลี่ยนนักแสดงในการรับบทเป็นตัวเอกมา 6 คนแล้ว แต่ละคนก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ต่างกันนั้นคือพยัคฆ์ร้าย เจมส์ บอนด์ 007 ซึ่งภาคนี้ เป็นภาคที่ 25 และเป็นภาคลำดับที่ 5 ภาคสุดท้ายของนักแสดง
แดเนี่ยล เคร็ก ที่จะมารับบทเป็นเจมส์ บอนด์ ทิ้งทวนก่อนจะมีการแคสติ้งบทนี้ให้นักแสดงคนอื่นมาสานต่อ
Fast & Furious 9 (2020) ตอนนี้อย่างที่ใครหลายๆคนรู้กันว่า ทีมงานผู้สร้างหนังเรื่องนี้ รวมถึงนักแสดงนำได้ยกทีมกองถ่ายมาถ่ายทำที่ประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะถ่ายทำ 3-4 เดือนที่จังหวัดกระบี่ ภาคใต้ของเรา เมื่อวานใครที่ติดตามไอจีส่วนตัวของพี่วิน ดีเซล คงได้เห็นพี่แกออกมาพูดเปิดกล้องวันแรกในประเทศไทยกับ
มิเชลล์ ร็อดดิเกซ นางเอกของหนังชุดนี้ โดยที่ทางทีมงานทุ่มงบไปกว่า 340 ล้านบาท ในการเซ็ตฉากต่างๆ ปิดถนน เพื่อทำฉากขับรถไล่ล่าอันดุเดือด ตามสไตล์หนังฟาสที่ต้องมีฉากขับรถไล่ล่าระหว่างพระเอกกับพวกตัวร้ายเป็นฉากแอ็คชั่นจุดขายประจำแฟรนไซส์ชุดนี้
ในภาคนี้ได้ผู้กำกับคนเดิมอย่าง จัสติน หลิน ที่เคยกำกับหนังฟาสภาค 3-6 กลับมากำกับต่อในภาคนี้ และแกก็มีสัญญากับทางค่ายหนังกำกับภาค 10 ปิดฉากหนังชุดนี้อีกด้วย เรียกได้ว่า แกได้กำกับหนังชุดนี้มากที่สุดและทำออกมาได้ดีกว่าผู้กำกับคนอื่นๆที่เคยได้กำกับหนังชุดนี้ คนเขียนบทก็ยังเป็น คริส มอร์แกน ที่เขียนบทให้หนังชุดนี้มาตั้งแต่ภาค 3-8 ก็รับหน้าที่เขียนบทให้หนัง
ฟาสภาคนี้อยู่ ในหนังภาคแยก Hobbs & Shaw แกก็ยังเขียนบทให้อยู่
ตัวร้ายในภาคนี้ ไม่ได้เป็นขุ่นแม่ ชาร์ลิส เธอรอน ในบท
ไซเฟอร์ เจ้าแม่ไอทีที่ภาคที่แล้วพวกดอมยังไม่ได้สู้อะไรกับนางมาก นางโดดร่มหนีไปก่อน ตัวหนังไม่ได้เล่าต่อจากเหตุการณ์ในภาตก่อนของนาง ในภาคนี้เปิดตัว ตัวร้ายคนใหม่ ที่แสดงโดยนักมวยปล้ำชื่อดังจากสมาคม WWE นั่นก็คือ จอห์น ซีน่า ที่พี่แกเคยสัมภาษณ์ไว้นานแล้วว่า แกอยากจะมาแจมแสดงในหนังชุดนี้ เหมือน เดอะ ร็อค
แกก็ได้มาแสดงสมใจอยาก ในบทวายร้ายคู่ปรับของดอมคนใหม่ แต่ก็ไม่รู้ว่าตัวหนังจะโยงเรื่องเชื่อมกับภาคแปดไหม ตัวร้ายคนใหม่อาจจะมีความเชื่อมโยงกับไซเฟอร์ก็เป็นได้
ทีมนักแสดงสมทบก็ยังเหมือนเดิม นอกจาก วิน ดีเซล ยอดพระเอกนักซิ่งในบท โดมินิค โทเร็ตโต้ ก็มี
มิเชลล์ ร็อดดิเกซ ในบท
เล็ตตี้ ภรรยาสุดแกร่งของดอม, ไทรีส กิ๊บสัน ในบท โรมัน เพียร์ซ นักซิ่งตัวโจ๊กประจำทีม, ลูคัส คริส ในบท เท็จ หนุ่มไอที, นาตาลี มูเอลล่า ในบท แรมซีย์ แฮ็กเกอร์สาวผมฟู, เคริต์ รัสแซล ในบท มิสเตอร์โนบอดี้
สายลับรุ่นเดอะ หน่วยข่าวกรองทหาร และ จอร์ดาน่า บรูสเตอร์ ในบท มีอา น้องสาวของดอม ภรรยาของ
ไบรอัน ในภาคนี้เธอจะกลับมาแสดงและตัวบทจะเด่นขึ้นกว่าภาคก่อนๆตามที่ทีมงานบอกไว้
ในส่วนของเนื้อหา การดำ
เนินเรื่อง ตัวบทต่างๆ ยังไม่มีการออกมาเปิดเผยว่าหนังจะมาในรูปแบบลักษณะไหน จะเล่าเรื่องต่ออย่างไร แต่ที่รู้แน่ๆคือ ฉากแอ็คชั่นจัดหนักจัดเต็มไม่แพ้ภาคก่อนๆแน่นอน โดยเฉพาะฉากขับรถไล่ล่าที่เป็นจุดขายหลักประจำแฟรนไซส์ชุดนี้ ที่ภาคก่อนๆ เราเห็นทั้ง ฉากขับรถลากตู้เซฟถล่มเมืองริโอ, ฉากขบวนรถซิ่งสู้กับรถถังบน
สะพานไฮเวย์ในประเทศสเปน, ฉากขับรถด้วยความเร็วสูงทะลุตึกสองตึก ในประเทศอาบูดาบี ภาคล่าสุด เล่นบุกฐานทัพรัสเซีย ขบวนรถซิ่งสู้กับเรือดำน้ำ มาเว่อร์ตามสเต็ปขึ้นเรื่อยๆ ภาคนี้ มาในไทย ไม่รู้พวกพี่ดอมจะได้รับภารกิจมาซิ่งรถทำอะไรอีกต้องรอดูครับ...
โลเคชั่นที่ถ่ายทำในภาคนี้ มีทั้งในเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ, เมืองในแถบประเทศแอฟริกาใต้, เมืองแอลเอ ประเทศสหรัฐอเมริกา และจังหวัดกระบี่ ประเทศไทย
ส่วน เดอะ ร็อค ที่เคยมีข่าวเกาเหลาไม่กินเส้นกับ วิน ดีเซล ที่เคยเป็นข่าวระหว่างการถ่ายทำภาคแปดนั้น พี่แกบอกว่าจะกลับมาแสดงในบท ลุค ฮ็ฮบบ์ เหมือนเดิมในภาคสุดท้าย ภาค 10 นั่นเอง ไม่ได้โกธรกันขนาดจะไม่กลับมาแสดงอีก แต่ที่แกไม่ปรากฏตัวในภาค 9 เพราะแกติดถ่ายทำหนังเยอะหลายเรื่องด้วยในปีนี้ถึงปีหน้า ปีนี้เดือนสิงหาคม ก็ได้เห็น พี่แกแสดงหนังคู่กับ
เจสัน สเตแธม อีก หนังภาคแยกฟาส Hobbs & Shaw ไปก่อน ผลงานการกำกับของ เดวิด ลินซ์ ผู้กำกับเรื่อง John Wick, Atomic Blonde และ Deadpool 2 รับประกันความดีงามและความมันจากฝีมือผู้กำกับคนนี้ได้เลยครับ
มาต่อกันในเรื่อง James Bond 25 หลังจากที่ไม่นานนี้ตัวนักแสดงนำอย่าง
แดเนี่ยล เคร็ก ได้รับบาดเจ็บระหว่างการถ่ายทำพี่เหี่ยวโหดแก ลื่นล้ม พักการถ่ายทำไปหลายสัปดาห์ ตอนนี้แกหายดีและกลับมาถ่ายทำเหมือนเดิมแล้ว โดยที่โลเคชั่นหลักในภาคนี้ อยู่ที่ประเทศจาไมก้า
ทีมนักแสดงหน้าเดิมนอกจากเคร็ก ก็มีนางเอกจากภาค Spectre เลอา แซดู นักแสดงสาวชาวฝรั่งเศส กลับมาแสดงในบทเดิม แฟนสาวของบอนด์, เรล์ฟ ไฟนส์ ผู้รับบทเป็น M หัวหน้าบอนด์คนใหม่ที่มาสานบทต่อจาก จูดี้
เด้นท์ M คนเก่านั่นเอง, เบน บิชอว์ ในบท Q ผู้ที่คอยประดิษฐ์สิ่งของนู้นนี่นั้นให้บอนด์ในการออกทำภารกิจ ทั้งรถเอย เครื่องมืออีเล็คโทรนิคต่างๆ พร้อมกับพูดตลอดทุกภาคว่า "นำอุปกรณ์มาคืนในสภาพเดิมด้วยนะ 007" ผลคือ ของที่แกประดิษฐ์บอนด์แมร่งทำพังทุกภาค 555
ผู้กำกับ ผมจำชื่อแกไม่ได้ ชื่ออ่านโคตรยาก รู้แต่เป็นลูกครึ่งอเมริกัน-ญี่ปุ่น
แปปนะ...หนังสายลับอังกฤษ ที่มีธรรมเนียมไม่เอาผู้กำกับหรือมือเขียนบท นอกสหราชอาณาจักร ทำไมภาคนี้เอามะกันลูกครึ่งญี่ปุ่นมากำกับ แหวกแนวมาก ยังไม่ค่อยเห็นมีผลงานเด่นๆ แกมาจากการกำกับซีรีย์เรื่อง True Detective แถมมีข่าวออกมาว่า พี่แกคนนี้มีปัญหาติดเกมอย่างหนัก ไม่ค่อยสนใจงาน มากองถ่ายสาย ทำให้ทีมนักแสดงและทีมงานเดือดร้อน เห้อ....หนัง 007 ภาคนี้ ดูท่าที แบบว่า... ออกมาดีเท่า Die Another Day รึเปล่าว๊าาาา 555 (ทำไมไม่เอา มาร์ติน แคมป์เบล มากำกับอะ แกทำภาค Goldeneye ของบอนด์เพรียซ์โคตรแจ่ม มากำกับในภาค Casino Royale ของ
บอนด์เคร็ก ก็โคตรโดน คิดถึงเฮียเบลเลยจริงๆ)
(แซม เมนเดส ไม่รู้มีใครเสียดายแกคนนี้เหมือนผมไหม คือ ก่อนหน้ามากำกับหนังบอนด์ แกมีผลงานหนังดีๆ หนังเข้าชิงรางวัลมากมาย ตอนมากำกับ บอนด์ภาค Skyfall โคตรจะดีงามทุกอย่าง แต่พอภาคล่าสุด Spectre ... กลับบ้านเก่าไปเลย เหมือนผู้กำกับคนละคนกับภาค Skyfall ไงอย่างงั้น)
ตัวร้ายในภาคนี้ นำแสดงโดย รามี มาเลค นักแสดงชาวอเมริกันที่เพิ่งคว้ารางวัลออสการ์ในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเรื่อง Bohemian Rhapsody ที่พี่แกสวมบทบาทฟร้อนท์แมน วงร็อคระดับตำนานของอังกฤษ วง Queen นั่นเอง และนักแสดงในบทเพื่อนของบอนด์จากภาค Casino Royale และ Quantum Of Solace สายลับมะกันซีไอเอ ฟีนิกซ์ เลเธอร์ ที่แสดงโดย เจฟฟรีย์ เวท ก็มาแสดงในภาคนี้ด้วย
ตัวร้ายในหนังบอนด์หลายภาคที่ผ่านมา ดีกรีระดับดาราออสการ์กันทั้งนั้น หลายคนที่แสดงแล้วน่าประทับใจ เป็นตัวร้ายที่ออกมาแย่งซีนพระเอก แต่หลายคนก็มาเสียของ อย่าง คริสตอฟ วอล์ซ ในภาค Spectre เป็นต้น คือ นอกจากบทจะทำให้เป็นตัวร้ายที่ดูกระจอกและโง่มากไม่พอ ยังไม่ให้บทการแสดงทางอารมณ์ดีๆกับแกอีก ลองไปเทียบกับ ตัวร้ายภาค
Casino Royale กับ Skyfall สิ คนละชั้นกันเลย กับตัวบทที่เขียนมาส่งตัวนักแสดง ก็ต้องรอดูครับว่าบทของตัวร้ายในภาคนี้ จะออกมาดูดีเท่าสองภาคนั้นรึเปล่า หรือ จะตกม้าตายในหนังฟอร์มใหญ่แบบ คริสตอฟ วอล์ซ ตัวร้ายภาค Quantum Of Solace บทไม่ดีเด่อะไรมาก แต่ยังดูดีกว่าบทของเฮีย
วอล์ซ นะครับ เสียดายเฮียวอล์ซในเรื่องนี้มาก เอาดาราออสการ์มาฆ่าชัดๆ
เนื้อย่อคร่าวๆของหนังในภาคนี้ ที่ทีมงานเผย เล่าเรื่องราวหลังภาค Spectre บอนด์ได้ลาออกจากหน่วยข่าวกรอง MI6 ไปอยู่กับแฟนสาวในประเทศจาไมก้า ได้ไม่นานนัก เพื่อนเก่าของบอนด์ ฟินิกซ์ สายลับซีไอเอ ได้มาขอความช่วยเหลือกับบอนด์ ให้ไปตามหานักวิทยาศาสตร์ที่ถูกจับตัวไป โดยองค์กรอาชญากรรมที่มีหัวหน้าเป็นผู้ร้ายที่เก่งด้านอุปกรณ์ไฮเทค
ฟังเรื่องย่อคร่าวๆมันดูเหมือนพล็อตหนังบอนด์ยุคเก่าอะ พวกบอนด์เพรียซ์ บอนด์มัวร์ ฟังดูลิเกๆไงไม่รู้ บอนด์เคร็กมันขายความดิบเถื่อน ดราม่า สมจริง แบบสามภาคแรก ภาค Spectre มันก็ลิเกๆแบบบอนด์คนก่อนๆล่ะ ภาคนี้ออกลิเกโบราณเลยล่ะ แถมผู้กำกับไม่ค่อยสนใจงานด้วย ติดเกม เห้อ...007 ภาคนี้ ดูจากหน้างานแล้ว เครียดแทนทีมงานผู้สร้างเลย เอา
มาร์ติน แคมป์เบล กลับมาเถอะ
ที่สำคัญที่สุดครับทั้ง Fast & Furious 9 และ Bond 25 นั่น หนังเข้าฉายในเดือนเดียวกัน คือ เดือนเมษายน 2020 นั่นเอง เรียกได้ว่า เป็นหนัง
แอ็คชั่นฟอร์มใหญ่แห่งปีทั้งคู่มาฉะกันเลย รายได้ของหนังคงพอๆกันแหละ ต้องอยู่ระดับ 300 ล้านขึ้น แฟนหนังสองเรื่องนี้ เฉพาะในไทยก็เยอะโคตร เรียกว่าดูควบเลย ทั้งฟาสและบอนด์ หนังกระแสดีทั้งสองเรื่อง แต่ตอนนี้นะ ผมกลับอยากดูฟาสมากกว่า ที่ดูตอนนี้จะอลังและเว่อร์กว่า เพราะ หนังบอนด์เคร็กจากที่ดูหน้างานพร้อมพล็อตเรื่องในตอนนี้ดูหนังจะไม่สนุก ลิเกๆ ไงไม่รู้ แต่ยังไงก็ดูแหละ เพราะติดตามมาตั้งแต่ Casino Royale