สวัสดีค่ะ
ดิฉันเป็นไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรัง (คาดว่าน่าจะติดมาตั้งแต่ตอนคลอด) ตรวจเจอครั้งแรกตอนอายุ 19 ปี เพราะต้องการบริจาคเลือดครั้งที่ 2 แต่โรงพยาบาลแจ้งว่า เป็นไวรัสตับอักเสบบี ไม่สามารถบริจาคเลือดได้อีกแล้ว จนกว่าจะหายขาดจากโรคนี้ ตอนนั่น ก็พยายามถามคุณหมอว่า ทำอย่างไรให้รักษาให้หาย แต่ทางคุณหมอแจ้งแค่ว่า มันยังรักษาไม่ได้ ให้ดูแลตัวเองดีดี ออกกำลังกาย และห้ามดื่มเหล้า เบียร์ ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่ได้ใส่ใจมาก แต่ก็ดูแลสุขภาพตัวเองเป็นอย่างดี จนมาอายุประมาณ 34 ได้รับข่าวสารเรื่องไวรัสตับอักเสบบี และมีคนเป็นมะเร็งตับสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากติดเชื้อไวรัสบีเรื้อรัง ควรมีการตรวจติดตามอาการ เลยเริ่มกังวล และเริ่มตรวจปลายปี 2013 เป็นครั้งแรก ปีนั้นผลเลือดดี ค่าตับปกติ จำนวนไวรัส 1750 Copies /ML, ครั้งที่ 2 ตรวจเมื่อปี 2016 ปรากฎว่า ค่าตับมีอักเสบนิดนิด ไวรัสประมาณ 20,050 Copies/mL คุณหมอแนะนำให้พักผ่อนให้มาก ให้มาตรวจอีกปีหน้า, ครั้งที่ 3 2017 ไปตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนอีกที่หนึ่ง ผลตับดีขึ้น แต่คุณหมอไม่นับจำนวนไวรัส ท่านบอกว่าไม่จำเป็น ผลอัลตร้าซาวตับก็ดูปกติ, ครั้งล่าสุด กลับไปหาคุณหมอที่โรงพยาบาลเอกชนเดิม เมื่อเสาร์ที่ผ่านมา ค่า ALP 60, AST 28 , ALT 11 , AFP 2.6 ทำ Fibro scan ตับ ผลที่ได้คือ 3.6 E(kPa) มีภูมิคุ้มกันไวรัสตับอักเสบชนิดเอ คุณหมอแจ้งว่าผลตับปกติ ไม่มีอักเสบ แต่จำนวนไวรัส มันเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 321,264 copies/mL คุณหมอแจ้งว่าจะทานยาไหม แต่ต้องทานไปตลอดชีวิตนะ เพื่อกดไวรัสไม่ให้เพิ่มจำนวนมากขึ้น และคุณหมอก็แจ้งอีกว่า คนไข้บางคนทานยาไปประมาณ 10-15 ปี ไวรัสก็ไม่กลับมาอีกเลย และหายจากโรคนี้ แต่เปอร์เซ็นต์มีน้อยมากมาก ดังนั้นคุณหมอขอนัดตรวจอีก 4 เดือนข้างหน้า ว่าจำนวนไวรัสมันเพิ่มขึ้นอีกไหม ส่วนตัวกำลังใจกังวลใจมากและลังเลใจว่า ถ้าตัดสินใจทานยา ตัวยาจะส่งกระทบต่อร่างกายด้านอื่นๆ หรือไม่ และกำลังคิดว่า ควรไปหาหมอที่โรงพยาบาลอื่น ๆ ด้วย เพื่อขอความคิดเห็นเพิ่ม เพื่อใช้ในการตัดสินในการรักษาอีกหรือไม่ เพื่อน ๆ คิดเห็นอย่างไร หรือใครมีประสบการณ์คล้ายกัน รบกวนช่วยให้คำแนะนำด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
เป็นไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรัง หมอแนะนำให้รักษา
ดิฉันเป็นไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรัง (คาดว่าน่าจะติดมาตั้งแต่ตอนคลอด) ตรวจเจอครั้งแรกตอนอายุ 19 ปี เพราะต้องการบริจาคเลือดครั้งที่ 2 แต่โรงพยาบาลแจ้งว่า เป็นไวรัสตับอักเสบบี ไม่สามารถบริจาคเลือดได้อีกแล้ว จนกว่าจะหายขาดจากโรคนี้ ตอนนั่น ก็พยายามถามคุณหมอว่า ทำอย่างไรให้รักษาให้หาย แต่ทางคุณหมอแจ้งแค่ว่า มันยังรักษาไม่ได้ ให้ดูแลตัวเองดีดี ออกกำลังกาย และห้ามดื่มเหล้า เบียร์ ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่ได้ใส่ใจมาก แต่ก็ดูแลสุขภาพตัวเองเป็นอย่างดี จนมาอายุประมาณ 34 ได้รับข่าวสารเรื่องไวรัสตับอักเสบบี และมีคนเป็นมะเร็งตับสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากติดเชื้อไวรัสบีเรื้อรัง ควรมีการตรวจติดตามอาการ เลยเริ่มกังวล และเริ่มตรวจปลายปี 2013 เป็นครั้งแรก ปีนั้นผลเลือดดี ค่าตับปกติ จำนวนไวรัส 1750 Copies /ML, ครั้งที่ 2 ตรวจเมื่อปี 2016 ปรากฎว่า ค่าตับมีอักเสบนิดนิด ไวรัสประมาณ 20,050 Copies/mL คุณหมอแนะนำให้พักผ่อนให้มาก ให้มาตรวจอีกปีหน้า, ครั้งที่ 3 2017 ไปตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนอีกที่หนึ่ง ผลตับดีขึ้น แต่คุณหมอไม่นับจำนวนไวรัส ท่านบอกว่าไม่จำเป็น ผลอัลตร้าซาวตับก็ดูปกติ, ครั้งล่าสุด กลับไปหาคุณหมอที่โรงพยาบาลเอกชนเดิม เมื่อเสาร์ที่ผ่านมา ค่า ALP 60, AST 28 , ALT 11 , AFP 2.6 ทำ Fibro scan ตับ ผลที่ได้คือ 3.6 E(kPa) มีภูมิคุ้มกันไวรัสตับอักเสบชนิดเอ คุณหมอแจ้งว่าผลตับปกติ ไม่มีอักเสบ แต่จำนวนไวรัส มันเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 321,264 copies/mL คุณหมอแจ้งว่าจะทานยาไหม แต่ต้องทานไปตลอดชีวิตนะ เพื่อกดไวรัสไม่ให้เพิ่มจำนวนมากขึ้น และคุณหมอก็แจ้งอีกว่า คนไข้บางคนทานยาไปประมาณ 10-15 ปี ไวรัสก็ไม่กลับมาอีกเลย และหายจากโรคนี้ แต่เปอร์เซ็นต์มีน้อยมากมาก ดังนั้นคุณหมอขอนัดตรวจอีก 4 เดือนข้างหน้า ว่าจำนวนไวรัสมันเพิ่มขึ้นอีกไหม ส่วนตัวกำลังใจกังวลใจมากและลังเลใจว่า ถ้าตัดสินใจทานยา ตัวยาจะส่งกระทบต่อร่างกายด้านอื่นๆ หรือไม่ และกำลังคิดว่า ควรไปหาหมอที่โรงพยาบาลอื่น ๆ ด้วย เพื่อขอความคิดเห็นเพิ่ม เพื่อใช้ในการตัดสินในการรักษาอีกหรือไม่ เพื่อน ๆ คิดเห็นอย่างไร หรือใครมีประสบการณ์คล้ายกัน รบกวนช่วยให้คำแนะนำด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ