แพทย์วินิจฉัย "น้ำตาล บุตรศรัณย์" เป็นวัณโรคหลังโพรงจมูก คือไม่มีอาการไรมาก่อน คือเป็นโรคที่น่ากลัวมาก


แพทย์วินิจฉัย "น้ำตาล บุตรศรัณย์" เป็นวัณโรคหลังโพรงจมูก

- พบจุดเลือดไหลที่หลังโพรงจมูกทและตัดชิ้นเนื้อบริเวณนั้นไปตรวจ 
- หลังจากตัดชิ้นเนื้อบริเวณนั้นไปแล้ว พบว่ามีเลือดไหลตามออกมาจำนวนมาก และตรวจพบว่ามีส่วนที่เข้ากับวัณโรค
- ในวันที่มาโรงพยาบาล น้ำตาลไม่มีอาการบ่งชี้ก่อนหน้านั้น จึงไม่สามารถคาดการณ์ได้
- คำแนะนำจากแพทย์ต่อประชาชนคือ ตรวจสุขภาพประจำปี จะช่วยได้เกือบ 80%
- ไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนก เพราะโอกาสเกิดแบบกรณีน้ำตาลมีน้อยมาก

ที่มาข่าว8 

นี่ไปหาจากข่าวมาเพิ่มของไทยรัฐ 

 สาเหตุ
* วัณโรคเป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ชื่อว่า Mycobacterium tuberculosis 
* วัณโรค เป็นโรคติดต่อทางการหายใจ โดยปกติเชื้อจะแพร่จากผู้ป่วยวัณโรคปอด ไปสู่บุคคลอื่นทางละอองเสมหะขนาดเล็ก
* วัณโรคเกิดได้ในทุกอวัยวะของร่างกาย ซึ่งจะแพร่กระจายการติดเชื้อไปยังอวัยวะอื่นๆ โดยกรณีนี้คือ โพรงจมูก
* วัณโรคส่วนใหญ่มักเกิดที่ปอด พบร้อยละ 80
* ส่วนวัณโรคนอกปอด เป็นผลมาจากการแพร่กระจายของการติดเชื้อไปยังอวัยวะอื่นๆ ได้แก่ เยื้อหุ้มปอด ต่อมน้ำเหลือง กระดูกสันหลัง ข้อต่อ ช่องท้อง ระบบทางเดินปัสสาวะ ระบบสืบพันธุ์ ระบบประสาท โพรงจมูก เป็นต้น 

 อาการสงสัยวัณโรคปอด
* ไอเรื้อรังนาน 2 สัปดาห์ขึ้นไปโดยไม่ทราบสาเหตุ (ผู้ป่วยบางรายไม่มีการไอ)
* อาการอื่นๆ ที่อาจพบได้ น้ำหนักลด เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย มีไข้
* ถ้ามีอาการอย่างน้อย 2 อาการขึ้นไป รีบตรวจหาวัณโรคที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน

- การป้องกันโรค
1.ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง
2.ตรวจสุขภาพอยู่เสมอ โดยเฉพาะตรวจการทำงานของปอด และการตรวจเสมหะ
3.เมื่อรู้ว่าร่างกายอ่อนแอ และต้องไปสถานที่ปิด เช่น ห้างสรรพสินค้า ควรใส่หน้ากากอนามัย
4.จับสังเกตว่า คนรับข้างที่ใกล้ชิดมีใครป่วยเป็นวัณโรคหรือไม่ เลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดผู้ป่วยวัณโรค
- วัณโรครักษาหายได้
“หากผู้ป่วยทราบว่าตนเองเป็นวัณโรค ผู้ป่วยสามารถไปพบแพทย์เพื่อรักษาให้หายได้ และปัจจุบันมียารักษาวัณโรคที่มีประสิทธิภาพสูง หากผู้ป่วยกินยาต่อเนื่องนาน 6 เดือนก็จะหายขาดได้ แต่ถ้าไม่มีวินัยและกินยาไม่ต่อเนื่อง จะเกิดการดื้อยา และใช้เวลารักษานาน 2-10 ปี” พญ.ผลิน กล่าว
“ปัญหาวัณโรคในเมืองไทยตอนนี้เยอะจริงๆ แต่สังคมไทยเราไม่พูดถึงโรคนี้ เพราะหลายคนมองว่า เป็นโรคที่น่ารังเกียจ ทั้งๆ ที่ไม่ได้น่ารังเกียจแต่อย่างใด และรักษาให้หายขาดได้” ผญ.ผลิน กล่าว
อย่างไรก็ดี ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ระบุว่า ในประเทศไทย วัณโรคไม่ได้น้อยลง โดยมีข้อมูลอ้างอิงว่าปี 2560 มีคนไข้ 80,000 คนที่เป็นวัณโรค โรคนี้ไม่ได้น่ากลัวหรือน่ารังเกียจ เรารักษาได้ นอกจากนี้เรายังมีข้อมูลว่า 83% เป็นวัณโรคที่เจอในปอด 17% เจอนอกปอด และน้อยกว่า 1% เจอที่หลังโพรงจมูก. 
https://www.thairath.co.th/news/local/1600450
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่