---

ก็อยากมาแชร์ประสบการณ์ รายละเอียดให้เพื่อนๆ ฟัง หรือเป็นแนวทางเผื่อใครสนใจจะไปเที่ยว ก็เป็นข้อมูลปี 2019 เลย ราคาทุกอย่างก็เป็นของปีนี้เลยถือว่าล่าสุดดดด (เพื่อนๆจะได้เอาไปวางแผนค่าใช้จ่ายกันถูกนะคะ)  ก็จะพยายามลงราคาค่าใช้จ่ายให้มากที่สุดนะคะ เนื่องจากทริปนี้บอกก่อนเลยว่า ไปแบบแบ็คแพ็ค ไปกันสองคน เน้นกินเน้นเที่ยวไม่คุมงบเนอะ  เน้นกินอยู่สบายๆ ไม่ลำบากมาก >U<  (รูปที่จะใช้ในการรีวิวนี้เป็นรูปถ่ายเองทั้งหมด ขออนุญาตไม่แต่งสีอะไรเลยนะคะ เพราะว่า ขก 555 แค่อยากรีวิวเฉยๆ และเก็บไว้ดูเองด้วย)
ที่มาของทริปนี้มาจากตัวเราเองซึ่งไปเห็นโปรตั๋วเครื่องบินของ มาเซียแอร์ไลน์ ในเฟสบุ๊ค ก็ทำการจองมาเลยจ้าา ไม่มีแผนใดๆ ทั้งสิ้น แค่รู้สึกว่าอยากไป แถมเป็นประเทศเพื่อนบ้านนี้เอง วีซ่าก็ไม่ต้อง งบก็คงไม่ใช้เยอะอะไร (เหรออ) จัดตั๋วเครื่องบินไป-กลับ มาในราคา 5,550 บาท ต่อคน  รวมทุกอย่างแล้ว ทั้งเลือกที่นั่ง อาหาร โหลดกระเป๋าคนละ 30 kg (เยอะจัง เยอะจนไม่รู้จะซื้ออะไรกลับมาดี ให้ครบ 60 kg เพราะไป 2 คน) เบ็ดเสร็จ ค่าตั๋ว 2 คน = 11,100 บาท อันนี้คือจองล่วงหน้าก่อนไปประมาณ 5 เดือน 
คือเราก็เข้ามาหาข้อมูลที่เที่ยวกัวลาลัมเปอร์ในพันทิปนะ ก็เห็นเค้าไปหางแดงราคาเบาๆ ก็แอบปวดใจเบาๆ 555 แต่ไม่เป็นไรจองไปแล้ว
จากนั้นใกล้ๆ เดินทางประมาณ 2 อาทิตย์ ก็ทำการเข้าแอป Klook ทำการจอง ซิมมือถือ sim 4G ของ Tune ได้เน็ต 15 GB (เล่นให้นำใจไปเลย บอกเลยเหลืออออ คือเราใช้ทุกอย่าง ยูทูป กู้เกิ้ลแมป เฟสบุค ไอจี อัพรัวๆ) ในส่วนของราคานั้น 170 บาทต่อซิม สั่งซื้อไป 2 = 340 บาท ซึ่งเราก็ไปรับซิมที่สนามบินได้เลย เป็นบูธอยู่ตรงจะเข้า ตม. ขวามือ   และเราก็ได้จองตั๋ว รถไฟ KLIA ekspres Airport train ใน klook เช่นกัน มันจะมีโลโก้สีม่วงๆอ่ะ คือจากที่ไปศึกษามา จากสนามบินไปในเมืองมันค่อนไกล ( 30 กิโลมั่ง ) มันใช้เวลาไง ก็เลยอยากไปถึงเร็วๆ และสะดวกสบาย ก็กดซื้อเลย ซื้อแบบตั๋วไปกลับ ประมาณ 700 บาทต่อคน จองไป 2 คน = 1,400 บาท ก็คือไว้ใช้เข้าเมืองวันแรก และใช้ไปสนามบินวันกลับ

อ่ะ สรุป คชจ ก่อนวันเดินทางจริง ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ 11,100 + ค่าห้อง 3 คืน 2,652.69 + ค่าซิม 340 + รถไฟฟ้าความเร็วสูง ไป-กลับ 1,400 = 15,492.69 บาทถ้วนนน (น้ำตาจิไหลลล)

วันเดินทาง 12 -15 เมษา
 วันที่ 1 
ขึ้นแทคซี่ไปสนามบินสุวรรณภูมิ  ไปถึงเช็คอินเลย คือวันนั้นคนเยอะมากทั้งไทยและเทศ จากนั้นไปนั่งรอที่เกท รอบที่เราไปคือ ออกจากไทย 11:15 น. แต่ไปถึงกัวลาลัมเปอร์ 14:30 น.
พอถึงเวลาเราก็ขึ้นเครื่อง รู้สึกว่าตอนไปจะเป็นแอร์บัส ลำใหญ่มาก คนก็เยอะด้วย 
อะรีวิว มาเลเซียแอร์ไลน์ซะหน่อย
ถุงน้ำเงินขาว คือถั่วนะจ๊ะ ไม่กล้ากินบนเครื่อง กลัวลั่น

ของกินก็น่าตาประมาณนี้ มีสองเมนูให้เลือก ก็เลือกมายางล่ะ 1 เพราะไปสองคน รสชาติโอเคนะ น้ำก็แล้วแต่เรา มีนั่ง เพลง ให้เราดู ที่นั่งกว้าง สบายๆ สภาพเครื่องบินไม่เก่าไม่ใหม่มาก อยู่บนเครื่องประมาณ 2 ชม ก็ถึงสนามบิน ต้องบอกเลยว่า กัวลาลัมเปอณ์มี 2 สนามบิน KLIA 1 และ KLIA 2 ของเราลงที่ KLIA 1 (ก่อนหน้าที่ไปหารีวิวเก่าๆ เจอแต่คนบอกเส้นทางของ KLIA 2 แต่เรามาลง 1 ไง ก็ยัง งงๆอยู่ ณ ตอนนั้น )

จากนั้นลงเครื่องโดยสวัสดิภาพ
ภาพเอียงอ่ะ

        หลังจากที ถึงสนามบินเราก็ KLIA 1 เราก็เออไม่รู้ไปไงต่อ ก็เดินๆตามคนอื่นไป + ดูป้าย อ่ะไปถึงเราจะเจอเหมือน ขบวนรถไฟฟ้าอ่ะที่มันจะเชื่อมไป หา ตม. ตอนแรก ก็งง ก็ไปถามการ์ดว่าไป ตม ไง เค้าบอกขึ้นไปเลย รถไฟฟ้านี้แหละ ก็เลยขึ้นมา จากนั้นมันจะไปส่งเราลงที่อีกตึกหนึ่ง ลงมาก็เดินไปเรื่อยๆ จะเห็น ตม. แต่อย่าพึ่งเข้านะ ให้เราแวะบูธซิมก่อน ก็โชว์วอยเชอร์จากแอป Klook ที่เราทำการแคปรูปไว้ให้พนักงานดู เค้าก็โอเค เปลี่ยนซิม เซตทุกอย่างให้เราเรียบร้อย จากนั้นเข้า ตม. ออกมารับกระเป๋า เรียบร้อย ก็ถึงเวลาเข้าเมืองจ้าาา

ต้องบอกเลยว่า วิธีเข้าเมืองกัวลาลัมเปอร์ มีทั้งหมดคราวๆ น่าจะ 3 ทาง คือหนึ่ง ไปรถไฟความเร็วสูงที่เราจองไว้  สองไปรถไฟแบบทรานซิท คืออันนี้ก็โอเคแต่มันจะแวะหลายสถานีหน่อยเสียเวลานิดนึ่ง กับวิธีสุดท้ายคือ นั่งรถบัสเข้าเมือง อันนี้ราคาถูกกว่าสองแบบแรกมากกก แต่ใช้เวลา รถไม่ติดก็ประมาณ 1 ชม หรือมากกว่านั้นแล้วแต่สภาพการจราจรของวันนั้น

สำหรับทริปนี้ได้ทำการจองรถไฟความเร็วสูงไว้ใน Klook เราก็ทำการเปิดตั๋วเลยคือจะได้เป็นเมลล์มา มี 2 หน้า จะมีแถบบาร์โค้ดด้านบน เวลาใช้ให้แบ่งนะคะ บาร์โค้ดอันไหนใช้ ขาไป อันไหนใช้ขากลับ จำให้ดีๆ  ไปถึงทางเข้าไม่ต้องทำการติดต่อเจ้าหน้าที่ใดๆ ก็เปิดบาร์โค้ดอันแรกของเรา (คือเราได้เป็น PDF มาก็กดที่โทรศํพท์แล้วซูมให้ใหญ่ๆ )  แล้วสแกนลงที่ทางเข้าเลย ประตูก็เปิด แล้วเดินเข้าสวยๆ สบายมากก คือแนะนำเลย

จากนั้นก็มานนั่งรอที่สถานีรถมาก็ขึ้นเลย ที่นั่งด้านในดี คือมันจะนั่งหันหน้าเข้าหากันนะ ฝั่งหนึ่งนั่งได้ 2 คน ที่นั่งกว้างสบาย มีที่วางสัมภาระเป็นสัดส่วนดี และมี FREE WIFI !!!!! ใช้เวลประมาณ 30 นาที ก็ถึง KL Sentral (คล้ายๆ หมอชิตบ้านเรา แบบเป็นศูนย์รวมการเดินทางทุกรูปแบบ) 

(ขออภัยในความภาพเอียงนะคะ)
  ในที่สุดก็มาถึง KL Sentral แล้วนะคะ ในส่วนโรงแรมที่เราจองไว้นั้น ต้องเดินขึ้นบันไดเลื่อนขึ้นไปห้าง NU Sentral นะคะ เดินขึ้นไปเสร็จ ก็ลงบันไดเลื่อนในห้าง 1 ชั้นขวามือ แล้วเดินออกประตูใสๆและลงบันไดอีกครั้งหนึ่ง ( คือเปิดแมปหรือถามคนแถวนั้นก็ได้นะคะ ถ้า งง ) 
 ในส่วน รร. ของเรานั้น Metro Hotel@ KL Sentral จะมีป้าย ขาวม่วงๆอยู่ด้านหน้าเลยตึกข้างจะเป็นร้านอาหารอินเดีย ก็เดินไปที่เคาร์เตอร์ทำการเช็คอิน
จ่ายค่าภาษีไป 30 ริงกิตนะคะ 10 ริงกิตต่อหนึ่งคือ และเสียค่ามัดจำอีด 20 ริงกิต (ได้คืนตอนเชคเอาร์) ทุกอย่างจะมีใบเสร็จแจ้งรายการไว้หมดนะคะ เราได้ห้อง 513 ค่ะ ไปดูห้องกานนนนน

ห้องก็โอเคนะ ไม่เล็กไม่ใหญ่มาก สำหรับเราราคานี้ก็โอเค ห้องน้ำลืมถ่ายรูปแต่ก็ดูดีในระดับนึ่งแต่ไม่ถึงกับว้าวนะจ๊ะ พนักงานก็บริการดี โรงแรมมีลิฟท์นะคะ แถมคนมาพักเยอะด้วย ถ้าใครจะไปแต่ไม่รู้จะไปพักไหน ก็แนะนำนะ หาของกินง่ายด้วย

แล้วจากนั้นเราก็พึ่งนึกได้ว่าไม่ได้เอาอเดปเตอร์สำหรับหัวชาร์ตมา !!! แต่คือโชคเข้าข้างเราเพราะในห้องรูสายชาร์ตเป็นแบบที่ไทยเลย สามารถใช้ด้วยกันได้ เฮ้อออ โล่งอกไป หมดปัญหาเรื่องสายชาร์ตจ้า สำหรับ รร. นี้ หลังจากพักผ่อน เก็บของ 30 นาที เราก็ออกตะลุยเที่ยวเลยค่ะ