แอร์โฮสเตตกับมนุษย์นมแม่

แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
นี่คือตัวอย่างของวิธีคิดแบบเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล

กฏเกณฑ์เค้ามีให้ทุกคนปฏิบัติเหมือนๆ กัน
แต่บางคน (ทั้งที่รู้กฏเกณฑ์) แต่ไม่ปฏิบัติ
และยังพยายามเรียกร้องให้คนอื่นผ่อนปรนตามตัวเอง
พอเค้าไม่ยินยอมผ่อนปรนให้
กลายเป็นเค้าผิด ไม่มีน้ำใจ ฯลฯ

สังคมวุ่นวายก็เพราะวิธีคิดแบบนี้ครับ
ความคิดเห็นที่ 6
แอร์ฯ ทำถูกแล้วค่ะ  ขอแสดงความชื่นชม
เรื่องความปลอดภัยบนเครื่องบิน เป็นกฎสากล
   เราเองก็มีลูกค่ะ  มี3คน ตอนที่พวกเค้ายังกินนมแม่ ก็กินเต้าล้วนกัน
แต่ทุกครั้งที่พาลูกๆขึ้นเครื่องบิน เราปฎิบัติตามกฎทุกอย่าง
คือ พอให้นมเสร็จ เราก็ให้ลูกๆนั่งคาร์ซิทของตนเอง เพราะเชื่อว่าจะปลอดภัยกว่าวิธีอื่นๆ
ความคิดเห็นที่ 11
คุณแม่ควรศึกษากฏระเบียบการนั่งเครื่องกับเด็กเล็กให้เรียบร้อยก่อนนะคะ​ การที่ลูกร้องไม่ได้เป็นเพราะแอร์ปลุก​ แต่เป็นเพราะแม่ไม่จัดการต่างๆให้เรียบร้อยก่อนลูกจะหลับ​ เช่น​ บอกลูกล่วงหน้า​ เตรียมความพร้อม​ อธิบายด้วยนิทานหรือรูปภาพก่อนเดินทาง​ (3​ ขวบ​ รู้เรื่องพอสมควร)​  พอเด็กวัยนี้ถ้าโดนปลุก​ ​ง่วง​ เหนื่อย​ หิว​ โอกาสร้องอาละวาด​ tantrum​ มีสูงมาก​ และจะรบกวนคนอื่นในที่สุดค่ะ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น​ ต่อให้ร้องอาละวาดยังไง​ ถ้ารัดเข็มขัดอยู่ก็ปลอดภัยค่ะ​ แอร์ทำถูกแล้วค่ะ
ความคิดเห็นที่ 10
จขกท เคยดูคลิปที่เครื่องบินตกหลุมอากาศแล้วผู้โดยสารตัวลอยไปกระแทกเพดานเครื่องบินคอหักตายไหมคะ ถ้าไม่เคยดูหาดูซะนะคะ คุณจะได้เข้าใจว่าทำไมแอร์ถึงต้องให้ผู้โดยสารทำตามกฎ ก็เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร

ไม่ต่างกับเรื่องหมวกกันน็อค กฎหมายบังคับคนขี่มอเตอร์ไซด์ให้ต้องสวมหมวกกันน็อคก็เพื่อป้องกันกะโหลกของของผู้ขับเอง แต่ก็ไม่ชอบสวมกันพอถูกจับก็ออกมาโวยวาย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่