คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
เรื่องการย้ายราชธานีน่าจะเป็นแนวความคิดจากแบบเรียนสมัยรัฐนิยม
ในความเป็นจริงเมืองหลวงของไทยไม่เคยย้ายไปไหน เพียงแค่ขยายเขตพระบรมมหาราชวังไปยังฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาเท่านั้นเอง
หลักฐานคือคลองคูเมืองธนบุรีฝั่งตะวันออก ที่ใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ ยาวไปจนถึงปากคลองตลาดนั้น เป็นคูเมืองที่ขุดขึ้นในสมัยกรุงธนบุรี
(ปัจจุบันริมคลองคูเมืองเดิมข้างศาลฎีกามีการขุดพบแนวฐานรากกำแพงเมือง)
ดังนั้นพระบรมมหาราชวังในสมัยรัตนโกสินทร์จึงตั้งอยู่ภายในเขตกำแพงเมืองธนบุรีและคูเมืองธนบุรีเดิม
และวังทางฝั่งธนบุรีก็ยังคงสถานะเป็นวังดังเดิม เพียงแค่เปลี่ยนเป็นพระราชวังเดิม กับวังหลัง
และฝั่งธนบุรีก็ยังเป็นย่าน CBD ในสมัยนั้นเนื่องจากบรรดาผู้ดีเก่าและบ้านขุนนางผู้มีอิทธิพลทางการค้าและเศรษฐกิจล้วนแต่อยู่ทางฝั่งธนฯ เช่นขุนนางตระกูลบุนนาค กลุ่มมุสลิมกับฝรั่ง เช่นชุมชนกุฎีจีน ส่วนทางฝั่งตะวันออกยังเป็นทุ่งนาเสียส่วนมาก
ความเจริญของพระนครแบบสมัยใหม่เริ่มมาจากชุมชุนชาวจีนที่ถูกไล่ที่ทำวัง ที่ย้ายจากพระบรมมหาราชวังมาตั้งบ้านเรือนแถบเยาวราช ราชวงศ์ สีลม บางรัก เจริญนคร วงเวียนใหญ่
กับแขกซิกข์ย่านสี่แยกบ้านแขก พาหุรัด และกลุ่มฝรั่งที่เข้ามาตั้งบริษัทค้าขายใกล้กับสถานทูตของตนแถวสาทร สีลม บางรัก ปทุมวัน สุขุมวิท
ทำให้ที่ดินย่านผู้ดีเก่า ขุนนางเก่า ของฝั่งธนฯ ลดบทบาทลง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะฝั่งธนบุรีไม่มีสถานทูตของต่างชาติ เมื่อไม่มีสถานทูตและไม่ใกล้สถานทูต บริษัทห้างร้านของชาวต่างชาติจึงไม่ได้ตั้งในฝั่งธนฯ
ความเจริญจึงไปอยู่ทางฝั่งกรุง ส่วนฝั่งธนฯก็กลายเป็นย่านโบราณทางประวัติศาสตร์ จะเจริญก็เพียงเขตธนบุรี บางกอกใหญ่ บางกอกน้อย
ในความเป็นจริงเมืองหลวงของไทยไม่เคยย้ายไปไหน เพียงแค่ขยายเขตพระบรมมหาราชวังไปยังฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาเท่านั้นเอง
หลักฐานคือคลองคูเมืองธนบุรีฝั่งตะวันออก ที่ใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ ยาวไปจนถึงปากคลองตลาดนั้น เป็นคูเมืองที่ขุดขึ้นในสมัยกรุงธนบุรี
(ปัจจุบันริมคลองคูเมืองเดิมข้างศาลฎีกามีการขุดพบแนวฐานรากกำแพงเมือง)
ดังนั้นพระบรมมหาราชวังในสมัยรัตนโกสินทร์จึงตั้งอยู่ภายในเขตกำแพงเมืองธนบุรีและคูเมืองธนบุรีเดิม
และวังทางฝั่งธนบุรีก็ยังคงสถานะเป็นวังดังเดิม เพียงแค่เปลี่ยนเป็นพระราชวังเดิม กับวังหลัง
และฝั่งธนบุรีก็ยังเป็นย่าน CBD ในสมัยนั้นเนื่องจากบรรดาผู้ดีเก่าและบ้านขุนนางผู้มีอิทธิพลทางการค้าและเศรษฐกิจล้วนแต่อยู่ทางฝั่งธนฯ เช่นขุนนางตระกูลบุนนาค กลุ่มมุสลิมกับฝรั่ง เช่นชุมชนกุฎีจีน ส่วนทางฝั่งตะวันออกยังเป็นทุ่งนาเสียส่วนมาก
ความเจริญของพระนครแบบสมัยใหม่เริ่มมาจากชุมชุนชาวจีนที่ถูกไล่ที่ทำวัง ที่ย้ายจากพระบรมมหาราชวังมาตั้งบ้านเรือนแถบเยาวราช ราชวงศ์ สีลม บางรัก เจริญนคร วงเวียนใหญ่
กับแขกซิกข์ย่านสี่แยกบ้านแขก พาหุรัด และกลุ่มฝรั่งที่เข้ามาตั้งบริษัทค้าขายใกล้กับสถานทูตของตนแถวสาทร สีลม บางรัก ปทุมวัน สุขุมวิท
ทำให้ที่ดินย่านผู้ดีเก่า ขุนนางเก่า ของฝั่งธนฯ ลดบทบาทลง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะฝั่งธนบุรีไม่มีสถานทูตของต่างชาติ เมื่อไม่มีสถานทูตและไม่ใกล้สถานทูต บริษัทห้างร้านของชาวต่างชาติจึงไม่ได้ตั้งในฝั่งธนฯ
ความเจริญจึงไปอยู่ทางฝั่งกรุง ส่วนฝั่งธนฯก็กลายเป็นย่านโบราณทางประวัติศาสตร์ จะเจริญก็เพียงเขตธนบุรี บางกอกใหญ่ บางกอกน้อย
แสดงความคิดเห็น
สมมติกรุงเทพราชธานีใหม่ไม่ย้ายฝั่ง ยังอยู่ฝั่นธน คิดว่าความเจริญจะเป็นอย่างไรเทียบกับตอนนี้ จากสภาพแวดล้อม พื้นที่