ได้บัตรจากการเล่นกิจกรรมกับเพจช่องเจ็ด ซึ่งพอไปถึงหน้าโรง ให้มาตั้งสองใบ ให้มาทำไมตั้งเยอะแยะน้อ ตอนเรื่อง Appwar ผมก็ได้ทำกิจกรรมชิงรางวัลรับบัตรฟรีเหมือนกัน แต่เขาแจกใบเดียว หรือว่าคนละจุดประสงค์กันรึ
สำหรับเรื่องรัก 2 ปียินดีคืนเงิน โทนเรื่องทำให้นึกถึงหนัง Appwar, ATM เออรักเออเร่อ และก็ยอดมนุษย์เงินเดือน เพราะมีการแข่งขันกันตอนแรก พระเอกจะทำให้คู่รักที่สมัครกรมธรรม์เลิกกัน แต่นางเอกจะทำให้คู่รักเหล่านั้นคบกันต่อ โดยใช้วิชาสถิติในคณิตศาสตร์ประกันภัยมาทำเป็นพล็อต ภายใต้ธีมความรักที่ควรปล่อยให้อารมณ์ (หัวใจ) นำพามากกว่าหลักฐานข้อมูลที่เป็นตัวเลข ซึ่งเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก แต่ทำไปไม่สุด แล้วยิ่งโฆษณาว่ามีผู้กำกับหนังเรื่องนู้นเรื่องนี้ที่มีกระแสมาทำ เลยคิดว่าหนังควรทำออกมาได้ดีกว่านี้สิ จะได้สมกับที่โปรโมท เพราะว่าช่วงหลังเรื่องยืดไป และดูไม่จำเป็นหลายฉาก เอาไปให้นักแสดงสมทบที่เป็นคู่รักได้ออกอากาศนานขึ้นดีกว่า
เพราะว่ามีหลายคู่เกินไป และออกไม่นาน ทำให้ซึ้งยากตอนจะเลิกกันหรือคบกันต่อ ลำดับภาพและเรื่องยังฉับไวแปลก ๆ อยู่ ชอบอยู่คู่เดียวคือคู่แรกที่นิวเคลียร์ หรรษา เล่นคู่กับใครไม่รู้ เพราะออกนานสุดและเส้นเรื่องพอทำให้ผมอินได้
ส่วนนักแสดงเล่นดีงามตามท้องเรื่อง แต่มันก็จะตะขิดตะขวงนิดหน่อย เพราะมองหน้าปั้นจั่นให้เป็นปกติได้ยาก และไม่ค่อยเหมาะกับบทเท่าไหร่ เพราะตัวละครจะออกแนวแบบหนุ่มเนิร์ดคณิตศาสตร์ แต่รูปทรงองค์เครื่องปั้นจั่นยังให้ไม่สุดอะ ก็เหมือนพนักงานคนนึงที่ชอบวิชาคณิต แค่ใส่แว่นตาไม่ได้ทำให้ดูกลายเป็นหนุ่มเนิร์ดได้ทุกคนหรอกนะ ถ้าสลับเอาตุล (จำชื่อตัวละครไม่ได้) มาเล่นเป็นพระเอกแทน อาจจะเข้าเค้า ส่วนเอสเธอร์เล่นน่ารักมาก ไม่ใช้การแสดงแบบละคร ทำให้ดูออกมาธรรมชาติและไม่เวอร์จัด เคมีสองคนนี้ก็เข้ากันดีอยู่นะ ยิ่งถ้าปั้นจั่นไม่มีข่าวเสียหายซะก่อน คนดูอาจฟินกว่านี้
ชอบที่ในเรื่องมีการประกวดเพลงแร็ป แต่ไอ่ฉากที่จี๊ด (เอสเธอร์) วิ่งฝันอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์สีม่วง และมีผู้ชายอีกสองคนที่เคยมีเรื่องกันมาร้องแร็ปอ้อล้อใส่คือมันไม่เข้ากับบรรยากาศเรื่องในตอนนั้นใด ๆ ทั้งปวงนานาประการสารพันอันอย่าง 555 ถ้าจะอยากให้มีแร็ปเพลงในเรื่อง คิดฉากใหม่ที่เข้ากว่านี้เถอะ และอีกอย่างที่ชอบคือในเรื่องจะมีคำคมความรักที่แบบ เออ...คิดได้ไงอะ แปลกและลึกซึ้งดี แถมมีหลายฉากที่นางเอกจะพูดจากึ่งประชดพระเอกบ้าง แต่ผมขำ เพราะว่าเหมือนบทคำพูดนั้นกำลังแอบด่าปั้นจั่นกับข่าวของเขาตอนนี้จริง ๆ
สรุปทั้งหมดทั้งมวลให้คะแนน 6.5/10 ละกัน เพราะโดยรวมหนังก็ฮาและน่ารักดี แต่พล็อตยังมีจุดแปลก ๆ อยู่บ้าง จะเรียกว่าหลวมก็ไม่แน่ใจนะ คือหาประเด็นมาใส่พล็อตได้น่าสนใจดีแล้ว แต่พอเอามาทำเป็นโรแมนติกคอเมดี้แบบทั่วไป เลยเสียดายว่าน่าจะทำให้ว้าวไปเลย
(Review) จากคนได้บัตรฟรีไปดูเรื่อง "รัก 2 ปี ยินดีคืนเงิน" มาครับ
สำหรับเรื่องรัก 2 ปียินดีคืนเงิน โทนเรื่องทำให้นึกถึงหนัง Appwar, ATM เออรักเออเร่อ และก็ยอดมนุษย์เงินเดือน เพราะมีการแข่งขันกันตอนแรก พระเอกจะทำให้คู่รักที่สมัครกรมธรรม์เลิกกัน แต่นางเอกจะทำให้คู่รักเหล่านั้นคบกันต่อ โดยใช้วิชาสถิติในคณิตศาสตร์ประกันภัยมาทำเป็นพล็อต ภายใต้ธีมความรักที่ควรปล่อยให้อารมณ์ (หัวใจ) นำพามากกว่าหลักฐานข้อมูลที่เป็นตัวเลข ซึ่งเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก แต่ทำไปไม่สุด แล้วยิ่งโฆษณาว่ามีผู้กำกับหนังเรื่องนู้นเรื่องนี้ที่มีกระแสมาทำ เลยคิดว่าหนังควรทำออกมาได้ดีกว่านี้สิ จะได้สมกับที่โปรโมท เพราะว่าช่วงหลังเรื่องยืดไป และดูไม่จำเป็นหลายฉาก เอาไปให้นักแสดงสมทบที่เป็นคู่รักได้ออกอากาศนานขึ้นดีกว่า
เพราะว่ามีหลายคู่เกินไป และออกไม่นาน ทำให้ซึ้งยากตอนจะเลิกกันหรือคบกันต่อ ลำดับภาพและเรื่องยังฉับไวแปลก ๆ อยู่ ชอบอยู่คู่เดียวคือคู่แรกที่นิวเคลียร์ หรรษา เล่นคู่กับใครไม่รู้ เพราะออกนานสุดและเส้นเรื่องพอทำให้ผมอินได้
ส่วนนักแสดงเล่นดีงามตามท้องเรื่อง แต่มันก็จะตะขิดตะขวงนิดหน่อย เพราะมองหน้าปั้นจั่นให้เป็นปกติได้ยาก และไม่ค่อยเหมาะกับบทเท่าไหร่ เพราะตัวละครจะออกแนวแบบหนุ่มเนิร์ดคณิตศาสตร์ แต่รูปทรงองค์เครื่องปั้นจั่นยังให้ไม่สุดอะ ก็เหมือนพนักงานคนนึงที่ชอบวิชาคณิต แค่ใส่แว่นตาไม่ได้ทำให้ดูกลายเป็นหนุ่มเนิร์ดได้ทุกคนหรอกนะ ถ้าสลับเอาตุล (จำชื่อตัวละครไม่ได้) มาเล่นเป็นพระเอกแทน อาจจะเข้าเค้า ส่วนเอสเธอร์เล่นน่ารักมาก ไม่ใช้การแสดงแบบละคร ทำให้ดูออกมาธรรมชาติและไม่เวอร์จัด เคมีสองคนนี้ก็เข้ากันดีอยู่นะ ยิ่งถ้าปั้นจั่นไม่มีข่าวเสียหายซะก่อน คนดูอาจฟินกว่านี้
ชอบที่ในเรื่องมีการประกวดเพลงแร็ป แต่ไอ่ฉากที่จี๊ด (เอสเธอร์) วิ่งฝันอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์สีม่วง และมีผู้ชายอีกสองคนที่เคยมีเรื่องกันมาร้องแร็ปอ้อล้อใส่คือมันไม่เข้ากับบรรยากาศเรื่องในตอนนั้นใด ๆ ทั้งปวงนานาประการสารพันอันอย่าง 555 ถ้าจะอยากให้มีแร็ปเพลงในเรื่อง คิดฉากใหม่ที่เข้ากว่านี้เถอะ และอีกอย่างที่ชอบคือในเรื่องจะมีคำคมความรักที่แบบ เออ...คิดได้ไงอะ แปลกและลึกซึ้งดี แถมมีหลายฉากที่นางเอกจะพูดจากึ่งประชดพระเอกบ้าง แต่ผมขำ เพราะว่าเหมือนบทคำพูดนั้นกำลังแอบด่าปั้นจั่นกับข่าวของเขาตอนนี้จริง ๆ
สรุปทั้งหมดทั้งมวลให้คะแนน 6.5/10 ละกัน เพราะโดยรวมหนังก็ฮาและน่ารักดี แต่พล็อตยังมีจุดแปลก ๆ อยู่บ้าง จะเรียกว่าหลวมก็ไม่แน่ใจนะ คือหาประเด็นมาใส่พล็อตได้น่าสนใจดีแล้ว แต่พอเอามาทำเป็นโรแมนติกคอเมดี้แบบทั่วไป เลยเสียดายว่าน่าจะทำให้ว้าวไปเลย