เครียดหนัก รถถูกชน อู่บอกมีสิทธิ์ ตีเป็นซาก แต่ทุนประกันน้อยกว่ายอดผ่อนไฟแนนซ์เยอะ

เรื่องมีอยู่ว่า แฟนผมขับรถอยู่ดีดี อีกฝ่ายมาชน เต็ม ๆ
ประกันชั้น 1 อู่ทั้งคู่ ผมเป็นฝ่ายถูก 100% แฟนไม่เป็นไรมาก
อู่ ส่ง ประเมินให้ประกัน อู่บอกผมว่ามีสิทธิ์ตีคืนซาก
ผมเพิ่งจัดไฟแนนซ์ใหม่ 490,000 แต่ทุนประกันแค่ 360,000 บาท
ถ้าเป็นแบบนี้ผมต้องจ่ายส่วนต่างเกือบแสนห้า เครียดหนักเลยครับ
รถเราขับอยู่ดีดี รถใช้งานทำมาหากิน ใครพอจะมีวิธีดีดีบ้างครับ 

อธิบายเพิ่มนะครับเรื่องใช้ประกันของใคร

- ประกันของผม เมืองไทย ผมถูก 100 % จากตำรวจ และอีกฝ่ายคือไอโออิ ครับ

-ประกันของผม และถามพี่ๆ ที่แผนกประกัน แผนกเคลม เค้าว่าต้องใช้ประกันเราก่อนตามกฏแล้ว

ประกันเราจะไปเอาจากประกันอีกฝั่งเองครับ

-ถามอู่แล้ว ไม่ถึงเกียร์แตกครับ น่าจะซ่อมได้ อาทิตย์นี้เมืองไทยจะติดต่ออู่กลับมาเรื่องอะไหล่เคลม

-อีกฝั่งเงียบหายเลยครับ เด็กวัยรุ่น ผมเคยคุยต่อหน้าหมวดเวรเรื่องจะเอารถเข้าศูนย์ ส่วนต่างจ่ายคนละครึ่งเพราประกันอู่

แต่เค้าไม่ยอมจ่ายสักบาทเดียว

สรุปผมคงรอผลจากประกันเมืองไทยก่อนนะครับ ว่าซ่อมได้มั้ย ยังงัย

ขอบคุณทุกๆคนมากครับ

*** อัพเดทนะครับ ประกันซ่อมครับ ตอนนี้กำลังจ่ายอะไหล่ครับ ****
ผมจะมาอัพเดทการซ่อมรถให้เรื่อยๆนะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ก็ฟ้องแพ่ง เรียกค่าเสียหายจากคู่กรณีเพิ่มเติม
ความคิดเห็นที่ 11
1. ประกันฝั่งเรา​ ชดใช้เราตามมูลค่าเสียหายไม่เกินทุนประกัน

ประกันฝ่ายเรา​ เรียกร้องค่าเสียหายที่ชกเชยให้เราจากผู้กระทำให้เกิดความเสียหาย

2. ส่วนเสียหายส่วนที่นอกเหนือจากประกันชดเชยให้ผู้เสียหาย

ผู้เสียหายต้องเรียกร้องขอชดเชย​ ค่าเสียหายจากผู้กระทำให้เกิดความเสียหายเองโดยตรง

สรุปคือ​ ประกันฝั่งเราออกให้ก่อน​ ในส่วนไม่เกินทุนประกัน​ แล้วประกันจะไปเรียกร้องค่าเสียหายจากคู่กรณีอีกทอด

ในส่วนที่เกินทุนประกัน​ เราต้องไปทำเรื่องเรียกร้องค่าเสียหายจากคู่กรณีโดยตรงแทน

ซึ่งต้องเรียกร้องจาก​ บริษัทประกันของคู่กรณี​ และคู่กรณี​ เป็นจำเลยที่​ 2 และ​ 1

แม้บริษัทประกันเดียวกัน​ ก็ถือว่าต่างวาระ
เนื่องจาก​ การที่บริษัทประกันชดเชยให้เราคือ
เป็นสัญญาทางแพ่ง​ ของเรากับบริษัทประกันตามข้อ​ 1

ดังนั้น​ บริษัทประกันชดเชยตามสัญญาทางแพ่งที่ทำไว้แล้ว​ ดังนั้นสัญญาชดเชยความเสียหายจากกรรมธรรม์​ของฝั่งเรา​ จบแค่นี้

ส่วนที่เกินจากนั้น​ เป็นการชดใช้ความเสียหายตามข้อ​ 2 ซึ่งเราต้องเรียกร้องค่าเสียหายส่วนเกินจากคู่กรณี​ (เพราะค่าเสียหายตามข้อ​ 1 เรารับผลประโยชน์​แล้ว​ และยกอำนาจการเรียกร้องค่าเสียหายส่วนนั้นให้​ บริษัทประกันไปเรียกร้องเอากับคู่กรณีแทนแล้ว)​

ดังนั้นค่าเสียหายส่วนเกินจึงเป็นสิทธิ์ของผู้เสียหายที่สามารถเรียกร้องได้อยู่​

ดังนั้นจึงแนะนำให้จ้างทนายเพราะสุดท้ายก็ต้องใช้อยู่ดี​ และถ้าไม่ได้จ้างทำแต่ต้น​  อาจจะหาทนายมารับช่วงยาก​ หรือมีรูปคดีที่เสียเปรียบจากคำให้การในชั้นสอบสวน
ความคิดเห็นที่ 6
เคสนี้ผมมองว่าถ้าคุณเป็นฝ่ายถูก ต้องใช้ความคุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สินของประกันฝ่ายตรงข้ามรึป่าวครับ หรือผมเข้าใจอะไรผิด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่