@_คบคนพาล พาลพาไปหาผิด

                      และนี่คือสภาพของมาร์คัส แรชฟอร์ด ในวัย 18 ปี ช่วงที่เพิ่งถูกหลุยส์ ฟาน กัล อดีตกุนซือแมนฯ ยูไนเต็ด ดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ใหม่ๆ
ขณะนั้นแรชฟอร์ด เป็นเด็กที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสดใส อ่อนน้อมถ่อมตัว พร้อมจะพัฒนาฝีเท้าอยู่เสมอ และประพฤติตัวเหมาะสมกับวัย จนได้รับเสียงชื่นชมจากแฟนบอล”ปีศาจแดง”ทั่วทั้งโลก

                       ทว่าหลังถูกพันธนาการด้วยชื่อเสียงเงินทอง และเพื่อนซี้รุ่นพี่ในทีมอย่าง เจสซี่ ลินการ์ด ที่ชักพากันไปสู่หนทางหายนะของอาชีพนักฟุตบอล จากนั้นก็ไม่เคยมีใครได้เห็นภาพเด็กที่อ่อนน้อมในตัวแรชฟอร์ดอีกเลย

                       ปัจจุบันแรชฟอร์ด กลายเป็นวัยรุ่นที่รุ่มหลงในชื่อเสียง แฟชั่น รอยสัก โซเชียลมีเดีย และการเที่ยวเตร่ ซึ่งนั่นล้วนแล้วแต่เป็นหนทางสู่หายนะสำหรับเด็กหนุ่มที่เพิ่งเริ่มขึ้นมามีชื่อเสียงด้วยกันทั้งนั้น

                        จากเด็กที่เคยได้รับแต่คำชื่นชม กลับกลายเป็นเด็กที่หลายคนส่ายหน้าใส่ด้วยความผิดหวัง ในระยะเวลาเพียง 1-2 ปีเท่านั้น
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เคยหล่นความคิดเห็นเกี่ยวกับความสำเร็จไว้ว่า “ไม่มีความสำเร็จใดได้มาอย่างง่ายดาย ทุกความสำเร็จล้วนแล้วแต่ผ่านการทำงานหนักมาทั้งนั้น”

                         ซึ่งเดวิด เบ็คแฮม อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษ ยอมรับว่าตัวเขาเก็บคำพูดดังกล่าวของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไว้เตือนใจตัวเองกับการเป็นนักฟุตบอลอาชีพมาตลอด และมักจะนำคำพูดดังกล่าวถ่ายทอดให้เยาวชนกว่าทั่วโลกตามโครงการต่างๆที่ตัวเขามีโอกาสได้ไปเยี่ยมเยือน และเปิดคลินิคสอนฟุตบอล

                         ขณะที่แรชฟอร์ด และลินการ์ด ดูเหมือนจะอยู่ห่างไกลจากจุดของการทำงานหนักไปไกลเหลือเกิน
สุดท้ายคงอยู่ที่ตัวแรชฟอร์ดเองนั่นแหละ ว่าเขาจะขีดเขียนเส้นทางชีวิตของเขาต่อจากนี้ให้เป็นเช่นไร

บทความดีๆ โดน -- เพจ Red Note Football