คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
ไม่ได้เตี๊ยมครับ พ่อซูเชื่อแบบนั้นจริงๆ
ซูเองก็เริ่มจะเชื่อคล้อยตามพ่อเหมือนกัน
ประเด็นนี้ หนังเหมือนต้องการจะสะท้อนอะไรบางอย่างเกี่ยวกับสังคมไทยที่มีความเชื่อคล้อยตามกัน เชื่อว่ามันจะดีขึ้น หลอกตัวเองไปวันๆ อยู่กับความหวัง พ่อของซู เป็นคนแบบนั้น ไม่คิดจะดิ้นรนอะไร ขอแค่มีชีวิตดำเนินไป ไม่กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง ซู เปรียบเหมือนคนรุ่นใหม่ ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ แต่พอจุดๆนึง ก็เริ่มคล้อยตามผู้ใหญ่ และเชื่อตามผู้ใหญ่ว่ามันจะดีขึ้น
พอได้รู้ความจริง สิ่งที่หวังไว้ก็พังทลาย ซู เชื่อไปแล้ว แต่เมื่อมีความจริงเฉลยว่า สิ่งที่ซูเชื่อมันเป็นเรื่องโกหก ศรัทธาของซูก็พังทลาย
พ่อของซู จากที่เห็นในหนัง เราจะเห็นว่าเขาไม่กล้าตัดสินใจหรือทำอะไร ได้แต่ไหลไปตามสถานการณ์ คิดว่าตอนนั้น พ่อของซู อาจจะยอมรับทางเลือกของซูเรียบร้อยแล้วจึงเซ็นให้
ซูจะเลือกไปก็ได้ แต่ซูกลับตัดสินใจที่จะอยู่เอง เพราะซูเริ่มเชื่อและศรัทธาคิดว่าตัวเองน่าจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ พ่อของซู ก็เหมือนผู้ใหญ่ที่เลิกจะดิ้นรน ไม่กล้าเปลี่ยนแปลง อยู่ไปโดยความเชื่อว่ามันจะดีขึ้น สุดท้ายแล้ว พ่อซูก็ต้องยอมปล่อยให้ลูกสาวไปอยู่ดี เพราะลึกๆก็รู้ดีว่า ซู ไม่ได้มีความสุขกับที่นี่
การที่หยิบประเด็น ร่างทรงมาใช้ มันสะท้อนสังคมไทยจริงๆ รวมทั้งการไหว้ขอพรพระแม่มารี ก็สะท้อนสังคมไทย กับความเชื่อ เชื่อว่าขอแล้วทุกอย่างจะดี เชื่อและหวังแบบลมๆแล้งๆ และอยู่กับมันแบบนี้ เมื่อมีคนหาประโยชน์จากความเชื่อนี้ ก็ไม่ต่างจากการหลอก หลอกให้ยอมรับกับสภาพที่เป็นอยู่นี้ บางคนยอมให้โดนหลอกโดยสมบูรณ์ บางคนรู้ว่าหลอกแต่ก็เต็มใจยอมหลอก การอยู่กับสภาพสังคมที่ถูกหลอกให้เชื่อมันก็ไม่ต่างจากศรัทธาในความงมงาย
ซูเองก็เริ่มจะเชื่อคล้อยตามพ่อเหมือนกัน
ประเด็นนี้ หนังเหมือนต้องการจะสะท้อนอะไรบางอย่างเกี่ยวกับสังคมไทยที่มีความเชื่อคล้อยตามกัน เชื่อว่ามันจะดีขึ้น หลอกตัวเองไปวันๆ อยู่กับความหวัง พ่อของซู เป็นคนแบบนั้น ไม่คิดจะดิ้นรนอะไร ขอแค่มีชีวิตดำเนินไป ไม่กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง ซู เปรียบเหมือนคนรุ่นใหม่ ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ แต่พอจุดๆนึง ก็เริ่มคล้อยตามผู้ใหญ่ และเชื่อตามผู้ใหญ่ว่ามันจะดีขึ้น
พอได้รู้ความจริง สิ่งที่หวังไว้ก็พังทลาย ซู เชื่อไปแล้ว แต่เมื่อมีความจริงเฉลยว่า สิ่งที่ซูเชื่อมันเป็นเรื่องโกหก ศรัทธาของซูก็พังทลาย
พ่อของซู จากที่เห็นในหนัง เราจะเห็นว่าเขาไม่กล้าตัดสินใจหรือทำอะไร ได้แต่ไหลไปตามสถานการณ์ คิดว่าตอนนั้น พ่อของซู อาจจะยอมรับทางเลือกของซูเรียบร้อยแล้วจึงเซ็นให้
ซูจะเลือกไปก็ได้ แต่ซูกลับตัดสินใจที่จะอยู่เอง เพราะซูเริ่มเชื่อและศรัทธาคิดว่าตัวเองน่าจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ พ่อของซู ก็เหมือนผู้ใหญ่ที่เลิกจะดิ้นรน ไม่กล้าเปลี่ยนแปลง อยู่ไปโดยความเชื่อว่ามันจะดีขึ้น สุดท้ายแล้ว พ่อซูก็ต้องยอมปล่อยให้ลูกสาวไปอยู่ดี เพราะลึกๆก็รู้ดีว่า ซู ไม่ได้มีความสุขกับที่นี่
การที่หยิบประเด็น ร่างทรงมาใช้ มันสะท้อนสังคมไทยจริงๆ รวมทั้งการไหว้ขอพรพระแม่มารี ก็สะท้อนสังคมไทย กับความเชื่อ เชื่อว่าขอแล้วทุกอย่างจะดี เชื่อและหวังแบบลมๆแล้งๆ และอยู่กับมันแบบนี้ เมื่อมีคนหาประโยชน์จากความเชื่อนี้ ก็ไม่ต่างจากการหลอก หลอกให้ยอมรับกับสภาพที่เป็นอยู่นี้ บางคนยอมให้โดนหลอกโดยสมบูรณ์ บางคนรู้ว่าหลอกแต่ก็เต็มใจยอมหลอก การอยู่กับสภาพสังคมที่ถูกหลอกให้เชื่อมันก็ไม่ต่างจากศรัทธาในความงมงาย
แสดงความคิดเห็น
ดู Where we belong จบแล้วมีข้อสงสัย (สปอยล์)
2. ถ้าพ่อเตี๊ยมกับร่างทรงจริง แปลว่าพ่อไม่อยากให้ซูไป ทำไมในรถถึงยื่นใบอนุญาตให้ หรือพ่อเก่งมากจนรู้ว่าเดี๋ยวซูฉีกทิ้งแน่ๆ
ปล1. สังเกตว่า checklist ของซูไม่ประสบความสำเร็จเลยแฮะ รวมวงก็ล่ม ตอนกินหมูกระทะก็เหลือกันแค่หกคน ไม่มีน้ำหนึ่ง จะคืนดีกับมิวก็ไม่ได้ ไม่แปลกที่จะจบแบบนั้น
ปล2. เจนนิษฐ์กับอรสวยมาก