ซ่อนสร้อยแสงจันทร์

แสงราตรีหลบเร้น    ..เธอ..   เห็นไหม
เมฆเบียดบังเพียงใด ..ยัง..    ส่องหล้า
นิทราที่เคลื่อนไหว    ..มี..   เพียงหนึ่ง
คนซึ่งคงส่องฟ้า        ..ฉัน.. สาปฟ้าครวญเหงา
เราเคยเรียงเคียงเหย้า ..ใน.. เงาจันทร์
ควันวูบหนึ่งคราวัน     ..นั้น..   ว่างไร้
ควันจางห่างแลหัน    ..บ้าง..  เพียงหนึ่ง
เสี้ยวหนึ่งสายตาได้  ..ไหม..  หากได้คงดี ...

ในใจของเธอ .... วานบอกที

เราต่างพรางซ่อนซ้อน ..คง..   ซ่อนรัก
งำเงื่อนอารมณ์ผลัก    ..ได้..    ปิดได้
เก็บเศษหนึ่งส่วนกัก   ...แค่..   ไม่บอก
ไม่บอกความนัยให้     ..ฝัน..    เฟื่องฟุ้งจรุงฝัน
พันธะใดพรากกั้น       ..มัน..    ช่างแปลก
จำพรากเราจากแยก  ..ไม่..     มีเหตุผล
สวรรค์เบี่ยงรักแตก   ..เป็น..   เสี่ยงเสี่ยง
เพียงอยากให้เราค้น  ..จริง..   รักคว้าเก่าคืน

ในใจของเธอ ... ไม่มีฉัน

แต่คง ไม่มีวัน เป็นจริง
เพราะทุกสิ่ง มันผ่านไปแล้ว
เมฆดำ เคลื่อนทา ทาบเป็นแนว
มาบดแก้ว บังจันทร์ สวรรค์ทลาย
มันหายหมด ไม่เหลือเศษ
รักอาเพศ ทำภาพ เราห่างหาย
เหลือเพียงฉันคนนี้ที่...เดียวดาย
ส่วนเธอคล้าย...จะมีใคร...ให้ผูกพัน
คนใหม่พร้อมแลจันทร์คู่กับเธอ...

แสงโสมบัดนี้ซ่อน    ..แต่..    เพียงเมฆ
จบภาพฝันสรรเสก    ..ฉัน..   สาปสร้าง
หมดกานท์พร่ำรำเรข   ..ยัง..   ร่ำอยู่
ร่ำร่ำว่าอ้างว้าง         ..รอ..   อยู่ข้างเธอเสมอ

ยังรออยู่ข้าง ... เธอเสมอ 

ยังรออยู่ข้าง ... เธอเสมอ

...

เสมอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่