[CR] เกาะล้าน “หน้าฝน” นั่งรถไฟ มันเป็นยังไง [3d2n] มิ.ย.2019

ทริปนี้เริ่มจากความเบื่อวันเกิดอายุครบ 30+ ที่ได้ของขวัญวันเกิดมาจนเบื่อแล้ว เลยอยากทำอะไรให้มันต่างออกไปนอกจากการตื่นเช้ามาใส่บาตร เข้าวัด ทำบุญ ปล่อยนก ปล่อยปลา ถือศีล กินเจ พาคุณพ่อกับคุณแม่ไปฉลอง ตกค่ำก็ปาร์ตี้กับเพื่อนๆ กิจกรรมเหล่านี้มันกลายเป็นเรื่องจำเจและน่าเบื่อไปเสียแล้ว วันเกิดปีนี้จึงขอเลือกทำอะไรที่ต่างออกไปกันดีกว่า
จริงๆแล้วหาเรื่องเที่ยวนั่นแหละ ประจวบเหมาะกับคุณแม่และคุณพ่อขอยกเลิก “ทริปเชียงใหม่วัยเก๋า” ปลายปีนี้ที่ต้องเริ่มจองที่พัก ตั๋วเครื่องบิน และอื่นๆในช่วงนี้ไปอีก ส่งผลคือ

“เงินเหลือ”

แหม่...เหมือนสวรรค์ลิขิตให้เราออกไปเที่ยวอีกแล้ว ดังนั้นเพื่อไม่ให้โลกมันดูสวยงามจนเกินความพอดี จะพาเจ้าแว้นส์, แตงโม รถทัวร์ หรือรถตู้ มันก็ดูจะจืดชืด ไม่เหมาะแก่การเอามาเขียน content ให้ได้เพื่อนๆได้เสพกัน เลือกวิธีไปให้มันลำบากๆนิดๆ เหมือนได้ย้อนกลับไปสมัยวัยหนุ่มที่เริ่มท่องเที่ยวใหม่ๆ กลับไป 14อีกครั้ง ย้อนอดีตการนั่งรถไฟที่ไม่ได้สัมผัสมากว่า 20ปีกับสถานที่ที่เป็น Top Hit Destination ของ Rookie Traveler นั่นก็คือ

“เกาะล้าน”

Tools ที่ใช้ในครั้งนี้
การเดินทาง
รถไฟไทยชั้น3 ขบวน 283 กรุงเทพ(หัวลำโพง)-บ้านพลูตาหลวง
เรือ Ferry ข้ามฟาก
รถเช่า (Yamaha Filano)
รถทัวร์ พัทยา-หมอชิต

อุปกรณ์ถ่ายภาพ
Olympus OM-D EM10 mk II - Oly 14-42 kit และมือหมุน APS-C 50mm/F1.8
Fuji XA2  มือหมุน ACS-P 35mm/F1.6
Sony Xperia XZ Premium
Xiaomi Mi Max 3
SJCAM SJ6Legend

จุด Check in มีดังนี้
- จุดเริ่มต้นการเดินทาง - สถานีรถไฟหัวลำโพง
- ชิลล์ๆไปจนถึง - สถานีรถไฟพัทยา
- นั่งรถสองแถวครั้งแรกในรอบหลายปี - ท่าเรือแหลมบาลีฮาย
- ชิลล์ไปอีกด้วยเรือเฟอรี่ - ท่าเรือหน้าบ้าน
- เข้าที่พัก ที่เป็นที่พักกับร้านเหล้าในที่เดียวกัน - PAUSE Resort & Bar เกาะล้าน
- เก็บแสงเกาะล้านยามเย็นกับ - จุดชมวิวกังหันลม
- ชมพระอาทิตย์ตกดิน - หาดเทียน
- Sea food - เจ๊เป็ดซีฟู้ดเกาะล้าน
- หนีไม่ได้ก็อยู่กับมันซะ - PAUSE Resort & Bar เกาะล้าน (โซนบาร์)
- ชมพระอาทิตย์ขึ้น - หาดตายาย
- หาคาเฟอีนใส่ร่างกาย - พักร้อน Summer House
- ไปดูคนเยอะ - หาดตาแหวน
- ถ่ายรูปคู่กับสะพานไม้ - หาดสังวาลย์
- แวะหลบลมร้อนที่ไม่ใช่ร้านมาหารัก - Sea you again
- ไปเดินเล่น - หาดนวล

ดูเหมือนว่า ออกไปเที่ยวทีไร จุดเช็คอิน ไม่มีต่ำกว่า 10 ที่สักทริปเลยทีเดียว บ้าบอคอหอยพอกอะไรกันเนี่ย

ปูเรื่องมาไกล เข้าเรื่องเลยดีกว่า

เดินทาง!!!

Check in ที่ 1
สถานีรถไฟกรุงเทพ - หัวลำโพง จ.กรุงเทพมหานคร
https://goo.gl/maps/zq4MSuBL9qxqAHm39

ทำไมต้องเริ่มที่หัวลำโพง?
นั่นก็เพราะ จะรีวิวให้ทุกท่านได้ฟังว่าตลอดเส้นทางนี้เป็นเช่นไร เพื่อให้เป็นข้อมูลสำหรับท่านอื่นๆที่อยากจะเลือกใช้วิธีนี้
ขอเริ่มที่ MRT หัวลำโพง เดินขึ้นมาทาง Gate 2 เป็นทางเชื่อมของหัวลำโพงกับ MRTหัวลำโพง เลี้ยวขวาเข้าไปยังช่องจำหน่ายตั๋วที่ 13-14 แล้วบอกว่า “ไปพัทยา” เป็นอันเข้าใจกัน
ในครั้งนี้เราต้องใช้รถไฟขบวน 283 เนื่องจากเราเดินทางกันในวันธรรมดาค่าตั๋วรถชั้น3 ราคา 31บาท/คน เป็นรถไฟหวานเย็น ออกจากหัวลำโพงเวลา 06.55น. ตรงเป๊ะ เน้นว่า “ตรงเป๊ะ” แหม่ เกือบไม่ทัน รีบตาลีตาเลือกกันเลยทีเดียว
แต่ถ้าคุณมาไม่ทันเดินหันหลังกลับไปด้านนอก แล้วหาวิธีเดินทางไปขึ้นรถอย่างอื่นที่หมอชิดหรือเอกมัยได้เลย เพราะขบวน 283 มีเที่ยวเดียวต่อวัน ขบวนนี้ไม่ต้องจองล่วงหน้า และใน web การรถไฟก็ไม่มีให้จองเช่นกันครับ

https://www.thairailwayticket.com/eTSRT/

แต่ถ้าอยากเตรียมตัวล่วงหน้าไม่ต้องลุ้น ก็โทรไปที่ 1690 (Call center การรถไฟ) ไม่แน่ใจว่าจองได้หรือไม่ เพราะตอนผมโทรไปถาม call center บอกว่า

“สามารถซื้อตั๋วก่อนเดินทางได้เลยครับ”

แต่ถ้าหากเลือกวันเดินทางเป็นวันหยุด ส.-อา. การเดินทางไปยังสถานนีพัทยา จะมีรถพิเศษเป็นขบวนสายท่องเที่ยวหมายเลข 997 ราคา 170บาท/คน ออกเดินทางเวลาเดียวกัน ได้ยินว่าจองล่วงหน้ากันหลักเดือน แนะนำโทรไปจองล่วงหน้ากันนานๆเลยครับ

**ข้อมูลเสริม** สำหรับการจองผ่าน website ไม่มีทั้ง 2 ขบวน ต้องโทรอย่างเดียว และการจองสามารถจองได้นานสุดไม่เกิน 90วันก่อนเดินทางนะครับ


เปรียบเทียบข้อแตกต่างระหว่างขบวน 283 และ 997 สถานีกรุงเทพ-บ้านพลูตาหลวง
ขบวน 283 รถไฟชั้น 3 เป็นรถหวานเย็น ไม่ติดแอร์ ถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่าง นั่งๆอยู่รถจอดแต่ละสถานีจะได้รับการเทคแคร์อย่างดีจากคุณลุง คุณป้าขายไก่ย่าง มะม่วงพริกเกลือ น้ำหลากสีใส่ถุง ตามแต่ท่านจะพบเจอ ปรับอากาศด้วยลมธรรมชาติ แล้วแต่ดวงของท่านว่าจะเจอสภาพอากาศไหน เก้าอี้ที่แข็งและไร้ความเป็นส่วนตัว ลุกแล้วอาจเสียม้า ตลอดเส้นทางมีความเป็นไปได้ที่ท่านอาจได้ที่นั่งตรงข้ามกับคนที่ท่านไม่รู้จักเลยมากกว่า 8 คน เพราะพวกเขาเหล่านั้นจะหมุนเวียนเปลี่ยนกันมาเรื่อยๆ ดวงดีก็เจอสุภาพ แจ๊คพ็อตก็ฝรั่งหล่อกับแหม่มสวยๆ (ถ้าเจอเช่นนี้สบายใจได้เพราะส่วนใหญ่ลงที่เดียวกัน) โชคร้ายหน่อยก็เจอครอบครัวมีเด็กเล็ก หรือน้องนักเรียนนั่งรถไฟไปทัศนศึกษาวัยกำลังซนก็จะลั่นๆหน่อย ถ้าไม่ได้รักเด็กหรือดวงคุณเจอ “ลูกของคุณไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน” ก็แค่หยิบกระเป๋าแล้วไปหาที่นั่งใหม่เอาข้างหน้า ก็ไม่ได้ผิดประเพณีแต่อย่างใด
แต่ก็ยังโชคดีนะที่เป็นเด็กนานาชาติ ถือว่าฝึก listening ไปด้วยพลางๆ ที่ขาดไม่ได้

“ห้องน้ำ”

Unseen in Thailand คุณต้องลองสักครั้ง อันนี้สงสารคุณต้นข้าวเลย ผู้ชายอย่างเราๆมันก็ไม่เท่าไร แต่สำหรับสาวๆนี่สิคงได้นั่งเก้าอี้อากาศ โคลงไปเคลงมา ทรมานกันน่าดู แต่คุณต้นข้าวก็ยังตามใจเรา เพราะผมอยากลองนั่งรถไฟในชีวิตนี้ผมเคยนั่งรถไฟครั้งเดียวเมื่อตอน7ขวบ ถึงแม้ว่าจะส่ง Reference ไปให้ดูล่วงหน้าแล้วว่าน่าจะเจอสภาพไหน คุณต้นข้าวบอกว่า

“ประมาณ 4 ชั่วโมงเองไม่เป็นไรหลอก รสชาติของชีวิต จะได้รู้ว่ามันเป็นยังไง”
เฉียบ!

ขบวน 997 รถแอร์เย็นฉ่ำ นั่งสบาย ห้องน้ำสะอาดพอตัว หรูหรากว่ากันเยอะ เอาเป็นว่าเปรียบเทียบง่ายๆคือ หน้ามือกับหลังส้นเท้า ให้เป็นไปตามนั้น

“นานาจิตตัง” ความสุขของคนเราไม่เหมือนกัน ก็แล้วแต่ผู้อ่านทั้งหลายจะเลือกเดินทางแล้วกันครับ

และนี่คือภาพบรรยากาศระหว่างทาง

Check in ที่ 2
สถานีรถไฟพัทยา - พัทยากลาง จ.ชลบุรี
https://goo.gl/maps/FKkU8xgUmbMJnN5A6


ทำไมถึงมาลงที่สถานีพัทยา ไม่ลงป้ายพัทยาใต้ซึ่งใกล้กว่าหากดูจาก Google?
นั่นก็เพราะว่า มาลงที่นี่ต่อรถง่ายที่สุดมีรถสองแถวมาจอดรอที่หน้าสถานีเพื่อรับคนไปท่าเรือแหลมบาลีฮาย สะดวกมาก ค่ารถต่อคน 50บาท นั่งไปจนสุดสายจอดให้หน้าท่าเรือเลยไม่ต้องกลัวหลง
แต่ถ้ามาแล้วเคว้งคว้างไม่เจอใคร เพื่อความปลอดภัยและความสะดวก Grab ครับ ดีที่สุด แต่ถ้าจะลองดูก็ได้นะครับ แต่รอบนี้มีแฟนมาด้วย ขอเดินทางที่สบายและปลอดภัยดีกว่า

ค่าใช้จ่าย
ค่ารถตู้ (2คน) = 100บาท

รวม 100 บาท

สรุป - สะดวกกว่าที่คิด
ข้อเสนอแนะ - รถที่ให้บริการจะมีทั้งรถตู้ รถสองแถว แล้วแต่คิวว่าตอนนั้นลงมาจะเจอกับอะไรนะครับ ราคาเท่ากัน ลงมาปุ๊บรถออกทันที เร็วมาก แทบไม่ทันได้ถ่ายรูปเลยทีเดียว

Check in ที่ 3
ท่าเรือแหลมบาลีฮาย - แหลมบาลีฮาย ชลบุรี
https://goo.gl/maps/BpvFRKehxhpGG6bf8

ท่าเรือแหลมบาลีฮาย ประตูสู่เกาะล้าน
หลังจากถึงท่าเรือแล้วจำได้ว่าเมื่อก่อนต้องซื้อตั๋วก่อนขึ้นเรือ แต่ตอนนี้เดินไปสุดท่าเรือเลยครับ จะมีคุณพี่นั่งขายตั๋วอยู่ทางเดินก่อนขึ้นเรือ สะดวกมาก

“เดี๋ยวนี้เจริญขึ้นเยอะเลยนะ”

ถึงแม้ว่าวันนี้จะเป็นวันธรรมดา และ low season แต่ร้านค้าขาย นักท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศ ก็หนาตาเลยทีเดียว ผ่านไปร่วม 10 ปี ที่นี่ก็ยังเป็นสถานที่ที่ยังดึงดูดผู้คนได้เสมอมา
หลังจากขึ้นเรือเสร็จ จะมีเสื้อชูชีพ ก็แนะนำว่าให้ใส่ไว้ตลอดเวลานะครับเพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง วันที่พวกเราเดินทางเป็นช่วงมรสุม ลมค่อนข้างแรง คลื่นสูงใช้ได้เลยทีเดียว โยกไปโยกมา เวียนหัวดี เป็นการนั่งเรือ 40 นาทีที่ทำให้ผมเกลียดการนั่งเรือไปอีกพักใหญ่ๆเลย

ค่าใช้จ่าย
ค่าเรือข้ามฟาก (2คน) = 60บาท

รวม 60 บาท

สรุป - ถ้ารีบหรือเมาเรือง่ายไป speed boat เลยครับ เหมาลำก็ 1200 ราคาประมาณนี้ ลองต่อรองกันดู แต่ถ้ารอเรือเต็มได้ก็ คนละ 200 บาท แต่ถ้าชิวๆเลย มองวิวไปเรื่อยๆ เฟอร์รี่เกาะล้านก็ไม่เลวนะครับ
ข้อเสนอแนะ - ใครเวียนหัวง่ายหรือเมารถ เมาเรือ เป็นเรื่องปกติ พกยาแก้เมาเรือมาด้วยก็ดีนะครับ
ชื่อสินค้า:   เกาะล้าน
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่