เริ่มต้นจากมีการตกลงทำสัญญาร่วมลงทุน เป็นจำนวนเงิน 200,000 บาท โดยเนื้อหาใจความโดยประมาณ
สัญญาร่วมลงทุน ระหว่างนาย A และ นส. B มีข้อความโดย
(ข้อ 1) เงินลงทุน ... บาท เพื่อหวังกำไรตอบแทน โดยมีระยะเวลา 6 เดือน
(ข้อ 2) ผู้ลงทุนจะได้รับกำไรตอบแทนรายเดือน เดือนละ 10,000 บาท ชำระทุกวันที่ 1 ของเดือน
โดยตีเช็คไว้ล่วงหน้า 7 ฉบับ ลงเลขที่ + วันที่ มูลค่า และใบสุดท้าย 200,000 บาทไม่ลงวันที่
(ข้อ 3) ไม่มีการถอน เลิกสัญญา จนกว่าจะครบสัญญา ยกเว้นแต่ยินยอมทั่ง 2 ฝ่าย (ข้อ 4) ผิดสัญญาเรียกร้องตามกฎหมาย ลงชื่อ 2 ฝ่าย ** ไม่มีพยาน **
สัญญาฉบับแรกเริ่มต้นจาก 30/1/2017 ระยะเวลา 6 เดือน ก็ต่อสัญญากันมาเรื่อยๆ จนกระทั่ง สิ้นสุดสัญญาฉบับสุดท้าย 01/05/2019 (ฉบับสุดท้ายเป็นการจ่ายกำไรของเดือน 4/2019) เช็คเงินทุน 200,000 ที่คุยกันตกลงกันไว้โดยมีหลักฐานในไลน์ ว่าจะไม่ต่อสัญญาแล้วขอขึ้นฉบับสุดท้าย วันที่ 15/05/2019 ซึ่งเรามีการแจ้งล่วงหน้าไว้ตั้งแต่ช่วงเดือน 2-3/2019 (หลักฐาน)ยังอยู่ เพราะในระหว่างที่ต่อสัญญามาเรื่อยๆนั้น เช็คเด้ง 3-4 ใบ ของเช็คทั้งหมดที่ตีมาจำนวน 6 ใบ (และเงินทุน 1ใบ) แต่มาหนักที่สุดคือสัญญาฉบับที่ 4 ตั้งแต่ต้นเดือน 01/2019 นั้น เราจะได้ผลกำไรเลยเวลาประมาณ 10-15 วันเป็นอย่างน้อย ซึ่งเราก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่เริ่มมาหนักสุดคือ
เมื่อวันที่ 15/05/2019 เรายังไม่ได้รับผลกำไรของเช็คที่ลงวันที่ 01/05/2019
- สอบถามกลับไปได้ใจความโดยประมาณขอยืดเวลา และจะขอจ่ายผลกำไรเพิ่มของเดือน 5 ซึ่งจะจ่าย 01/06/2562 จนกระทั่งเมื่อวันที่ 10/06/2562 เราไม่สามารถติดต่อ ทั้งไลน์ ทั้งเฟส และโทรศัพท์ เราได้ทิ้งข้อความไว้ในเฟสว่า ถ้าเงียบขนาดนี้คงต้องไปแจ้งความ ก็ได้มีการถกเถียงกันพอสมควรและประโยคนึงที่พิมพ์มาคือ
"ตอนBเอาเงินมาให้พี่ Bบอกทะเลาะกับคนนั้นคนนี้ บ้านก็ซื้อมาแล้ว ยังไม่มีคนมาผ่อน ถ้าไม่ได้พี่Bก็แย่ 10,000 พี่ก็ให้Bทุกเดือน ช้าหน่อย เลื่อนหน่อย มันก็ปกติ Bไม่คิดหรอว่าBได้ไปเท่าไหร่แล้ว ก็คิดเอาแล้วกัน"
- หลังจากนั้นก็คุยกันอีกนิดหน่อย จับใจความโดยประมาณว่า จะโอนผลกำไรส่วนที่ต้องจ่ายวันที่ 01/06/2562 นี้ไม่เกิน 12/06/2562 (วันที่คุยคือ 10/06/2562) นี้ และจะขอยืดเวลาเอาเช็คเงินต้นคืนวันที่ 31/07/2562 โดยจะยอมจ่ายผลกำไรเพิ่มอีก 1 งวด คือ งวดวันที่ 01/07/2562 จนกระทั่ง 12/06/2562 เราก็มีทวงถามกลับไปเนื่องจากยังไม่มีเงินเข้าบัญชี เค้าก็เงียบและไม่ตอบอะไรไดๆ ไม่อ่านข้อความ เราเลยส่งข้อความไปอีกครั้งว่าถ้าไม่จ่ายผลกำไร ก็ยืดเวลาเงินต้นถึง 31/07/2562 ไม่ได้ เนื่องจากตัวเจ้าของกระทู้เองก็มีความจำเป็นที่ต้องใช้เงินเหมือนกัน
เจ้าของกระทู้เป็น
1. พนักงานเงินเดือน ที่เงินเดือนยังไม่ถึง 25,000 บาท/เดือน
2. เป็นคนที่มีภาระต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ใช้จ่ายดูแลครอบครัว
คนที่เอาเงินไป (รู้เรื่องทั้งหมดนี้ หลังจากให้เงินลงทุนไปแล้ว)
1. ไม่ทราบว่าเอาเงินลงทุนไปลงที่ไหน (เค้ามีร้านแม่ ร้านเค้า และเค้าเปลี่ยนการขายไปเรื่อยๆ)
2. เป็นคนที่ไม่มีปัญญาจ่ายค่างวดรถ ค้างจนจะโดยยึด เลยจำเป็นต้องขาย แต่จำเป็นต้องซื้อรถใหม่เพื่อไม่ให้ตัวเองเสียหน้า
3. เป็นคนที่ใช้จ่ายเงินแบบอวดร่ำอวดรวย (มาก มาก) และเปลี่ยนมือถือตามทุกซีรีย์ที่ออกใหม่
4. เป็นคนที่โปรไฟล์ดี มีรถหลายคัน
สอบถามว่าเราควรทำอย่างไรต่อไปดีคะ ขอคำแนะนำหนักๆ ทั้งเรื่องกฎหมาย เรื่องการจ้างทนายความ เรื่องการฟ้องแพ่ง หรืออาจกลางเป็นการฉ้อโกง เพราะไม่รู้ว่านำเงินไปลงทุนที่ไหน อะไรอย่างไร
ปล. สัญญาร่วมลงทุน ไม่ได้แป๊ะอากรแสตมป์ (มีคนแนะนำให้ไปซื้อมาแปะ 100,000 ละ 50 บาท)
ปล1. คนที่เอาเงินไปรู้จักกันนับถือกันเป็นพี่ พอรู้แบล็กกราวบ้างแต่ไม่เยอะ
เหมือนจะโดนเบี้ยวจ่ายเงินต้น "สัญญาร่วมลงทุน"
สัญญาฉบับแรกเริ่มต้นจาก 30/1/2017 ระยะเวลา 6 เดือน ก็ต่อสัญญากันมาเรื่อยๆ จนกระทั่ง สิ้นสุดสัญญาฉบับสุดท้าย 01/05/2019 (ฉบับสุดท้ายเป็นการจ่ายกำไรของเดือน 4/2019) เช็คเงินทุน 200,000 ที่คุยกันตกลงกันไว้โดยมีหลักฐานในไลน์ ว่าจะไม่ต่อสัญญาแล้วขอขึ้นฉบับสุดท้าย วันที่ 15/05/2019 ซึ่งเรามีการแจ้งล่วงหน้าไว้ตั้งแต่ช่วงเดือน 2-3/2019 (หลักฐาน)ยังอยู่ เพราะในระหว่างที่ต่อสัญญามาเรื่อยๆนั้น เช็คเด้ง 3-4 ใบ ของเช็คทั้งหมดที่ตีมาจำนวน 6 ใบ (และเงินทุน 1ใบ) แต่มาหนักที่สุดคือสัญญาฉบับที่ 4 ตั้งแต่ต้นเดือน 01/2019 นั้น เราจะได้ผลกำไรเลยเวลาประมาณ 10-15 วันเป็นอย่างน้อย ซึ่งเราก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่เริ่มมาหนักสุดคือ
- สอบถามกลับไปได้ใจความโดยประมาณขอยืดเวลา และจะขอจ่ายผลกำไรเพิ่มของเดือน 5 ซึ่งจะจ่าย 01/06/2562 จนกระทั่งเมื่อวันที่ 10/06/2562 เราไม่สามารถติดต่อ ทั้งไลน์ ทั้งเฟส และโทรศัพท์ เราได้ทิ้งข้อความไว้ในเฟสว่า ถ้าเงียบขนาดนี้คงต้องไปแจ้งความ ก็ได้มีการถกเถียงกันพอสมควรและประโยคนึงที่พิมพ์มาคือ "ตอนBเอาเงินมาให้พี่ Bบอกทะเลาะกับคนนั้นคนนี้ บ้านก็ซื้อมาแล้ว ยังไม่มีคนมาผ่อน ถ้าไม่ได้พี่Bก็แย่ 10,000 พี่ก็ให้Bทุกเดือน ช้าหน่อย เลื่อนหน่อย มันก็ปกติ Bไม่คิดหรอว่าBได้ไปเท่าไหร่แล้ว ก็คิดเอาแล้วกัน"
- หลังจากนั้นก็คุยกันอีกนิดหน่อย จับใจความโดยประมาณว่า จะโอนผลกำไรส่วนที่ต้องจ่ายวันที่ 01/06/2562 นี้ไม่เกิน 12/06/2562 (วันที่คุยคือ 10/06/2562) นี้ และจะขอยืดเวลาเอาเช็คเงินต้นคืนวันที่ 31/07/2562 โดยจะยอมจ่ายผลกำไรเพิ่มอีก 1 งวด คือ งวดวันที่ 01/07/2562 จนกระทั่ง 12/06/2562 เราก็มีทวงถามกลับไปเนื่องจากยังไม่มีเงินเข้าบัญชี เค้าก็เงียบและไม่ตอบอะไรไดๆ ไม่อ่านข้อความ เราเลยส่งข้อความไปอีกครั้งว่าถ้าไม่จ่ายผลกำไร ก็ยืดเวลาเงินต้นถึง 31/07/2562 ไม่ได้ เนื่องจากตัวเจ้าของกระทู้เองก็มีความจำเป็นที่ต้องใช้เงินเหมือนกัน
เจ้าของกระทู้เป็น
1. พนักงานเงินเดือน ที่เงินเดือนยังไม่ถึง 25,000 บาท/เดือน
2. เป็นคนที่มีภาระต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ใช้จ่ายดูแลครอบครัว
คนที่เอาเงินไป (รู้เรื่องทั้งหมดนี้ หลังจากให้เงินลงทุนไปแล้ว)
1. ไม่ทราบว่าเอาเงินลงทุนไปลงที่ไหน (เค้ามีร้านแม่ ร้านเค้า และเค้าเปลี่ยนการขายไปเรื่อยๆ)
2. เป็นคนที่ไม่มีปัญญาจ่ายค่างวดรถ ค้างจนจะโดยยึด เลยจำเป็นต้องขาย แต่จำเป็นต้องซื้อรถใหม่เพื่อไม่ให้ตัวเองเสียหน้า
3. เป็นคนที่ใช้จ่ายเงินแบบอวดร่ำอวดรวย (มาก มาก) และเปลี่ยนมือถือตามทุกซีรีย์ที่ออกใหม่
4. เป็นคนที่โปรไฟล์ดี มีรถหลายคัน
สอบถามว่าเราควรทำอย่างไรต่อไปดีคะ ขอคำแนะนำหนักๆ ทั้งเรื่องกฎหมาย เรื่องการจ้างทนายความ เรื่องการฟ้องแพ่ง หรืออาจกลางเป็นการฉ้อโกง เพราะไม่รู้ว่านำเงินไปลงทุนที่ไหน อะไรอย่างไร
ปล. สัญญาร่วมลงทุน ไม่ได้แป๊ะอากรแสตมป์ (มีคนแนะนำให้ไปซื้อมาแปะ 100,000 ละ 50 บาท)
ปล1. คนที่เอาเงินไปรู้จักกันนับถือกันเป็นพี่ พอรู้แบล็กกราวบ้างแต่ไม่เยอะ