ผมควรทำยังไงกับเงินก้อนสุดท้ายของชีวิตดีครับ

  ผมอายุ 28 ครับ ปัจจุบันรับราชการ และกำลังมีหนี้ล้นตัวครับ เนื่องจาก ซื้อบ้าน ซื้อรถ ซื้อของ ไวเกินไป และวางแผนการเงินแย่ๆ
เรื่องเริ่มจาก ปัญหาเงินไม่พอจึงกดบัตรเครดิตจนเต็มวงเงิน ถึงได้รู้ว่าซวยแล้ว จึงทำการกู้เงิน เพื่อล้างบัตรและเริ่มต้นใหม่ แต่ด้วยความที่ เงินเดือนลดลง เพราะโดนหักเงินกู้ สุดท้ายด้วยภาระที่มี จึงไม่พอใช้กลับมากดบัตรเครดิตใหม่
   ใช่ครับ แล้วก็กลับมาที่เดิม เต็มวงเงิน ทีนี้เอารถไปเข้าแนนซ์ เพื่อล้างหนี้ และคิดว่าจะไม่ให้ซ้ำรอยอีก เลยไม่ปิดทุกบัตร แต่เอาไปลงทุน หวังว่าจะกู้สถานการณ์  สุดท้ายเน่า เป็นเป็นหนี้หนักกว่าเดิม
   หมดตัว ไม่รู้จะทำยังไง ที่บ้านสงสาร เลยให้เงินกัอนมาช่วย ปรากฏว่า เหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ เพราะ ณ จุดนี้เงินเดือนเหลือน้อยมากแค่ 3000 กว่าบาท เงินที่ทางบ้านช่วย เอาไปปิดบัตรหมด แต่เพราะเงินไม่พอใช้ดำรงชีพ จึงต้องกดอยู่ดี  ตอนนี้กินประหยัด ไม่เที่ยว ไม่ซื้ออะไร เพราะเงินเดือน 3000 แต่รายจ่าย 15000 สุดท้ายก็กลับมา ที่บัตรเต็มวงเงินอีก ไม่รู้จะทำยังไง จึงยื่นกู้อีก และน่าจะกู้ไม่ได้อีกแล้ว
    ตอนนี้ผมมีเงินก้อน 3 แสน หนี้บัตร 120000 เงินเดือนรับเดือนละ 2500 บาท (เพราะหักหนี้รวม 1400000 บาท)ผมควรทำไงดีครับ เพราะถ้าเงินก้อนนี้หมด คือ ไม่มีทางไปแล้ว ช่วยผมคิช่วยผมคิดหน่อยนะครับ ผมว่าผมต้องการให้ทุกคนช่วยจริงๆครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 12
เอาใาให้อ่านอีกรอบ


อ่านจากการใช้เงินของเขามาทั้งกระทู้. มั่นใจว่าเขาไม่มารถเปลี่ยนพฤติกรรมทางด้านการเงินได้.

และถ้าไม่อยากจะเสียงานราชการไป

1. ให้หยุดจ้ายหนี้ทั้งหมด แม้แต่ขั้นต่ำก็ห้ามจ่ายติดต่อกัน 3 เดือน

2. ในระยะทางระหว่างสามเดือนนั้นธนาคารจะตามทวงหนี้คุณตลอดทุกเวลา และเมื่อครบสามเดือน ให้คุณเดินเข้าไปในธนาคารและบอกว่าตอนนี้คุณไม่สามารถที่จะจ่ายหนี้ก่อนนี้ได้อีกแล้ว วันนี้คุณมาขอประนอมหนี้สิน โดยของดเว้นดอกเบี้ยและขอจ่ายแค่เงินต้น. ธนาคารจะมีท่าทียึกยักและไม่มีท่าทียินยอมง่ายไแน่นอนแต่คุณต้องยืนกรานว่าคุณไม่มีจ่ายจริงๆ ถ้าไม่อย่างนั้นก็ไปฟ้องเอา

3. ระหว่างที่หยุดใช้หนี้3เดือน มีอะไรก็ตามที่เป็นสินทรัพย์ที่สามารถขายแล้ว แปลมาเป็นเงินได้ให้รีบขายทิ้งให้หมด เงินก้อนนี้เก็บเอาไว้ก่อนอย่าพึ่งรีบเอาไปจ่ายธนาคาร

4. ถ้าก้อนหนี้ของคุณ มันดูแล้วไม่เยอะเกินไป ไม่เกิน 300000 บาทในหลายหลายธนาคารไม่ต้องขึ้นศาลจะสามารถคุยนอกรอบได้

5. ในตอนนี้หักบัตรเครดิต และบัตรกดเงินสดทุกใบทิ้งทั้งหมด เพราะจากที่อ่านในกระทู้คุณทั้งหมดแน่นอนว่าคุณห้ามตัวเองให้ไม่ให้ตัวเองเอาเงินในบัตรออกมาใช้แน่นอนไม่ได้แน่นอน ย้ำว่าหักทิ้ง

6. สิ่งอำนวยความสะดวกที่จะสามารถติดตัวคุณไปได้ก็คือรถมอเตอร์ไซต์เท่านั้น เพราะค่างวดและค่าน้ำมันต่อเดือนไม่แพงเท่ากับรถยนต์

6. มือถือที่คุณใช้มันสามารถขายต่อได้ราคาดี ก็ขายซะให้ไปใช้รุ่นที่มันไม่แพงเกินไปไม่เกิน 2000

7. หยุดการใช้จ่ายเงินฟุ้งเฟ้อ ติดหรูหรืออะไรก็ตาม พร้อมทั้งยอมรับตัวเองว่า ตอนนี้คุณหมดตัวแล้ว

8. คุณบอกว่าเงิน คุณเหลืออยู่ต่อเดือนประมาณ 3000 บาท ซึ่งจเงินจำนวนนี้ ถ้าคุณจะอยู่แบบสบายๆ คุณอยู่ได้เลยนะ ถ้ารู้จักกินรู้จักใช้

8.1 ซื้อข้าวสารห้ากิโล ราคาไม่เกิน 180 บาทซึ่งจะกินได้ทั้งเดือน นี่คือข้าวสารหอมมะลิเก่านะคะ ที่อร่อยกำลังดีไม่ใช่ข้าวขาวทั่วไป

8.2 ซื้อไข่ไก่เบอร์ 5= 180 ฟอง =  270 บาท

8.3 ซื้อเป็นกับข้าว วันละสองถุง ถุงละ 30 บาท แบ่งกินเช้าเย็น ตกต่อเดือนจะอยู่ที่
30*2*30 =1,800 บาท

8.4 ค่าน้ำมันรถมอร์ไซต์ต่อเดือนไม่เกิน 500 บาท

รวมค่าใช้จ่าย 180+270+1,800+500= 2,750 บาท

ยังมีเงินเหลืออีก 250 บาท





ถ้าทำตามที่แนะนำด้านบนแล้วยังไงก็ไม่ได้ผล
ก็ขอให้ใช้วิธีทางที่แนะว่าให้เขาฟ้องล้มละลายเอานี้เป็นทางสุดท้ายนะคะ
ความคิดเห็นที่ 126
ผมเหมือนเคยอ่านกระทู้แนวๆ นี้มาเยอะมากเลยครับ ยังรู้สึกว่าความรู้ด้านการเงินของคนไทยมีน้อยมากๆ ผมไม่ได้ว่าคุณนะ เพราะคนทั่วไปก็มีปัญหาไม่ต่างจากคุณ แต่ยังดีว่า ณ วันนี้คุณรู้ตัวแล้ว ก็ค่อยมาหาทางแก้กัน

อย่างแรกเลย ที่พอทำได้คือ ไปขอประณอมนี้จากบัตรเครดิต ช่วงโควิดน่าจะของ่ายด้วยครับ
เรื่องการใช้จ่าย เห็นว่าใช้อย่างประหยัดที่สุดแล้วตอนนี้ก็โอเคแล้วครับ ซื้อข้าวหุงเอง ทำอาหารเอง ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้เยอะ
เรื่องการลงทุน ถ้าพอมีความรู้อยู่บ้าง อาจแบ่งมาสักเดือนละ 500 ลองสมัคร bitkub แล้วเทรดพวกบิทคอยน์ดูครับ
ไม่อยากให้เล่นเยอะกว่านี้นะ ผมว่าเรทประมาณนี้ ถ้าช่วงขาขึ้น กำไรวันละ 50-60 บาทไม่ยากครับ
ถ้าไม่เคยเล่น ศึกษาก่อนนะครับ
ความคิดเห็นที่ 54
ผมเคยผ่านจุดที่คล้ายๆ คุณมาแล้ว เพียงแต่ตอนนั้นผมมีหนี้บัตรกดเงินสด บัตรเครดิต และค่าผ่อนบ้าน เงินเดือนหักค่าใช้จ่ายแล้วได้รับจริงน้อยกว่า 1,000 บาท  

อาหารประจำวันของผม คือ การหุงข้าวพร้อมกับต้มไข่ กินข้าวกับไขต้มมื้อละ 1 ฟอง ถ้าซื้อกับข้าวถุง จะซื้อวันละ 1 ถุง แบ่งกิน 2 มื้อ ขี่รถสกู๊ตเตอร์เล็กๆของอินเดียจดประกอบในไทย 50 ซี.ซี.มาใช้

หย่ากับภรรยาที่ทน อดอยากไม่ไหว ทนซ้อนท้ายรถสกู๊ตเตอร์เล็กๆ ไม่ได้

ค่าไฟฟ้าที่หักบัญชีธนาคารก็ต่อรองกับการไฟฟ้าจังหวัดให้หักค่าไฟฟ้าหลังเงินเดือนออก

หนี้บัตรต่างๆ ก็พยายามจ่ายมากกว่าขั้นต่ำเท่าที่จะทำได้ ทีละใบ ทีละใบ โดยสมัครเป็นสหกรณ์ออมทรัพทย์ของหน่วยงาน ทำบัญชีกรุงไทยธนวัฏ ซึ่ง 2 อย่างหลังนี้ดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำกว่าบัตรกดเงินสด บัตรเครดิต และดอกเบี้ยเช่าซื้อบ้าน  มากเลย
เคยลงทุนทำธุรกิจก็ไม่ประสบความสำเร็จขาดทุน อดทนใช้หนี้หลายปี

จนมีครั้งหนึ่งถึงตาจน ต้องรีไฟแนนซ็บ้าน เอาไปใช้หนี้บัตรต่างๆ จนหมดยกเว้นบัตรเครดิต ซึ่งพยายามจ่ายเต็มวงเงินทุกงวด ซื้อรถยนต์มือ 2 มาขับ เพราเริ่มเดินไม่ค่อยไหว ต้องใช้วีลแชร์ในที่ทำงาน และสถานที่ต่างๆ แทนการใช้เบรสพยุงขาที่ร่างกายรับไม่ไหวแล้ว ปั่นจักยานไม่ได้แล้ว  ได้เบี้ยความพิการเดือนละ 800 บาท ก็ใช้เวลาอีกนับสิบปีกว่าๆ จนใช้หนี้เงินกู้ฉุกเฉินสหกรณ์หมด

ขี่มอเตอร์ไวค์พอได้ แต่เดินได้ใกล้ๆมาก โดยต้องจับโน่น นี่ นั่น เพื่อช่วยพยุงตัว ในที่วีลดแชร์ไปไม่ได้  เมื่อเกือบ 5 ปีที่แล้ว รถยนต์มือ 2 คันเก่าซ่อมไม่ขึ้น จึงออกรถเก๋งมือ 1 ป้ายแดง ใช้งานแทนคันเดิม ยังต้องผ่อนกับไฟแนซ์อยู่อีก 123,000 กว่าบาท

และเพิ่งผ่อนบ้านเล็กๆ หมด ได้รับโฉนดที่ดินมาเร็วๆ นี้ ยังใช้บัตรเครดิต 2 ใบอยู่ แต่จ่ายเต็มวงเงินทุกเดือน แทบไม่ต้องใช้วงเงินกู้กรุงไทยธนวัฏ แต่ก็ยังไม่ลาออก

การเจ็บป่วยยังใช้สิทธิ สกส.ของข้าราชการได้ นานๆ จะต้องจ่ายเพิ่มบ้าง  แต่ก็นานๆ ครั้งหนึ่ง พยายามดูแลสุขภาพให้ดีกว่าเดิม แม่ว่าจะช้าไปและไม่ค่อยแข็งแรงเท่า 5 ปีก่อน

สุขภาพไม่แข็งแรงพอที่จะออกไปทำมาค้าขาย ผมทนอากาศร้อนหรือนาวได้น้อย ไม่เหมือนอย่างเคยเป็นในวัยหนุ่มสาวได้

ก็ยังพยายามใช้ความรู้ความสามารถพัฒนางานราชการที่รับผิดชอบอยู่เสมอมา แม้จะไม่ค่อยได้ดังใจนัก

กับการยังทำงานที่อีก 3 ปี ก็จะเกษียณอายุราชการแล้ว แต่ก็สบายใจขึ้นเพราะมีบ้านที่มีมูลค่ามากว่าหนี้สิน ถ้าตายยังมี ณกส.กระทรวงฯ  ฌกส.สหกรณ์ฯ พอจะใช้หนี้และเป็นค่ใช้จ่ายในการทำศพได้ ไม่เป็นภาระกับน้องๆ และหลานๆ ที่แทบไม่ได้พบกับ หลังการจากไปขอพ่อและแม่เมื่อหลายปีก่อน

ขอเป็นกำลังใจให้ จขกท และคนอื่นๆ ที่ยังต้องฝ่าฟันอีกมาก อายุคุณแค่ครึ่งหนึ่งของอายุผมเท่านั้นเอง ความแข็งแรงของร่างกาย และสุขภาพกายคุณก็ยังแข็งแรงกว่าผมมากนัก
ความคิดเห็นที่ 1
ประกาศขายบ้าน
ขายรถ
แล้วต้องหาอาชีพเสริม เลิกงานแล้วเห็นบางคนไปขับแท๊กซี่ต่อ หรือขายของกิน ปอกผลไม้ขาย
ที่กรมมีคนขยันเดินขายของกินแต่เช้าเลยนะ ไปรับขนมปังเค้ก ร้านวิคตอรี่มา บวกกำไรชิ้นละ 1-2 บาท วันนึงก็ได้เป็นร้อย บางคนก็คั้นน้ำส้มใส่ขวดขาย รับหมูยอมาขาย ทำขนม ทำน้ำพริกมาขาย
สุดท้ายคงต้องให้ทางบ้านช่วย ถ้าปิดบัตรได้น่าจะรอด
แล้วอย่าจ่ายแค่ขั้นต่ำ ดอกเบี้ยบัตรมันแพง
ต้องลดหนี้ หารายได้เพิ่ม
เงินเดือนข้าราชการขึ้นครั้งนึงไม่กี่ร้อย คุณยังไม่พร้อมจะกู้ซื้อบ้านค่ะ แค่หนี้สหกรณ์เยอะเป็นล้านแบบนี้ ต้องผ่อนใช้หนี้ภายใน 7-8 ปี เงินเด่อนถูกหักแบบนี้ไม่พอใช้แน่ ทางแก้คือต้องหารายได้เสริม
แต่ปีนึงคงได้ปันผลเป็นหมื่น
ต้องลองคิดว่ากุมภาปีหน้า ปันผลออกมาจะเอามาลงทุนทำอะไร
เช่น ไปหาสูตรทำขนมปังอบกรอบดีมั้ยคะ น้องพนักงานราชการทำขายอยู่ น่าจะง่าย รสเนยน้ำตาล เนยกระเทียม
แต่ต้องลงทุนซื้อเตาอบ เครื่องสไลซ์ขนมปัง
ใส่ถุงขาย เล็ก 20 บาท 3 ถุง 50 บาท หรือ ถุงใหญ่ 50 บาท
เสาร์อาทิตย์ต้องหางานทำ
หนี้สินต้องระวังมากๆไม่ให้ถูกฟ้องล้มละลายนะ เพราะเป็นข้อต้องห้ามของข้าราชการ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่