Happy Times in
C h I n a C h a n g s h a Z h a n g j I a j I e
ถึงมันจะไม่สวยที่สุด แต่มันมีความทรงจำมากที่สุด
เพราะทุกการเดินทาง มีความสวยงามรออยู่
มีคำกล่าวนึงของคนจีนที่คุณจะต้องไปพิสูจน์ “วิวคือของแถม วิศวกรรมคือของจริง ” เพราะประโยคนี้เราจึงมาจีนอีกครั้งและยืนสูดออกซิเจนอยู่ตรงนี้ ที่นี่ “จางเจียเจี้ย ” ผม 28 ครับ กระทู้นี้เป็นกระทู้ครบรอบอายุ 28 ปีของผม ผมเขียนกระทู้รีวิวใน Pantip นี้มา 3 ปีแล้วครับ (ฮ่าๆๆๆ หัวเราะกลบเกลื่อนอายุ) มาพูดถึงกระทู้นี้กันต่อ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ผมมาจีน ครั้งแรกไป จูไห่ ฮองกง มาครับ มันก็โอเครนะ แต่จะเจอแบบความเป็นจีนจ๋าเกินไป ไร้ซึ่งระเบียบพอๆกับบ้านเรา ทุกอย่างไร้ซึ่งเหตุผลและภาษาอังกฤษไร้ซึ่งความหมายเมื่อมาที่จีน และคิดอยู่ตลอดว่าจะไม่มาอีกเป็นครั้งที่ 2 พูดไปก็กลืนน้ำลายตัวเอง ถึงจะไม่ชอบเท่าไหร่ แต่อดตื่นเต้นและชอบวิวหลักล้านของที่นี่ไม่ได้จริงๆที่จีนมีอยู่ 2 ที่ที่ ผมตั้งใจจะมาให้ได้ ที่แรกคือที่นี่ "จางเจียเจี้ย"
และที่ที่ 2 คือ "เฟิ่งหวง" ซึ่งครั้งนี้มีโอกาสจึงทำตามเป้าหมาย ครั้งนี้ผมจะพาคุณมาจางเจียเจี้ย สถานที่ๆคนไทยรู้จักกันในชื่อหุบเขา อวตาร และนำเสนอในแบบฉบับของผม 28
สิ่งที่คุณต้องเตรียมพร้อม ก่อนจะไป นอกจากที่พัก
1. PASSPORT (หนังสือเดินทาง)
ถ้าทำเอง 1,500 บาท หรือถ้าจ้างทำก็จะราคาสูงขึ้นอีก 300 บาทครับ
3. กระแสไฟฟ้าที่ใช้ 220 V. หัวปลั๊กใช้แบบเดียวกับ ไทย
4. แลกเงิน หยวน โดยประมาณจะอยู่ที่ 1 CNY = 4.xx -5.xx บาท
5. SIM2Fly เพราะที่จีนจะบล็อกเราทุกอย่าง ไม่ว่าจะ facebook , Line โดย SIM2Fly สมัยนี้ไม่ต้องโหลด แอพVPN ก็สามารถใช้งานได้เลยครับ
6. ทิชชู่เปียก อันนี้สำคัญยิ่งชีพ ที่จีนจะเป็นส้วมซึมครับ (ไม่มีที่ฉีดก้น) ยกเว้นในโรงแรม จะเป็นชักโครก ให้เรา
7. ร่ม และ ผ้ากันฝน ในกรณีที่คุณไปหน้าฝน ถ้าไปหน้าหนาวก็ต้องเตรียมชุดให้พร้อมครับ
8. รองเท้าผ้าใบ ในกรณีที่สาวๆชอบใส่ส้นสูง ถ้าคุณจะขึ้นอุทยานจางเจียเจี้ย หรือ ไปสะพานแก้ว หรือ ระเบียงแก้ว เขาห้ามใส่ส้นสูงครับ ให้เตรียมผ้าใบไปด้วย เพราะอาจจะทำให้กระจกเขาเป็นรอย
9. กล้องคู่ใจ ในกรณีนี้ควรซื้อถุงกันชื้น ไว้ในกระเป๋ากล้องด้วยครับ เพราะอากาศค่อนข้างชื้น เดี่ยวกล้องจะมีความชื้นและ ราขึ้น
ทริปนี้เราเริ่มเดินทาง วันที่ 1 Jun – 5 Jun 2019 ซึ่งผมพึ่งไปมาต้นเดือนสดๆร้อน มารีวิวให้คุณได้ชมกัน อาจจะไม่ละเอียดมากนักแต่คิดว่าพอเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย สำหรับทริปนี้ผมมีตั้งเป้าหมายไว้ 3 อย่างครับ คือ 1. สูดอากาศที่หุบเขาอวตาร 2. นั่งกระเช้าลอยฟ้าที่ยาวที่สุดในจีน 3. กินเนื้อ ซาลาเมนเดอร์ (อาจจะแปลกหน่อยแต่อยากลองชิม) มาดูกันครับ 4 วันผมไปไหนกันบ้าง บางสถานที่อาจจะแค่แวบๆ ใช้เวลาน้อย ต้องขออภัยด้วยครับ เพราะการวางแผนมาจีน สิ่งแรกที่คุณต้องคำนึงถึงคือเวลา คุณอาจจะต้องเผื่อเวลาไว้ 30 นาทีเสมอในทุกกิจกรรมของคุณ เพราะที่นี่เป็นเมืองท่องเที่ยว และ ประชากรที่มาเที่ยวเยอะมาก
ผมลืมบอกไป ทริปนี้ผมไม่ได้มาคนเดียวนะครับ ผมกลัว ผมมากับพี่ๆที่ออฟฟิต รวมทั้งหมด 6 ชีวิต งานนี้เทิดเทิงแน่ๆ ฮ่าๆ ๆ และทริปนี้ผมร่วมเดินทางกับทัวร์ I CHINA เป็นทัวร์ ส่วนตัว มีไกด์ให้ด้วยคนนึง (เป็นคนจีนพูดไทยได้)
ตารางการเดินทาง 1 – 5 Jun 2019
ก่อนออกเดินทาง เปิดเพลง บิ้วอารมณ์กันหน่อย
グランドエスケープ - RADWIMPS feat.三浦透子 | HARAKEN feat.知念結~ (Cover) 字幕/歌詞付【作業用BGM/LOOP】
Day1 : 1 /06/2019
เป็นวันเสาร์ เราเดินทางไป ฉางซา ด้วยสายการบิน Thai Air Asia สายการบินราคาประหยัดที่สุดใน AEC (FD540 ) ราคา 6,xxx – 7,xxx ออกเดินทาง 18.00 น- 22.20 น. ใช้เวลาในการเดินทาง 3 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำครับ สามารถสั่งอาหารบนเครื่องได้ครับ หมดกังวลเรื่องปากท้อง เวลาที่ ฉางซาจะเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมงครับ ปรับเวลาของท่านด้วย
22.30 น. ถึง ฉางซาครับ จากสนามบินสามารถเรียกรถได้หลายทางที่ west station หรือเรียก แท็กซี่ที่สนามบินก็ได้ครับ แต่เรทแอบแพง โรงแรมที่เราจะใช้พักคืนนี้คือ Huafeng Huatian Holiday Hotel Ningxiang เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว ครับ แต่มันอยู่ห่างจากสนามบินฉางซา ต้องใช้เวลา 1 ชั่วโมงในการไปครับ ที่พักคุณควรทำการจองไว้ล่วงหน้าด้วยนะครับ ที่ๆเราจองที่นี่เพราะมันอยู่ใจกลางเมือง ฉางซา และใกล้ west station Changsha และราคารับได้ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จองโรงแรม1
มาถึงโรงแรมสิ่งแรกที่ทำคือ กินมาม่าที่เอามาจากไทยครับ ฮ่าๆๆ หิวมาก และเมื่อหัวถึงหมอนก็นอนเลยครับ น้ำไม่อาบ เพราะพรุ่งนี้ออกไปตั้งแต่เช้า เพราะจาก ฉางซาไป จางเจียเจี้ยใช้เวลา 5 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำครับ
สามารถดูตารางบัสได้ที่นี่ครับ :
https://www.chinabusguide.com/
Day2 : 2/06/2019
ตื่น 6.00 น. พร้อมกับวิวเมือง ฉางซา ที่เต็มไปด้วยหมอกจางๆ สวยอีกแบบครับ ล้างหน้าแปรงฟันและเตรียมชุดของเราให้พร้อม และ ไปทานอาหารเช้ากันที่โรงแรมครับ
รับประทานอาหารเช้าก็จะเป็นเหมือนโรงแรมทั่วไป แต่ที่นี่ ไม่ใช่โรงแรมทั่วไปสิครับ อาหารสไตล์จีน จึงถือกำเนิดขึ้น
จากนั้นเราออกเดินทาง ไปจางเจียเจี้ยกัน ที่ west station Changsha จะไป Zhangjiajie (120 ¥) และวันนี้เราจะไป Tianmenshan (ภูเขาเทียนเหมินซาน) เพื่อไป ถ้ำประตูสวรรค์ ซึ่งภูเขาเทียนเหมินซานจะตั้งอยู่ในเมืองจางเจียเจี้ยครับ
นั่งรถมาแบบยาวนานมาก ขึ้นทางด่วนกันแบบข้ามอำเภอ ข้ามจังหวัด 5 ชั่วโมง ในที่สุดก็มาถึง เวลาในตอนนี้คือเที่ยง จึงต้องหาร้านทานครับ ร้านซึ่งอยู่ในเมืองจางเจียเจี้ย เราทานที่ “HEY JULL VALLEY FRESH FUNGUS / HOTPOT” ซึ่งเป็นร้าน hotpot เมนูแนะนำคือหม้อไฟเห็ด หรือ หม้อไฟสุกี้เห็ด อร่อยมากครับ ใส่เส้นหมี่ด้วยทานคู่กับน้ำจิ้มสุกี้เด็ดมากๆ
ร้านอาหารจีน ส่วนมาก 80% เลยคือจะเน้นมัน ชนิดที่ว่าน้ำมันท่วมจาน เพราะการที่ใส่น้ำมันเยอะๆ เป็นความเชื่อของคนจีนว่ามันสามารถทานกับข้าวสวยได้เยอะ และอยู่ท้อง เหมาะกับวันที่จะต้องใช้แรงเยอะๆ คุณคงสงสัย ทำไมคนจีนถึงไม่ค่อยอ้วนทั้งที่อาหารเน้นน้ำมันขนาดนี้ เพราะคนจีนทานข้าวคู่กับชาไง ชาจีนมีสรรพคุณสามารถล้างสารพิษ และความมันออกจากร่างกายได้ดี มันเป็นตัวช่วยที่ดีของบ้านเขาเลย น้ำที่จีนราคาแพงพอๆกับ เครื่องดื่มอื่นๆนะคุณ ขวดเล็ก 2 ¥ - 3 ¥ เครื่องดื่มอีกอย่างที่แพงมาก ถ้าเทียบกับเครื่องดื่มชนิดอื่นคือ น้ำอัดลม แพงมาก โค้ก ขนาด 1.5 ลิต 30 ¥ (ราคาตามร้านอาหารครับถ้าตามห้างจะถูกกว่านี้นิดนึง) แพงกว่าเบียร์ซะอีก
จากนั้นเราเดินทางต่อเพื่อไปขึ้นกระเช้าเพื่อขึ้นไป ภูเขาเทียนเหมินซาน คุณต้องวางแผนให้ดี เพราะเวลาที่ใช้อาจจะสูญเสีได้ การที่คุณจะขึ้นไปประตูสวรรค์นั้น มีด้วยกัน 3 ช่องทาง คือ 1. ขึ้นกระเช้า ลง บัส 2. ขึ้นบัส ลง กระเช้า และ 3. ขึ้นกระเช้า ลงกระเช้า ของผมเลือกแบบที่ 1 ครับ เพราะตั้งใจจะขึ้นกระเช้าอยู่แล้ว เพราะเป็นความตั้งใจก่อนจะมาว่าต้องได้นั่งกระเช้าที่ยาวที่สุดของจีนให้ได้ และจากนั้นนั่งรถไปจุดปล่อยกระเช้า อย่าลืมซื้อตั๋วด้วยครับ รอบละ 250 ¥ แอบทราบทีหลังว่าที่โรงแรมก็สามารถจองตั๋วได้แถมราคาถูกกว่าด้วย ลองคุยกับทางโรงแรมดูครับว่ามีแพคเก็ตไรรึป่าว
มันดีอ่า หัวใจตอนนี้เต้นไม่เป็นจังหวะเลยคุณ ถ้าพร้อมแล้วก็ลุย…………..! ลืมบอกอีกอย่าง การขึ้นกระเช้า เราไม่สามารถเลือกผู้ร่วมกระเช้าได้นะครับ แล้วแต่ดวงจริงๆ ถ้าไปกับเพื่อนเยอะๆอาจจะไม่ได้ไปด้วยกัน กระเช้านึงนั่งได้ 8 คนครับ แต่แก๊งค์ผมมากับดวง เราได้ไปครบ 6 คนครับ และ กระเช้ามีความยาวระยะทาง 7.5 km. ครับและสูงจากตัวเมือง ประมาณ 1300 เมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30-40 นาที พร้อมแล้วก็ลุย!
โคตรตื่นเต้น ใจเต้นแรงมากครับ
จำโค้งพวกนี้ไว้นะครับ 99 โค้งขากลับ มึนยาวแน่ๆ ฮ่าๆๆๆๆ
เรามาถึงข้างบนแล้วครับ ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เพราะ สวยจริงๆครับ ขึ้นมาด้านบนก็ต้องเตรียมตัวเข้าห้องน้ำ ให้เรียบร้อย อย่าได้ลังเลใจ เพราะจากจุด start เดินอีกไกลกว่าจ
[CR] Yellow day at China Delightful by 28 photographer 2019
มาถึงโรงแรมสิ่งแรกที่ทำคือ กินมาม่าที่เอามาจากไทยครับ ฮ่าๆๆ หิวมาก และเมื่อหัวถึงหมอนก็นอนเลยครับ น้ำไม่อาบ เพราะพรุ่งนี้ออกไปตั้งแต่เช้า เพราะจาก ฉางซาไป จางเจียเจี้ยใช้เวลา 5 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำครับ
สามารถดูตารางบัสได้ที่นี่ครับ : https://www.chinabusguide.com/
Day2 : 2/06/2019
ตื่น 6.00 น. พร้อมกับวิวเมือง ฉางซา ที่เต็มไปด้วยหมอกจางๆ สวยอีกแบบครับ ล้างหน้าแปรงฟันและเตรียมชุดของเราให้พร้อม และ ไปทานอาหารเช้ากันที่โรงแรมครับ
รับประทานอาหารเช้าก็จะเป็นเหมือนโรงแรมทั่วไป แต่ที่นี่ ไม่ใช่โรงแรมทั่วไปสิครับ อาหารสไตล์จีน จึงถือกำเนิดขึ้น
จากนั้นเราออกเดินทาง ไปจางเจียเจี้ยกัน ที่ west station Changsha จะไป Zhangjiajie (120 ¥) และวันนี้เราจะไป Tianmenshan (ภูเขาเทียนเหมินซาน) เพื่อไป ถ้ำประตูสวรรค์ ซึ่งภูเขาเทียนเหมินซานจะตั้งอยู่ในเมืองจางเจียเจี้ยครับ
นั่งรถมาแบบยาวนานมาก ขึ้นทางด่วนกันแบบข้ามอำเภอ ข้ามจังหวัด 5 ชั่วโมง ในที่สุดก็มาถึง เวลาในตอนนี้คือเที่ยง จึงต้องหาร้านทานครับ ร้านซึ่งอยู่ในเมืองจางเจียเจี้ย เราทานที่ “HEY JULL VALLEY FRESH FUNGUS / HOTPOT” ซึ่งเป็นร้าน hotpot เมนูแนะนำคือหม้อไฟเห็ด หรือ หม้อไฟสุกี้เห็ด อร่อยมากครับ ใส่เส้นหมี่ด้วยทานคู่กับน้ำจิ้มสุกี้เด็ดมากๆ
ร้านอาหารจีน ส่วนมาก 80% เลยคือจะเน้นมัน ชนิดที่ว่าน้ำมันท่วมจาน เพราะการที่ใส่น้ำมันเยอะๆ เป็นความเชื่อของคนจีนว่ามันสามารถทานกับข้าวสวยได้เยอะ และอยู่ท้อง เหมาะกับวันที่จะต้องใช้แรงเยอะๆ คุณคงสงสัย ทำไมคนจีนถึงไม่ค่อยอ้วนทั้งที่อาหารเน้นน้ำมันขนาดนี้ เพราะคนจีนทานข้าวคู่กับชาไง ชาจีนมีสรรพคุณสามารถล้างสารพิษ และความมันออกจากร่างกายได้ดี มันเป็นตัวช่วยที่ดีของบ้านเขาเลย น้ำที่จีนราคาแพงพอๆกับ เครื่องดื่มอื่นๆนะคุณ ขวดเล็ก 2 ¥ - 3 ¥ เครื่องดื่มอีกอย่างที่แพงมาก ถ้าเทียบกับเครื่องดื่มชนิดอื่นคือ น้ำอัดลม แพงมาก โค้ก ขนาด 1.5 ลิต 30 ¥ (ราคาตามร้านอาหารครับถ้าตามห้างจะถูกกว่านี้นิดนึง) แพงกว่าเบียร์ซะอีก
จากนั้นเราเดินทางต่อเพื่อไปขึ้นกระเช้าเพื่อขึ้นไป ภูเขาเทียนเหมินซาน คุณต้องวางแผนให้ดี เพราะเวลาที่ใช้อาจจะสูญเสีได้ การที่คุณจะขึ้นไปประตูสวรรค์นั้น มีด้วยกัน 3 ช่องทาง คือ 1. ขึ้นกระเช้า ลง บัส 2. ขึ้นบัส ลง กระเช้า และ 3. ขึ้นกระเช้า ลงกระเช้า ของผมเลือกแบบที่ 1 ครับ เพราะตั้งใจจะขึ้นกระเช้าอยู่แล้ว เพราะเป็นความตั้งใจก่อนจะมาว่าต้องได้นั่งกระเช้าที่ยาวที่สุดของจีนให้ได้ และจากนั้นนั่งรถไปจุดปล่อยกระเช้า อย่าลืมซื้อตั๋วด้วยครับ รอบละ 250 ¥ แอบทราบทีหลังว่าที่โรงแรมก็สามารถจองตั๋วได้แถมราคาถูกกว่าด้วย ลองคุยกับทางโรงแรมดูครับว่ามีแพคเก็ตไรรึป่าว
มันดีอ่า หัวใจตอนนี้เต้นไม่เป็นจังหวะเลยคุณ ถ้าพร้อมแล้วก็ลุย…………..! ลืมบอกอีกอย่าง การขึ้นกระเช้า เราไม่สามารถเลือกผู้ร่วมกระเช้าได้นะครับ แล้วแต่ดวงจริงๆ ถ้าไปกับเพื่อนเยอะๆอาจจะไม่ได้ไปด้วยกัน กระเช้านึงนั่งได้ 8 คนครับ แต่แก๊งค์ผมมากับดวง เราได้ไปครบ 6 คนครับ และ กระเช้ามีความยาวระยะทาง 7.5 km. ครับและสูงจากตัวเมือง ประมาณ 1300 เมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30-40 นาที พร้อมแล้วก็ลุย!
โคตรตื่นเต้น ใจเต้นแรงมากครับ
จำโค้งพวกนี้ไว้นะครับ 99 โค้งขากลับ มึนยาวแน่ๆ ฮ่าๆๆๆๆ
เรามาถึงข้างบนแล้วครับ ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เพราะ สวยจริงๆครับ ขึ้นมาด้านบนก็ต้องเตรียมตัวเข้าห้องน้ำ ให้เรียบร้อย อย่าได้ลังเลใจ เพราะจากจุด start เดินอีกไกลกว่าจ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น