เด็กเยาวชนทุกชุดของหนองบัว พิชญ เล่นแบบทีมชาติไทยชุด 14 ปี ที่เอคโคโน่คุมเลย คือ วิ่งสู้ฟัด เพรสซิ่งสูงแดนบน วิ่งบีบเข้าหาบอลเร็วเมื่อเสียบอล ซึ่งไม่ได้วิ่งเพรสแบบมั่วซั่วแต่เคลื่อนตัวกันเป็นทีมสอดประสานกัน และเล่นบอลทำชิ่งบนพื้นในการสร้างเกมครองบอลเก่ง ซึ่งมันเป็นวิธีการที่ล้มทีมใหญ่ ในวงการขาสั้น และทีมหัวแถวของลีกเยาวชนแห่งชาติหลายๆทีม


ไอเดียความคิดสร้างสรรค์ในการเข้าทำประตูด้วยลูกสูตร (ปกติมักจะเห็นในทีมลีกเยาวชนญี่ปุ่น)

ทีมจังหวัดเล็กใน ไทยลีก 1 หรือ 2 อย่าง ประจวบ ลำปาง อ่างทอง อุบล อยุธยา ศรีษะเกส สุโขทัย ราชบุรี ทีมจังหวัดเหล่านี้มีประชากรทรัพยากรเด็กและความพร้อมทางเศรษฐกิจมากกว่าจังหวัดหนองบัวลำภูด้วยซ้ำ

จังหวัดหนองบัวลำภู มีประชากรเพียง 5 แสนคน เมื่อเทียบกับจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมีประชากรถึง เกือบ 3 ล้านคน ทรัพยากรเด็กน้อยกว่าจังหวัดนครราชสีมาเกือบ 6 เท่า หรือเทียบกับจังหวัดขอนแก่นประชากรเกือบ 2 ล้านคน ทรัพยากรน้อยกว่าเกือบ 4 เท่า หรือเทียบกับจังหวัดบุรีรัมย์ประชากร 1 ล้านห้าแสนคน น้อยกว่าเกือบ 3 เท่า แต่แนวทางการพัฒนาเยาวชนทั้งในเรื่องแนวทางการเล่น และการจัดการในเรื่องระบบเยาวชน หนองบัวพิชญทำได้ดีมากๆ


ไม่อยากจะคิดถ้าทุกจังหวัดขนาดเล็กไปจนถึงใหญ่เล่นไปในแบบ เด็กเยาวชนหนองบัว พิชญ หมด ฟุตบอลเยาวชนบ้านเราจะแข็งแกร่งมากขึ้นแค่ไหน

ผลงานในลีกเยาวชนแห่งชาติ เป็นแชมป์ระดับภาคอีสานตอนบนแทบทุกรุ่นอายุ ทะลุเข้าไปเล่นในรอบชิงแชมป์ประเทศ ทั้งที่ทรัพยากรนักฟุตบอลเด็กในจังหวัดมีค่อนข้างน้อยมากเมื่อเทียบกับจังหวัดอื่น

รุ่นอายุ 13 ปี

รุ่น 15 ปี

ผลงานในฟุตบอล ช้าง จูเนียร์ คัพ รุ่น 13 ปี ทะลุเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศ ล้มทีมใหญ่อย่างเมืองทอง ยูไนเต็ด อัสสัมชัญ ศรีราชา เข้าไปเจอกับทีมเด็กบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ด้วยฟุตบอลวิ่งสู้ฟัด สไตล์เพรสซิ่ง วิ่งบีบ และต่อบอลทำชิ่งบนพื้น ผสมผสานกับการเล่นลูกสูตรต่างๆ ผลงานไม่เท่าไร แต่รูปแบบการเล่นเหมือนไม่ใช่ทีมจังหวัดเล็ก แต่ทีมจังหวัดเล็กๆอย่างหนองบัวพิชญ ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า สามารถทำได้ ถ้าตั้งใจทำ แล้วทีมจังหวัดอื่นๆไม่สนใจเอาแบบอย่างบ้างหรือ



และผลงานสุดแจ่ม ของทีมจังหวัดเล็กๆแห่งนี้ คือการเอาชนะ อดาเดมี่ ที่มีเป้าหมายระดับโลก อย่าง แอสไพน์ อคาเดมี่ ของกาตาร์มาด้วยเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งอคาเดมี่แห่งนี้ใช้งบประมาณลงทุนไปเป็นหมื่นล้าน