สวัสดีค่า เมื่ออาทิตย์ที่แล้วอ๊อฟนั่งคิดคอนเท้นท์จะเขียนในพันทิปอยู่นาน

อยู่ๆ ก็ปิ๊งไอเดียอยากจะทำรีวิว Top 5 Beauty Products ของแต่ละประเทศ

ที่เคยใช้มา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอางหรือว่าสกินแคร์จากประเทศต่างๆ

เช่น ประเทศจีน ญี่ปุ่น อังกฤษ และประเทศแรกที่อ๊อฟจะมารีวิวให้ทุกคนได้อ่าน

นั่นก็คือ “ 5 ไอเทม Beauty Products จากประเทศอเมริกา” นั่นเอง

ไม่ใช่แค่ถูกและดีอย่างเดียวนะ แต่ดีจนต้องซื้อซ้ำเลยแหละ

จะเป็นอะไรบ้างไปดูกันเลยค่า

และไอเทมแรกที่อ๊อฟอยากจะแนะนำสาวๆ ให้มีติดบ้านไว้เลยก็คือ

สครับผิวจากแบรนด์ ST.Ives ซึ่งเค้าเป็นแบรนด์จากประเทศอเมริกาและเป็นแบรนด์

สครับขัดผิวอันดับหนึ่งของที่นั่น ซึ่งบ้านเราพึ่งมีการนำเข้าเป็นทางการมาได้ไม่กี่ปีมา

นี้เอง และปรับแพคเกจจิ้งใหม่ให้ดูสดใสน่าใช้มากขึ้นกว่าเดิมเยอะด้วย

ซึ่งอ๊อฟใช้มาหลายสูตรแล้ว เคยรีวิวไปใน Skincare Routine ของอ๊อฟด้วย 

แต่สูตรที่ชอบที่สุดเลยคือ St. Ives : Energizing Coconut & Coffee Scrub

เป็นสครับที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ 100% ตัวนี้ เปิดหลอดออกมากลิ่นกาแฟ

หอมมากกก...หอมเตะจมูกเลย ใช้จนหมดหลอดอีกนิดก็จะตัดหลอดแล้วววว

ตัวนี้สามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย สามารถสครับได้บ่อย ๆ ไม่ต้องกลัวผิวจะแห้งหรือว่าแสบผิวเลย

เพราะตัวนี้สครับแล้วไม่บาดผิวจ้า ซึ่งการสครับผิวเนี่ย อ๊อฟแนะนำเลยว่าสาวๆ เราควรทำเป็นประจำสม่ำเสมอ

เพราะมันมากกว่าแค่การล้างหน้า นอกจากจะช่วยขัดเซลล์ผิวเก่าได้ดีแล้ว ยังทำให้เวลาเราแต่งหน้า Make Up 

ติดผิวหน้าได้ดีขึ้น แถมกาแฟยังช่วยขจัดเซลลูไลท์ในร่างกายที่อยู่บริเวณใต้ผิวหนังของเราได้ด้วยนะ

ยิ่งสาวๆ ที่มีปัญหาเซลลูไลท์บริเวณขาใช้สครับตัวนี้สครับทุกอาทิตย์ทำอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ

พวกเซลลูไลท์ลดลงอย่างเห็นได้ชัดเลย เห็นอ๊อฟใช้หมดเร็วๆ เพราะเอามาขัดตัวขัดขานี่แหละนะ 

ฮ่าๆๆๆ พอสครับเสร็จล้างออกผิวนุ่มและใสกิ๊งเลย

แบรนด์ต่อมาที่อ๊อฟขอยกให้เป็นไอเทมอีกตัวที่ควรมีเลยก็คือ “ Kiehl’s ” ซึ่งแบรนด์คีลส์เค้าก็เป็นแบรนด์สกินแคร์เก่าแก่

ที่มีต้นกำเนิดเริ่มขึ้นที่New York City ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นแบรนด์สกินแคร์ที่เน้นสารสกัดที่มาจากธรรมชาติ

จริงๆ เค้ามีไอเทมที่ดีหลายตัวเลย แต่วันนี้อ๊อฟขอยกให้ KIEHL'S SUPERBLY EFFICIENT ANTI-PERSPIRANT & DEODORANT CREAM

(ชื่อยาวมากกก) เป็นครีมระงับกลิ่นเหงื่อใต้วงแขนที่ดับกลิ่นเต่าได้ดีมากกกกกกก ไม่ว่ากลิ่นเต่าของคุณจะแรงแค่ไหนตัวนี้เอาอยู่จ้า

หลังจากที่ลองโรลออนไม่ว่าจะเป็นแบบลูกกลิ้ง แบบผงแป้ง แบบครีมมาหลายยี่ห้อ

 ขอยกให้ Kiehl’s Deodorant Cream หลอดนี้แหละที่ระงับกลิ่นได้ดีมาก

 เป็นหลอดบีบใช้งานง่าย แค่บีบเนื้อครีมออกมาทารักแร้ 

กลิ่นเต่าของคุณจะไม่ออกมาเพ่นพ่านอีกเลย

ขนาด 50 มล. ราคา 600 บาท พิกัดร้าน Kiehl’s และ Kiehl’s Online

ต่อมาเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากแบรนด์ “Aveeno” เป็นแบรนด์ที่ผู้เชี่ยวชาญด้าน

ผิวหนังในอเมริกาแนะนำว่าเหมาะสำหรับคนที่ผิวบอบบาง ผิวแห้งและแพ้ง่ายใช้ได้ 

นอกจากนี้ยังพิสูจน์มาแล้วว่าช่วยบำรุงผิวแห้งเสียให้กลับมามีสุขภาพดี ใน 1 สัปดาห์

เชียวแหละ คนผิวแห้งต้องถูกใจสิ่งนี้สำหรับ Aveeno Daily Moisturizing Lotion 

โลชั่นที่ช่วยบำรุงผิวและให้ความชุ่มชื่นกับผิวได้ดีมาก

ใครที่ผิวแห้ง ผิวลอกหรือมีอาการคันจากผิวแห้ง ใช้ตัวนี้แล้วอาการคันหายเลย 

เพราะเค้าให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ดีมาก อ๊อฟชอบตรงถึงเนื้อครีมเค้าจะเข้มข้น

แต่ก็ไม่ทำให้เหนียวเหนอะหนะผิวเลย เพราะบ้านเราอากาศร้อนทาโลชั่นทาครีมแล้ว

เหนอะหนะผิวคงไม่ดีแน่ๆ ใครที่ผิวแห้งแบบอ๊อฟแนะนำเลยจร้า

ราคา 399 บาท พิกัด Boots , Watsons , Tops , Villa Market

ต่อมาเป็นไอเทมดูแลริมฝีปากกันบ้าง สำหรับแบรนด์ Vaseline ซึ่งแบรนด์วาสลีนเนี่ย

เค้าก็อยู่คู่กับบ้านเรามายาวนานมาก น่าจะประมาณ 20 ปีเห็นจะได้ ซึ่งต้นกำเนิดของ

แบรนด์เนี่ยเค้าสร้างมาเพื่อช่วยฟื้นบำรุงสภาพผิวของชาวอเมริกา แล้วจึงพัฒนาต่อมา

เรื่อยๆ ซึ่งแบรนด์ของวาสลีนเค้าก็มีโปรดักส์หลายตัว แต่วันนี้อ๊อฟจะมาแนะนำไอเทม

ที่อ๊อฟรู้สึกว่าราคาถูกและดี นั่นก็คือ Vaseline Lip Therapy

เป็นตลับเหล็กเหมาะสำหรับคนที่ปากแห้ง ปากลอก

ส่วนตัวอ๊อฟชอบพกมาทาระหว่างวัน และชอบตรงสีชมพูของเค้า

ทาออกมาธรรมชาติดี ช่วยบำรุงปากได้ดีมากกก แต่อย่าทาเยอะนะคะ 

เดี๋ยวเค้าหาว่าไปกินข้าวมันไก่มา ฮ่าๆๆ เพราะทาแล้วปากค่อนข้างมันอยู่

ราคา 159 บาท พิกัด Watsons

มาถึงแบรนด์สุดท้ายแล้ว “ Cerave” เป็นเวชสำอางแบรนด์ดังจากอเมริกา 

 เป็นสกินแคร์ของคนผิวบอบบาง แพ้ง่ายไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ใช้ได้หมด

 บางคนอาจจะเคยพรีออเดอร์แบรนด์นี้มาใช้ในไทย แต่ตอนนี้ทางบริษัทลอรีอัลเค้า

นำเข้ามาจำหน่ายในบ้านเราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ช่วงที่หน้าอ๊อฟหน้าแห้ง 

ลอกเป็นขุย อ๊อฟจะใช้ Cerave Moisturizing Lotion / cream แทน

ซึ่งทั้งสองตัวแตกต่างกันตรงเนื้อครีมกับเนื้อโลชั่น แต่คุณสมบัติหลักๆ คือ

เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ช่วยบำรุงผิวและลดการสูญเสียน้ำในผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น 

และให้ความชุ่มชื่นกับผิวได้ดีมาก ถ้าช่วงไหนหน้าแห้งมาก อ๊อฟจะใช้

ตัวที่เป็นเนื้อครีมแทน พอผิวชุ่มชื่นขึ้น ปัญหาการเกิดริ้วรอยในอนาคตก็ลดลง

CeraVe Facial Moisturizing Lotion 52 ml. / 595 บาท
CeraVe Moisturizing Lotion 473 ml. / 690 บาท
พิกัด Boots, Watsons, eveandboy หรือร้านขายยาชั้นนำทั่วไป

และทั้งหมดก็เป็น US Beauty Products ที่วันนี้อ๊อฟคิดว่ามันใช้ดีและต้องซื้อซ้ำ

 สำหรับกระทู้หน้าจะเป็น Beauty Products ของประเทศอะไร

อย่าลืมติดตามกันด้วยน้า