สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 50
คือเป็นกระทู้ข่าวอีกประเด็นนึง แต่บางคนก็มาเย้ยแฟนคลับเค้า มันใช่เวลาป่ะ เป็นปกติอยู่แล้วที่แฟนคลับเค้าต้องออกมาปกป้อง เพราะเค้าตามศิลปินจริงๆมาหลายปี คงไม่มีใครคิดหรอกว่าเค้าจะเคยทำผิดแบบนั้น แล้วเมนต์แบบนี้มักขึ้นทอปเม้นต์ตลอด แฟนคลับเค้ามาเห็นจะรู้สึกยังไง ตัวหลักของวง คนสร้างวงเพิ่งออกจากวงไป ตอนนี้เค้าก็รู้สึกแย่มากพอแล้วอ่ะ อยากให้เห็นใจกันบ้าง
ความคิดเห็นที่ 42
เป็นไปได้ไหมว่า ฮันบินกลัวหยางจะรู้เรื่อง ซึงฮุนดูเหมือนรู้อะไรมาเลยพยายามจะติดต่อคุยกับเธอ อาจเป็นไปได้ว่าอยากให้ปกปิดเรื่องฮันบิน แต่เรื่องดันไปถึงหยางแล้วหยางก็ไม่อยากให้เรื่องมันแดงเพราะคงไม่อยากเสียฮันบินไป เลยเรียกเธอไปคุยแต่คุยอะไรแค่ไหนคงไม่มีใครรู้เพราะมันไม่มีหลักฐาน ถามว่าหยางมันดูแลศิลปินไม่ดีใช่ไหมตอบเลยว่าใช่ แต่ถ้าใครบอกมันไม่ปกป้องศิลปินเราว่าไม่ใช่นะเพราะถ้าถึงขนาดเรียกเจ๊คนนี้ไปคุยคือหยางมันก็ปกป้องสุดๆแล้วเหมือนพยายามจะไม่ให้เรื่องแดง แล้วถ้าบอกว่ามันปกป้องศิลปินในทางที่ผิดไหมก็ถูกอีกแต่หยางก็คงไม่อยากเสียศิลปินอย่างฮันบินไปหรอกถูกไหม หยางมันดูเหมือนคนมีเรื่องซุกซ่อนเยอะเลยนะถ้าดูจากข่าวในตอนนี้แต่คราวที่แล้วที่ว่าหยางมีส่วนกับการค้าประเวณีก็เหมือนเรื่องเดิมๆมาเล่าใหม่ไม่มีหลักฐานอะไรแล้วก็ปล่อยเงียบ ถ้ามองรวมๆของข่าวทั้งหมดตั้งแต่เริ่มจากซึงรีมาเลย ทำไมเหมือนหยางมันคือฝ่ายคอยตามเช็ดคอยปกปิดให้ศิลปินที่แอบไปทำเรื่องเอาไว้มากกว่าตัวมันทำธุรกิจสีเทาอย่างที่หลายคนบอก หลายคนบอกหยางเหมือนมีอะไรเทาๆซ่อนเอาไว้แล้วถ้าหยางมันมีจริงๆทำไมศิลปินถึงต้องกลัวหยางรู้ เบื้องลึกเบื้องหลังไม่รู้หรอกนะหยางมันทำอะไรแต่ถ้าดูจากข่าวในตอนนี้หยางมันก็ช่วยศิลปินสุดๆละนะ
ความคิดเห็นที่ 68
เราคือหนึ่งในนั้นคนที่ด่หยาง ในกระทู้ก่อน
ใครรู้จักนางฝากขอโทษด้วย555
ส่วนเรื่องฮันบิน ผิดก็ว่าไปตามผิด ส่วนใครที่ด่าดพ.คือต้องตั้งสติได้แล้วนะ สิ่งที่ดพ.ไม่ใช่การทำลายวายจีหรือไอดอลแต่คือการเอาความจริงที่ถูกซุกไว้ใต้พรมออกมาบอกต่อประชาชน ที่ผ่านมาถือว่าดพ.นางปราณีกับวายจีกับฮันบินอยู่นะ จากบทความแรก เหมือนให้ฮันบินสารภาพเองหรือวายจีสารภาพความจริงเอง แต่พอวายจีแถลงว่าตรวจไม่พบ รวมถึงฮันบินด้วย ดันแถลงว่าแค่คิดจะลองแต่ยังไม่เคยเสพ ก็โดนดพ.ตบด้วยความจริงที่ทำตัวเองนั้นแหละ
ดพ.ทำอะไรวายจีหรือฮันบินไม่ได้หรอก ถ้าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด
ใครรู้จักนางฝากขอโทษด้วย555
ส่วนเรื่องฮันบิน ผิดก็ว่าไปตามผิด ส่วนใครที่ด่าดพ.คือต้องตั้งสติได้แล้วนะ สิ่งที่ดพ.ไม่ใช่การทำลายวายจีหรือไอดอลแต่คือการเอาความจริงที่ถูกซุกไว้ใต้พรมออกมาบอกต่อประชาชน ที่ผ่านมาถือว่าดพ.นางปราณีกับวายจีกับฮันบินอยู่นะ จากบทความแรก เหมือนให้ฮันบินสารภาพเองหรือวายจีสารภาพความจริงเอง แต่พอวายจีแถลงว่าตรวจไม่พบ รวมถึงฮันบินด้วย ดันแถลงว่าแค่คิดจะลองแต่ยังไม่เคยเสพ ก็โดนดพ.ตบด้วยความจริงที่ทำตัวเองนั้นแหละ
ดพ.ทำอะไรวายจีหรือฮันบินไม่ได้หรอก ถ้าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
K-POP
WINNER (นักร้องนักดนตรี)
Dispatch เผยว่า ฮัน ซอฮีได้พูดคุยกับ ซึงฮุน WINNER ถึงเรื่องของ B.I
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
กระทู้ต้นเรื่องเผื่อใครตามไม่ทันนะคะ
[BREAKING] 'Dispatch' รายงานข่าว B.I iKON ใช้ยาเสพติด จากข้อความในแชท Kakao : https://ppantip.com/topic/38958083
[ข่าวลือ] มีรายงานว่าฮัน ซอฮี คือ A ดีลเลอร์ยาของ B.I : https://ppantip.com/topic/38962226
[คอนเฟิร์ม] "A" ดีลเลอร์ยาในคดีของ B.I คือ ฮัน ซอฮี 'ยาง ฮยอนซอกเป็นคนที่ทำให้เธอเปลี่ยนคำให้การ' : https://ppantip.com/topic/38963703
KBS รายงานว่า ยางฮยอนซอกข่มขู่ ฮัน ซอฮีเพื่อให้เปลี่ยนคำให้การเกี่ยวกับ B.I ในคดียาเสพติด : https://ppantip.com/topic/38963973
หลังจากที่ทางดิสแพทช์ได้เปิดเผยบันทึกแชทของ A ซึ่งล่าสุดได้มีการเปิดเผยว่าเธอคือ ฮันซอฮี อดีตเด็กฝึกหัดไอดอลที่ถูกจับกุมในปี 2016 ในคดียาเสพติด ซึ่งในบันทึกแชทได้เปิดเผยถึงการพูดคุยระหว่างเธอกับ B.I
จากบันทึกแชทในช่วงเดือน เมษายน ปี 2016 นั้นได้ใช้ในการกล่าวหา B.I ว่าพยายามซื้อยาเสพติดจาก นางสาว A ซึ่งในการสอบสวนครั้งแรก เธอได้ให้การว่าเธอได้นำยา LSD 10 เม็ดปให้กับ B.I ในช่วงเดือน พฤษภาคม ปี 2016 แต่แล้วเธอก็ได้เปลี่ยนคำให้การในการให้ปากคำในครั้งที่ 3 ซึ่งล่าสุดได้มีการระบุว่า ยางฮยอนซอก ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการเจรจากับ นางสาว A เพื่อให้เปลี่ยนคำให้การพร้อมกับมีการจัดหาทนายให้
ในการเปิดเผยหลักฐานล่าสุด ดิสแพทช์ ได้นำบันทึกแชทในห้องสนทนาลับ (Secret Chat) ของ Kakao Talk ที่ถูกบันทึกไว้เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2016 ซึ่งปรากฎชื่อของ อีซึงฮุน สมาชิกวง WINNER ที่เป็นผู้เปิดห้องแชทนั้นเพื่อพูดคุยกับ นางสาว A และในแชทนั้นมีการถามถึง B.I
ซึงฮุน: เธออยู่ไหน.
ฮัน ซอฮี : บ้าน.
ซึงฮุน: เร็วๆนี้ได้เจอฮันบินบ้างมั้ย.
ฮัน ซอฮี: คิม ฮันบิน? ก็น่าจะเดือนที่แล้วนะ? มันนับว่าเป็นเร็วๆนี้มั้ย? ช่างเถอะ, ฉันเจอเขาเดือนที่แล้ว.
ซึงฮุน: นี่ ทำอะไรอยู่เหรอ.
ฮัน ซอฮี: กำลังดูทีวีแล้วก็กิน. ทำไมส่งข้อความ Kakao ส่วนตัวมาล่ะ
ซึงฮุน: ฉันมีเรื่องสำคัญบางอย่างอยากคุยด้วยหน่อย. เธอต้องอยู่ตอบฉันก่อนนะ.
ฮัน ซอฮี: โอเค ได้.
ซึงฮุน: แป้ปนะ,เดี๋ยวโทรคุย
ฮัน ซอฮี : อื้ม เอาเลย.
ซึงฮุน: 010XXXXXXXX. โทรมาหน่อย
A ได้ให้ข้อมูลว่า อีซึงฮุน มีน้ำเสียงที่รีบร้อนในตอนที่โทรมา เพื่อบอกว่า B.I มีผลตรวจด้วยชุดตรวจสอบพื้นฐานออกมาเป็นบวก และได้สารภาพกับทYG ว่าเขาได้เสพยากับฉัน และอยากเจอฉันเพื่อคุยกันให้เร็วที่สุด เธอเลยไปเจอที่ใกล้ๆกับตึก YG
นางสาว A ได้ขับรถไปย่านฮัปจอง และไปรอที่จุดนัดพบ แล้วก็มีคนเปิดประตูรถขึ้นมานั่งเป็นคนที่เธอไม่คุ้นหน้ามาก่อน เค้าได้ปิดกล้องติดรถและหยิบโทรศัพท์ไปแล้วพูดกับนางสาว A ว่า
“ผมมาแทนซึงฮุน เกี่ยวกับเรื่องของ B.I ปิดเป็นความลับนะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นให้ติดต่อผม”
และหลังจากที่มีการสอบสวนครั้งแรกในวันที่ 22 สิงหาคม นางสาว A ก็ได้ติดต่อกลับไป เพื่อบอกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น และนำมาสู่การเจรจากับ ยางฮยอนซอก ในวันที่ 23 สิงหาคม ก่อนที่เธอจะเปลี่ยนคำให้การในการสอบสวนครั้งที่ 3 ตามที่เป็นข่าวออกมาก่อนหน้านี้
ทันทีหลังจากที่ได้รับการปล่อยตัวจากตำรวจเมื่อวันที่ 22สิงหาคม ฮัน ซอฮีติดต่อไปที่ 'K'.และบอก 'K' ว่าเธอโดนจับและบอกเรื่องบีไอไปกับตำรวจ
K มาหาเธอที่ที่พักเพื่อคุยเกี่ยวกับเรื่องการสอบสวน และมารับในวันที่ 23 สิงหาคม 2016 เพื่อไปยังตึก YG ENT. ด้วยกัน
เมื่อมาถึงที่ตึก ฮันซอฮีจำได้ว่าเธอขึ้นไปที่ชั้น 7 ซึ่งเป็นออฟฟิศของยางฮยอนซอก เธอบอกว่ายางฮยอนซอกขอมือถือของเธอก่อนที่จะเริ่มพูดคุยกัน ตลอดเวลาที่พูดคุยกันชั่วโมงครึ่ง เขาพยายามยามจะข่มขู่เธอด้วย
ฮันซอฮีบอกว่าตอนนั้นเธอหวาดกลัว เธอขอโทรศัพท์มือถือเธอคืนเพื่อที่จะโทรหาแม่และจากนั้นจึงตรงไปยังห้องน้ำ และแอบถ่ายรูปได้ ตอน 10:38PM ในวันที่ 23 สิงหาคม 2016 ซึ่งเห็นเงาสะท้อนของเธอ
'Dispatch' ได้โทรไปยัง YG Entertainment's ถึงเรื่องที่ยางฮยองซอกเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
ยางฮยอนซอกบอกกับ 'Dispatch' ว่า:
"จริงที่ผมได้ยึดโทรศัพท์มือถือของเธอไว้ เผื่อว่าเธอพยายามที่จะอัดเสียง แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังสำรวมคำพูด
ผมบอกเธอว่าเรามีการตรวจสารทุกสองเดือน และฮันบินไม่เคยผลเป็นบวกแม้แต่ครั้งเดียว
ถ้าฮันบินต้องไปพบตำรวจทั้งที่ผลตรวจเขาเป็นลบ เธออาจจะโดนข้อหาให้การเท็จได้(เพราะให้การถึงผู้อื่นให้ต้องโทษ)
และจะโดนข้อหาหมิ่นประมาทด้วย เธอจึงกลัวและกลับคำให้การ ถ้าตอนนั้นฮันบินไปตรวจ ยังไงผลก็ออกมาเป็นลบอยู่ดี"
ฮันซอฮีได้ออกมาบอกว่า
ยางฮยอนซอกเอามือถือของฉันไปและปิดเครื่อง ถามว่าเกิดอะไรขึ้นที่สถานีตำรวจ ฉันบอกว่าฉันสารภาพไปว่าบีไอสูบกัญชากับฉันและซื้อ LSD ผ่านฉัน ยางฮยอนซอกตอบกลับมาว่า ฉันเกลียดที่ต้องให้เด็กของฉันต้องไปที่สถานีตำรวจ ยังบอกอีกว่าเขาทำให้ร่างกายฮันบินตรวจไม่เจอสารเสพติดได้ ที่ยังจำได้ดีคือเขาบอกว่า "ซอฮี! เธอต้องเป็นเด็กดีนะ อย่าทำตัวไม่ดี เข้าใจใช่มั้ย เธออยากจะเป็นนักร้องใช่มั้ย? งั้นเธอก็จะต้องอยู่ในวงการบันเทิง เพราะงั้นมันง่ายสำหรับฉันมากเลยนะที่จะทำลายเธอน่ะ" เขาบอกให้ฉันกลับคำให้การ เขาบอกว่าเขาเข้าถึงพวกรายงานขอตำรวจได้นะ และจะจัดทนายไปว่าความให้ ฉันกลัว ฉันไม่มีทางเลือก
จากรายงานของตำรวจด้านล่างนี้ จะเห็นได้ว่า ตำรวจที่ทำหน้าที่ในขณะนั้นได้ได้ปรับเปลี่ยนคำให้การของฮัน ซอฮี ซึ่งต่างจากครั้งแรกและครั้งที่สอง เมื่อเธอเข้าสอบสวนครั้งที่ 3 ในวันที่ 30 สิงหาคม
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
"ฉันอยู่ต่างประเทศ ฉันไม่เป็นไร กำลังจะกลับไปเกาหลีในอีกสองวันนี้ ไม่ต้องกังวลไปหรอกค่ะ
ฉันไม่คิดว่าชื่อของฉันจะถูกเปิดเผยออกมาเร็วขนาดนี้
ฉันยอมรับว่าฉันตระหนกและหวาดกลัว แต่ฉันจะพยายามทำตัวให้เป็นปกติเพราะงั้นไม่ต้องห่วงฉัน จนถึงตอนนี้ ฉันรู้ดีว่าฉันใช้ชีวิตแค่ในแบบที่ตามใจตัวเอง หุนหันพลันแล่นไปตามอารมณ์ และใช้พูดคำที่ทำให้คนอื่นต้องเจ็บปวด ฉันยอมรับความผิดของฉันและกำลังทบทวนความผิดนั้น
แต่ฉันอยากจะขอให้พวกคุณมองเรื่องนี้โดยที่ไม่ต้องสนใจนิสัยส่วนตัวของฉัน
ฉันรู้ดีว่าพวกคุณไม่ชอบฉัน มันก็จริงที่ฉันสร้างภาพลักษณ์แบบนั้นเอง แต่คุณต้องมองเรื่องนี้ในอีกมุมมองนึงนะ อย่ามองเพียงว่าฉันเป็นคนยังไง ได้โปรด "
"ที่ออกมาพูดนี่ ฉันไม่อยากให้พวกคุณมาโทษฉันเพิ่มอีก ฉันได้รับโทษของฉันอยู่แล้วจากการใช้ LSD และกัญชาในเดือนสิงหาคม 2016 และก็สูบกัญชาอีกครั้งในเดือนตุลาคม2016 กับ T.O.P ทั้งสองคดีถูกเอามารวมกันเป็นคดีเดียวไปแล้ว
และก็นะ ฉันไม่ใช่คนขายยา ฉันแค่เป็นคนกลางเท่านั้น ฉันจ่ายเงินให้ดีลเลอร์ C ด้วยเงินของฉันเองและรับยามาจากพวกเขา หลังจากนั้นก็ได้ส่งของไปให้คิม ฮันบิน ในราคาเดียวกัน คนพูดกันว่าฉันเป็นคนขายแต่จริงๆแล้วไม่ใช่นะ ฉันไม่ได้เงินจากการทำเรื่องนี้ ทุกอย่างจะเปิดเผยออกมาผ่านบทสัมภาษณ์ ถ้าตำรวจต้องการจะรื้อฟื้นคดีล่ะก็ ฉันก็จะให้ความร่วมมือโดยดีอยู่แล้ว สิ่งที่ฉันเป็นกังวลอยู่ตอนนี้คือเรื่องที่ยางฮยอนซอกเข้ามาเกี่ยวข้องในการข่มขู่ และมีเส้นสายกับตำรวจ
สุดท้ายนี้ ฉันรู้ว่าพูดไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น แต่ฉันพยายามห้าม คิม ฮันบินจนวินาทีสุดท้าย ...บอกเขาว่าอย่าทำมันเลย..."