คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 46
ขอเล่าประสบการณ์ตรงผมให้ฟังละกัน
ผมจบวิศวกรรมคอมพิวเตอร์มา ทำงานที่แรก สตาทเงินอยู่ที่ 16K แทบไม่พอใช้ในแต่ละเดือนในกรุงเทพ และผมเคยเกิดคำถามแบบ จขกท. คือ ปกติจะนั่งรถเมล์ไปทำงาน ทีนี้บนรถจะมีประกาศรับสมัครคนขับรถ ในประกาศบอกว่า รับสมัครพนักงานขับรถรายได้ 25K อารมตอนนั้นแบบ เราอุตส่าใช้เวลาเรียนมา4ปี พ่อแม่เสียเงินไปก็เยอะ แต่รายได้น้อยกว่าคนขับรถ ที่ใช้วุฒ ม.3-ม.6 ก็สมัครได้ อารมตอนนั้นคิดแบบประชดตัวเอง ลาออกไปขับรถ รายได้ดีกว่าอีก ไม่ต้องมาเครียดกะงานด้วย แต่ก็ทนทำงานรับเงิน 16K ต่อมาเพราะคิดว่าโอกาสข้างหน้าดีกว่าขับรถเมล์แน่ ทนทำที่แรกได้เกือบสองปี ก็ย้ายงานไปที่ที่สอง จาก 16K ก็เพิ่มเป็น 23K อยู่ที่ที่สองอีกสองปี ก็ย้ายมาที่ที่สาม ได้เป็น 38K ที่ที่สามอยู่ได้ไม่กี่เดือน เพราะลักษณะงานไม่ตรงกับที่เราอยากจะทำและไม่ตรงกับที่คิดตอนแรกเท่าไหร่ (จะเห็นว่าเริ่มเลือกได้ละหลังเรามีทักษะมีประสบการณ์) ก็ย้ายมาที่ที่สี่ ตอนนี้รับเงินอยู่ที่ 43K ในระยะเวลาจากการทำงานที่แรกถึงปัจจุบัน ผมใช้เวลา 4ปี ในการทำรายได้ให้แตะ 40K และเป้าหมายผม ในอีก 3ปีข้างหน้า จะพยายามให้แตะ 100K ให้ได้ จะเห็นว่าถ้าวันนั้นผมเปลี่ยนงานไปขับรถเมล์ ยังไงรายได้ผมก็ไม่ได้ถึง 40K แน่ๆ และสำหรับ จขกท. ลองคำนวนดูแล้วกันครับ หากคุณขายแว่น อีกกี่ปีถึงจะได้ขึ้นเป็นผู้จัดการ อีก 5 ปีจะทำได้ไหม ลองถามเพื่อนก็ได้ผู้จัดการสาขาที่ทำ เค้าทำมากี่ปีถึงขึ้นเป็น ผจก. แล้วลองมาเทียบสายอาชีพที่จบ จขกท. มาดูว่า โอกาสไหนเป็นไปได้เร็วกว่ากัน แต่หากเป้าของ จขกท. คือแค่ 20K + คอม แค่นี้ก็พอแล้ว ก็เลือกไปจายแว่นเลย ทุกงานทุกอาชีพ หากเราตั้งใจ และฝึกฝนตัวเองให้เก่ง ในระดับเชี่ยวชาญ หรือหากไม่เชี่ยวชาญก็ต้องรู้รอยด้าน ผมเชื่อว่ายังไงก็ประสบความสำเร็จได้ แต่หากไม่พัฒนาตัวเอง ไม่ว่าจะอาชีพไหนๆ สุดท้ายรายได้ก็ไม่ขยับ
ผมจบวิศวกรรมคอมพิวเตอร์มา ทำงานที่แรก สตาทเงินอยู่ที่ 16K แทบไม่พอใช้ในแต่ละเดือนในกรุงเทพ และผมเคยเกิดคำถามแบบ จขกท. คือ ปกติจะนั่งรถเมล์ไปทำงาน ทีนี้บนรถจะมีประกาศรับสมัครคนขับรถ ในประกาศบอกว่า รับสมัครพนักงานขับรถรายได้ 25K อารมตอนนั้นแบบ เราอุตส่าใช้เวลาเรียนมา4ปี พ่อแม่เสียเงินไปก็เยอะ แต่รายได้น้อยกว่าคนขับรถ ที่ใช้วุฒ ม.3-ม.6 ก็สมัครได้ อารมตอนนั้นคิดแบบประชดตัวเอง ลาออกไปขับรถ รายได้ดีกว่าอีก ไม่ต้องมาเครียดกะงานด้วย แต่ก็ทนทำงานรับเงิน 16K ต่อมาเพราะคิดว่าโอกาสข้างหน้าดีกว่าขับรถเมล์แน่ ทนทำที่แรกได้เกือบสองปี ก็ย้ายงานไปที่ที่สอง จาก 16K ก็เพิ่มเป็น 23K อยู่ที่ที่สองอีกสองปี ก็ย้ายมาที่ที่สาม ได้เป็น 38K ที่ที่สามอยู่ได้ไม่กี่เดือน เพราะลักษณะงานไม่ตรงกับที่เราอยากจะทำและไม่ตรงกับที่คิดตอนแรกเท่าไหร่ (จะเห็นว่าเริ่มเลือกได้ละหลังเรามีทักษะมีประสบการณ์) ก็ย้ายมาที่ที่สี่ ตอนนี้รับเงินอยู่ที่ 43K ในระยะเวลาจากการทำงานที่แรกถึงปัจจุบัน ผมใช้เวลา 4ปี ในการทำรายได้ให้แตะ 40K และเป้าหมายผม ในอีก 3ปีข้างหน้า จะพยายามให้แตะ 100K ให้ได้ จะเห็นว่าถ้าวันนั้นผมเปลี่ยนงานไปขับรถเมล์ ยังไงรายได้ผมก็ไม่ได้ถึง 40K แน่ๆ และสำหรับ จขกท. ลองคำนวนดูแล้วกันครับ หากคุณขายแว่น อีกกี่ปีถึงจะได้ขึ้นเป็นผู้จัดการ อีก 5 ปีจะทำได้ไหม ลองถามเพื่อนก็ได้ผู้จัดการสาขาที่ทำ เค้าทำมากี่ปีถึงขึ้นเป็น ผจก. แล้วลองมาเทียบสายอาชีพที่จบ จขกท. มาดูว่า โอกาสไหนเป็นไปได้เร็วกว่ากัน แต่หากเป้าของ จขกท. คือแค่ 20K + คอม แค่นี้ก็พอแล้ว ก็เลือกไปจายแว่นเลย ทุกงานทุกอาชีพ หากเราตั้งใจ และฝึกฝนตัวเองให้เก่ง ในระดับเชี่ยวชาญ หรือหากไม่เชี่ยวชาญก็ต้องรู้รอยด้าน ผมเชื่อว่ายังไงก็ประสบความสำเร็จได้ แต่หากไม่พัฒนาตัวเอง ไม่ว่าจะอาชีพไหนๆ สุดท้ายรายได้ก็ไม่ขยับ
สุดยอดความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
คุณจะเลือกทำงานอะไรขายเเว่นในห้างเงินเดือน23000กับวิศวะเงินเดือน18000-22000
ลองเปรียบเทียบดู
วิศวะ งานหนักกว่าเเน่ ขายเเว่นเพื่อนบอกเเค่ยืนเเละเเน่นำเเว่นตามที่อบรมพอ
เเต่วิดวะมันมีเลเวล จากภาคีไปสามัญไปวุฒิ มีความก้าวหน้าเเต่ก้เลื่อนยากเช่นกัน
ขายเเว่นเพื่อนบอกเลื่อนเป็นผู้จัดการร้านได้เงิน55000(เพราะฉะนั้นขายเเว่นก้มีความก้าวหน้าเหมือนกันเเต่ผมไม่รู้ว่ามันจะเลื่อนได้มากกว่านี้อีกไหม)
ถ้าพูดตรงขายเเว่นสบายกว่าการเป็นวิศวะมากเงินเยอะกว่า เเต่ อาจารย์ผมเคยพูดไหวมาเรายังเด็กอยู่อย่าไปสนเงินมากไปเอา ปสก จนสัก30ค่อยไปเรียกเงินเยอะที่หลัง
คำพูดนี้ทำให้ผมลังเลใจครับว่าผมจะเอาทางไหนดีระหว่างทำงานสบายเงินเดือนเยอะหรือลำบากเเต่ได้ ปสก เงินน้อยหน่อย
เเละถ้าเพื่อนคิดละจะเอาทางไหนเพราะอะไรครับ
ปล ผมทำงานconsulting environment นะ ไม่รู้จะก้าวหน้าเยอะป่าวครับ