อุดรธานี - หนองคาย - เวียงจันทน์
07.30 น. แวะกินข้าวที่ข้างหนองประจักษ์ รอรับไปรับเพื่อน
08.00 น. ไปรับเพื่อนที่ ร้านเด็ดเมืองอุดร เจ้าของร้านใจดี ก๋วยเตี๋ยวหมูหนองวัวซอ (ก็จะอวยร้านเพื่อนมากไปนิด)
08.45 น. แวะทำ Border pass ที่ศาลากลางหนองคาย
09.00 น. ถึงด่าน ตม. หนองคาย พอเราจอดรถเสร็จด้วยความที่ไปลาวบ่อยเกือบทุกเดือนแต่ไม่เคยได้เดินลงจากรถ เพราะว่ายานยนต์ของ รพ. เป็นคนเดินเอกสารให้ทั้งหมด พอจอดรถแล้ว ก็จะทำหน้า งงๆ กันหน่อยๆ 5555
Staton 1 :: ตม.หนองคาย
เมื่อจอดรถแล้ว เราก็เดินไปทำเอกสาร รถ+คน โดยการยื่น Border pass / passport และ passport รถ (ถ้าเอารถไปครั้งแรกก็ช้าๆหน่อย) ตม.2 จำนวน 2 ชุด ตม. 3 จำนวน 1 ชุด และ ตม. 4 จำนวน 1 ชุด ให้กับ ตม. เมื่อยื่นเอกสารครบแล้ว ก็ไปตู้ยื่นเอกสารนำรถออกนอกประเทศ จากนั้นเราก็กลับไปขึ้นรถ ขับรถผ่านตู้ทำเอกสารรถ เมื่อสักครู่เพื่อรับเอกสารรถ และเจ้าหน้าที่ทำการตรวจรถ เลขที่รถ สักพักเจ้าหน้าที่ก็จะยื่นเอกสารการตรวจรถกลับมาให้เรา จากนั้นเราก็ไปลาวได้แย้ววจร้าาาา..... ระหว่างทางแวะจ่ายเงินค่าผ่านสะพาน 30 บาท
..... ข้ามสะพานยาวๆไปโล้ดดด......
Station 2 :: ตม. ลาว
ระหว่างทางมาจะเจอไฟแดงที่จะทำการเปลี่ยนเลนส์การขับจากเลนส์ซ้าย เป็นเลนส์ขวา และนำรถลงไปจอดที่อาคารด้านหลังเพื่อทำการนำรถเข้าประเทศ โดยเอกสารในชุดเดิมๆ ที่เรายื่นกับทาง ตม. ที่หนองคายมาเมื่อกี้นี้ โดยยื่นเอกสาร border pass/passport ทั้งของคนและของรถ เมื่อทำเอกสารเข้าประเทศเสร็จแล้วเราก็ต่อคิวเข้าตู้ชำระค่าทำเนียม และยื่นเอกสารที่เพื่อทำการตรวจเอกสารรถสำหรับท่านใดที่นำรถออกไปยังต่างประเทศครั้งแรก ต้องนำเอกสารไปขออนุญาตยัง ตม.เวียงจันทน์เพื่อทำการนำรถออกไปขับนอกราชอาณาจักรที่ช่อง 105 ก่อน เพื่อเซ็นต์ยินยอมให้นำรถออกได้ ห้องแถวๆเดียวกันจะมีประกัยภัยรถ เพื่อความสบายใจในการขับในเวียงจันทน์ ไว้ก็ดีนะคะ มีแบบ 7 วัน 15 วัน 30 วัน และ 1 ปี ซึ่งแน่นอนอย่างน้องหมีต้องเลือก 7 วันพอ 555 แบบ 7 วันจะเป็นแบบประกันภัยชั้น 3 ในราคา 280 บาท จากนั้นเราต้องเดินกลับมาที่ตู้เสียค่าธรรมเนียมเมื่อสักครู่ แล้วก็หอบเอกสารทั้งหมดที่เรามี ยื่นให้เจ้าหน้าที่เพื่อทำเอกสารนำรถข้ามแดน จากนั้นเจ้าหน้าที่ จะทำการเย็บค่าธรรมเนียมไว้ที่หน้า passport รถให้เรา อ่อ....ในใบเสร็จค่าธรรมเนียมจะมี Qr code เพื่อสแกนผ่านด่าน เมื่อเอกสารเรียบร้อยเราทุกคนก็กลับไปที่รถ ตั้งสติ ก่อนสตาร์ท แล้วขับรถไปสแกนผ่านกันเลยคร้า
สแกนผ่านด่านมาได้แล้วก็ตั้ง GPS ท่องโลกกว้างกันเลยจร้าา ภารกิจแรกเราต้องไปรับเพื่อนที่มาก่อนเราได้ 4-5 วันแล้วแวะเอาของไปให้พี่ที่เวียงจันทน์แถวๆ ถนนน้ำพุ ซึ่งเป็นที่ที่เราชอบไปหาของกินเป็นประจำ เน็ตที่เวียงจันทน์ถือว่าเร็วใช้ได้ การนำทางโดย GPS ถือว่าเวิร์คเลยสำหรับเรา
Station 3 :: Wat Inpang
ที่เราปักหมุดไปที่นี่เพราะว่าที่อยู่เพื่อนเราอยู่ตรงข้ามกับวัด อ่อ... ลืมแนะนำไปเลย ทริปขาเข้าเวียงจันทน์ครั้งนี้เราเดินทางไปกัน 3 คน เพื่อไปรับเพื่อนที่เดินทางมาเที่ยวคนเดียวก่อนหน้านี้แล้ว พวกเรามีเพื่อนที่ลาวค่อนข้างเยอะ เพราะว่าพวกเรามีบริษัทสาขาที่ลาว ส่วนคนขับนั้น สามีเราเอง ซึ่งสามีเราไม่รู้มาก่อนว่าเราจะไปที่ไหน ต้องทำอะไร ต้องกินอะไรบ้าง 5555 มาเพื่อขับรถให้จริงๆ น่าร๊ากกก
(ขออวยสักหน่อยเดี๋ยวทริปหน้าไม่พาไปไหนอีก) เยอะมานาน เริ่มการรีวิวต่อ พอเรามาถึงอพาทเมนต์ของเพื่อนแล้ว เพื่อนเราก็เตรียมขนมไว้รอเลย เพราะว่านางเดินไปซื้อ ครัวซองจากร้าน Annabell แถวๆที่พักมาให้กินลองท้องก่อนไปกินข้าว ซึ่งครัวซองที่นี่งานดีนะเราว่า เนื้อแป้งชุ่มฉ่ำไปด้วยเนย ด้วยความที่หิวเลยลืมถ่ายภาพ เลยคิดกันว่าต้องกลับไปซ้ำที่ร้านนี้และจะไม่ลืมถ่ายภาพแน่นอน 555
Station 4 :: Tree town
ด้วยความที่เพื่อนคนลาวบอกมาว่าร้านนี้กำลังดัง ชานมไข่มุกกำลังมาและด้วยความที่ว่าร้านใกล้อพาทเมนต์แบบเดินยังไม่ทันเหนื่อยจึงต้องไปโดน เมื่อถึงร้านร้านน่ารักตามชื่อร้านต้นไม้จริงๆสวยยังในเทพนิยาย พวกเราเลยจัดการสั่งกันคนละเมนูและลองชิมรู้สึกว่ารสชาติของที่บ้านเราจะดีกว่าหน่อย แต่ร้านสวยถ่ายรูปจนเพลินลืมว่าเพื่อนคนลาวไปจองร้านอาหารไว้ ต้องไปถึงก่อนเที่ยง ก็คักเงินในกระเป๋าเพื่อจะไปจ่ายค่าเครื่องดื่ม แต่!!!! เราที่มาจากไทยไม่ได้แลกเงินกีบมาซักคน และไม่ได้กดเงินมากันจร้าาาา เพื่อนคนที่อยู่ก่อนหน้าก็มีเงินกีบอยู่แค่ 60,000 กีบ เลยต้องจำใจจ่ายเงินบาทไปเพื่อได้เงินกีบมา (แต่ละร้านกดเงินเราอยู่ 10-20 บาท ซึ่งถือว่าอยู่ในราคาที่พวกเรารับได้)
Station 5 :: Manamae garden restuarant
ร้านนี้เพื่อนคนลาวเราบอกว่าต้องมาให้ได้บรรยากาศดี อาหารอร่อย ที่สำคัญราคาไม่แพง ระยะทางไกลหน่อยนึง แต่มาถึงละวิวดี บรรยากาศก็ไม่ได้ร้อนมาก ไกลแต่คุ้มจากนั้นเราก็น่ามืดสั่งอาหารตอนหิวมาซะเยอะแยะ
ตำลาว แบบลาวจริงๆ มีปลาร้าเป็นชิ้นๆเลย
สปาเก็ตตี้ทะเล เอ๊ะ!! ด้วยความน่ามืดเลยสั่งแบบหิวๆนี่แหละ
แกงส้มปลาน้ำโขง อันนี้แซ่บจิงน้องหมีปลื้ม
แกงหน่อไม้ ใส่ไข่มดแดง สำหรับถ้วยนี้สำหรับน้องหมีแล้วกินอาหารอิสานไม่ค่อยเป็นแต่แกงหน่อไม้เคยกินนะ แต่ของลาวจะเป็นรสที่มีกลิ่นเครื่องเทศ และกลิ่นใบแมงลักมากไปนิด น้องหมีไม่สามารถกินได้เลยจร้าาา ถ้วยนี้ขอผ่าน
เมนูเด็ด ไก่ย่างทาปลาร้า จานนี้ก็ถือว่าแซ่บนะ
นี่ก็เมนูโปรดของน้องหมี ซี่โครงหมูทอด หมดไป 2 จานแหนะ แซ่บลื๊มมม
Station 6 :: Bakery by boris
จากการอ่านรีวิวกันมาเยอะ เลยต้องไปให้ครบทุกร้าน ซึ่งร้านนี้ก็เป็นอีกร้านที่เราอ่านรีวิวมาว่า ครัวซองอร่อยมาก เราจึงขับรถกลับมาในเมืองกันอีกครั้งเพื่อทำการมาลองครัวซองเพราะเวลาเรายังเหลือกันอยู่นิดหน่อย นอกจากครัวซองแล้วจะมีเอแคร์ที่ขึ้นชื่อ อย่างพวกเราแล้วก็จัดเลยน่ะสิ
เมื่อลองครบแล้ว.... ไม่ค่อยอร่อยเท่าร้านแรกที่เพื่อนเราซื้อมาฝาก ชิมกันคนละคำ สองคำ ก็ต้องถึงเวลาแยกย้ายจากเพื่อนคนลาว และพวกเราต้องออกไปซื้อโดนัทและกลับบ้านกัน
Station 7 :: Dough & Co
ร้านนี้เป็นร้านประจำที่เวลาพี่ที่ลาวเค้ามาหาจะซื้อมาฝาก แล้วเวลาเราไปทำงานที่ลาว พี่ที่ลาวก็จะพาพวกเราไปกิน ซึ่งถือว่าโดนัทที่นี่อร่อย แป้งดี ใส่เจ้มจ้นมาก ส่วนตัวเราชอบ Dark choc งานดี....
เมื่อเราซื้อของฝากกันเสร็จแล้วเราก็เดินทางกลับบ้านกัน ขั้นตอนขากลับนี้เรามีประสบการณ์จากเมื่อเช้ามาแล้ว เราจึงไม่ งง มากเท่าตอนมา ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้ น้องหมีต้องขอขอบคุณเพื่อนทั้งสองที่ร่วมเดินทาง หลงทางไปกับน้องหมี เพื่อนคนลาวที่พาไปกินอาหารอร่อยๆ และที่สำคัญสามีของน้องหมีที่ขับรถพาไปเล่นกับเพื่อนๆ
ต้องขอแจ้งทุกท่านนะคะว่าเป็นการเขียนรีวิวครั้งแรกของน้องหมี หากผิดพลาดประการใดน้องหมีต้องขอโทษด้วยนะคะ
ทริปหน้าจะมารีวิวที่ใหม่นะคะ
Review One day trip@Vientiane, Laos ตอน :: ทริปตัวไม่แหลก แต่กระเป๋าเงินแหก by น้องหมีทุลักทุเลทัวร์คนเดิม
07.30 น. แวะกินข้าวที่ข้างหนองประจักษ์ รอรับไปรับเพื่อน
08.00 น. ไปรับเพื่อนที่ ร้านเด็ดเมืองอุดร เจ้าของร้านใจดี ก๋วยเตี๋ยวหมูหนองวัวซอ (ก็จะอวยร้านเพื่อนมากไปนิด)
08.45 น. แวะทำ Border pass ที่ศาลากลางหนองคาย
09.00 น. ถึงด่าน ตม. หนองคาย พอเราจอดรถเสร็จด้วยความที่ไปลาวบ่อยเกือบทุกเดือนแต่ไม่เคยได้เดินลงจากรถ เพราะว่ายานยนต์ของ รพ. เป็นคนเดินเอกสารให้ทั้งหมด พอจอดรถแล้ว ก็จะทำหน้า งงๆ กันหน่อยๆ 5555
Staton 1 :: ตม.หนองคาย
เมื่อจอดรถแล้ว เราก็เดินไปทำเอกสาร รถ+คน โดยการยื่น Border pass / passport และ passport รถ (ถ้าเอารถไปครั้งแรกก็ช้าๆหน่อย) ตม.2 จำนวน 2 ชุด ตม. 3 จำนวน 1 ชุด และ ตม. 4 จำนวน 1 ชุด ให้กับ ตม. เมื่อยื่นเอกสารครบแล้ว ก็ไปตู้ยื่นเอกสารนำรถออกนอกประเทศ จากนั้นเราก็กลับไปขึ้นรถ ขับรถผ่านตู้ทำเอกสารรถ เมื่อสักครู่เพื่อรับเอกสารรถ และเจ้าหน้าที่ทำการตรวจรถ เลขที่รถ สักพักเจ้าหน้าที่ก็จะยื่นเอกสารการตรวจรถกลับมาให้เรา จากนั้นเราก็ไปลาวได้แย้ววจร้าาาา..... ระหว่างทางแวะจ่ายเงินค่าผ่านสะพาน 30 บาท
..... ข้ามสะพานยาวๆไปโล้ดดด......
Station 2 :: ตม. ลาว
ระหว่างทางมาจะเจอไฟแดงที่จะทำการเปลี่ยนเลนส์การขับจากเลนส์ซ้าย เป็นเลนส์ขวา และนำรถลงไปจอดที่อาคารด้านหลังเพื่อทำการนำรถเข้าประเทศ โดยเอกสารในชุดเดิมๆ ที่เรายื่นกับทาง ตม. ที่หนองคายมาเมื่อกี้นี้ โดยยื่นเอกสาร border pass/passport ทั้งของคนและของรถ เมื่อทำเอกสารเข้าประเทศเสร็จแล้วเราก็ต่อคิวเข้าตู้ชำระค่าทำเนียม และยื่นเอกสารที่เพื่อทำการตรวจเอกสารรถสำหรับท่านใดที่นำรถออกไปยังต่างประเทศครั้งแรก ต้องนำเอกสารไปขออนุญาตยัง ตม.เวียงจันทน์เพื่อทำการนำรถออกไปขับนอกราชอาณาจักรที่ช่อง 105 ก่อน เพื่อเซ็นต์ยินยอมให้นำรถออกได้ ห้องแถวๆเดียวกันจะมีประกัยภัยรถ เพื่อความสบายใจในการขับในเวียงจันทน์ ไว้ก็ดีนะคะ มีแบบ 7 วัน 15 วัน 30 วัน และ 1 ปี ซึ่งแน่นอนอย่างน้องหมีต้องเลือก 7 วันพอ 555 แบบ 7 วันจะเป็นแบบประกันภัยชั้น 3 ในราคา 280 บาท จากนั้นเราต้องเดินกลับมาที่ตู้เสียค่าธรรมเนียมเมื่อสักครู่ แล้วก็หอบเอกสารทั้งหมดที่เรามี ยื่นให้เจ้าหน้าที่เพื่อทำเอกสารนำรถข้ามแดน จากนั้นเจ้าหน้าที่ จะทำการเย็บค่าธรรมเนียมไว้ที่หน้า passport รถให้เรา อ่อ....ในใบเสร็จค่าธรรมเนียมจะมี Qr code เพื่อสแกนผ่านด่าน เมื่อเอกสารเรียบร้อยเราทุกคนก็กลับไปที่รถ ตั้งสติ ก่อนสตาร์ท แล้วขับรถไปสแกนผ่านกันเลยคร้า
สแกนผ่านด่านมาได้แล้วก็ตั้ง GPS ท่องโลกกว้างกันเลยจร้าา ภารกิจแรกเราต้องไปรับเพื่อนที่มาก่อนเราได้ 4-5 วันแล้วแวะเอาของไปให้พี่ที่เวียงจันทน์แถวๆ ถนนน้ำพุ ซึ่งเป็นที่ที่เราชอบไปหาของกินเป็นประจำ เน็ตที่เวียงจันทน์ถือว่าเร็วใช้ได้ การนำทางโดย GPS ถือว่าเวิร์คเลยสำหรับเรา
Station 3 :: Wat Inpang
ที่เราปักหมุดไปที่นี่เพราะว่าที่อยู่เพื่อนเราอยู่ตรงข้ามกับวัด อ่อ... ลืมแนะนำไปเลย ทริปขาเข้าเวียงจันทน์ครั้งนี้เราเดินทางไปกัน 3 คน เพื่อไปรับเพื่อนที่เดินทางมาเที่ยวคนเดียวก่อนหน้านี้แล้ว พวกเรามีเพื่อนที่ลาวค่อนข้างเยอะ เพราะว่าพวกเรามีบริษัทสาขาที่ลาว ส่วนคนขับนั้น สามีเราเอง ซึ่งสามีเราไม่รู้มาก่อนว่าเราจะไปที่ไหน ต้องทำอะไร ต้องกินอะไรบ้าง 5555 มาเพื่อขับรถให้จริงๆ น่าร๊ากกก (ขออวยสักหน่อยเดี๋ยวทริปหน้าไม่พาไปไหนอีก) เยอะมานาน เริ่มการรีวิวต่อ พอเรามาถึงอพาทเมนต์ของเพื่อนแล้ว เพื่อนเราก็เตรียมขนมไว้รอเลย เพราะว่านางเดินไปซื้อ ครัวซองจากร้าน Annabell แถวๆที่พักมาให้กินลองท้องก่อนไปกินข้าว ซึ่งครัวซองที่นี่งานดีนะเราว่า เนื้อแป้งชุ่มฉ่ำไปด้วยเนย ด้วยความที่หิวเลยลืมถ่ายภาพ เลยคิดกันว่าต้องกลับไปซ้ำที่ร้านนี้และจะไม่ลืมถ่ายภาพแน่นอน 555
Station 4 :: Tree town
ด้วยความที่เพื่อนคนลาวบอกมาว่าร้านนี้กำลังดัง ชานมไข่มุกกำลังมาและด้วยความที่ว่าร้านใกล้อพาทเมนต์แบบเดินยังไม่ทันเหนื่อยจึงต้องไปโดน เมื่อถึงร้านร้านน่ารักตามชื่อร้านต้นไม้จริงๆสวยยังในเทพนิยาย พวกเราเลยจัดการสั่งกันคนละเมนูและลองชิมรู้สึกว่ารสชาติของที่บ้านเราจะดีกว่าหน่อย แต่ร้านสวยถ่ายรูปจนเพลินลืมว่าเพื่อนคนลาวไปจองร้านอาหารไว้ ต้องไปถึงก่อนเที่ยง ก็คักเงินในกระเป๋าเพื่อจะไปจ่ายค่าเครื่องดื่ม แต่!!!! เราที่มาจากไทยไม่ได้แลกเงินกีบมาซักคน และไม่ได้กดเงินมากันจร้าาาา เพื่อนคนที่อยู่ก่อนหน้าก็มีเงินกีบอยู่แค่ 60,000 กีบ เลยต้องจำใจจ่ายเงินบาทไปเพื่อได้เงินกีบมา (แต่ละร้านกดเงินเราอยู่ 10-20 บาท ซึ่งถือว่าอยู่ในราคาที่พวกเรารับได้)
Station 5 :: Manamae garden restuarant
ร้านนี้เพื่อนคนลาวเราบอกว่าต้องมาให้ได้บรรยากาศดี อาหารอร่อย ที่สำคัญราคาไม่แพง ระยะทางไกลหน่อยนึง แต่มาถึงละวิวดี บรรยากาศก็ไม่ได้ร้อนมาก ไกลแต่คุ้มจากนั้นเราก็น่ามืดสั่งอาหารตอนหิวมาซะเยอะแยะ
ตำลาว แบบลาวจริงๆ มีปลาร้าเป็นชิ้นๆเลย
สปาเก็ตตี้ทะเล เอ๊ะ!! ด้วยความน่ามืดเลยสั่งแบบหิวๆนี่แหละ
แกงส้มปลาน้ำโขง อันนี้แซ่บจิงน้องหมีปลื้ม
แกงหน่อไม้ ใส่ไข่มดแดง สำหรับถ้วยนี้สำหรับน้องหมีแล้วกินอาหารอิสานไม่ค่อยเป็นแต่แกงหน่อไม้เคยกินนะ แต่ของลาวจะเป็นรสที่มีกลิ่นเครื่องเทศ และกลิ่นใบแมงลักมากไปนิด น้องหมีไม่สามารถกินได้เลยจร้าาา ถ้วยนี้ขอผ่าน
เมนูเด็ด ไก่ย่างทาปลาร้า จานนี้ก็ถือว่าแซ่บนะ
นี่ก็เมนูโปรดของน้องหมี ซี่โครงหมูทอด หมดไป 2 จานแหนะ แซ่บลื๊มมม
Station 6 :: Bakery by boris
จากการอ่านรีวิวกันมาเยอะ เลยต้องไปให้ครบทุกร้าน ซึ่งร้านนี้ก็เป็นอีกร้านที่เราอ่านรีวิวมาว่า ครัวซองอร่อยมาก เราจึงขับรถกลับมาในเมืองกันอีกครั้งเพื่อทำการมาลองครัวซองเพราะเวลาเรายังเหลือกันอยู่นิดหน่อย นอกจากครัวซองแล้วจะมีเอแคร์ที่ขึ้นชื่อ อย่างพวกเราแล้วก็จัดเลยน่ะสิ
เมื่อลองครบแล้ว.... ไม่ค่อยอร่อยเท่าร้านแรกที่เพื่อนเราซื้อมาฝาก ชิมกันคนละคำ สองคำ ก็ต้องถึงเวลาแยกย้ายจากเพื่อนคนลาว และพวกเราต้องออกไปซื้อโดนัทและกลับบ้านกัน
Station 7 :: Dough & Co
ร้านนี้เป็นร้านประจำที่เวลาพี่ที่ลาวเค้ามาหาจะซื้อมาฝาก แล้วเวลาเราไปทำงานที่ลาว พี่ที่ลาวก็จะพาพวกเราไปกิน ซึ่งถือว่าโดนัทที่นี่อร่อย แป้งดี ใส่เจ้มจ้นมาก ส่วนตัวเราชอบ Dark choc งานดี....
เมื่อเราซื้อของฝากกันเสร็จแล้วเราก็เดินทางกลับบ้านกัน ขั้นตอนขากลับนี้เรามีประสบการณ์จากเมื่อเช้ามาแล้ว เราจึงไม่ งง มากเท่าตอนมา ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้ น้องหมีต้องขอขอบคุณเพื่อนทั้งสองที่ร่วมเดินทาง หลงทางไปกับน้องหมี เพื่อนคนลาวที่พาไปกินอาหารอร่อยๆ และที่สำคัญสามีของน้องหมีที่ขับรถพาไปเล่นกับเพื่อนๆ
ต้องขอแจ้งทุกท่านนะคะว่าเป็นการเขียนรีวิวครั้งแรกของน้องหมี หากผิดพลาดประการใดน้องหมีต้องขอโทษด้วยนะคะ
ทริปหน้าจะมารีวิวที่ใหม่นะคะ