ศาสนาไหนสอนได้ถูกต้องสำหรับ *ชีวิตหลังความตาย*

กระทู้คำถาม
ผมคิดว่าในอนาคต 100 ปี 1000 ปี 10000 ปี ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์จะก้าวเข้าไปในระดับเดินทางผ่านกาลเวลาและรูหนอน สามารถสัมผัสและรับรู้อะตอมได้ เปลี่ยนแปลงมวลสารบนโลกเป็นอะไรก็ได้ มนุษย์เดินทางเร็วก่วาแสงข้ามไปยังมิติต่างๆได้
ดังนั้นก็มีความเป็นไปได้ที่จะสามารถวัดหรือทดสอบวิญญาณและสามารถสื่อสารกับวิญญาณหรือคลื่นควอนตัม หรืออนุภาค ได้ดังนั้นความจริงที่ศาสดาพร่ำสอนกันมา หลายร้อยปีก็อาจจะกระจ่าง ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เลยคิดว่า แนวคิดใดน่าจะถูก
แต่ไม่ได้อยากให้ขัดแย้งนะครับ แค่มานำเสนอแนวคิดกัน

พุทธ
คนไทยพุทธเชื่อว่า  เมื่อตายไปแล้วต้องมีโลกหน้าที่เราเดินทางต่อไปเพราะฉะนั้นครอบครัวและญาติจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลต่าง ให้ผู้ตาย  โดยเชื่อว่าเขาจะได้ไปสู่สุคติภูมิ  หรืออาจไปเกิดในที่ดี ไปสวรรค์  แทนที่จะไปเกิดในนรกหรือเกิดเป็นสัตว์เดียรัจฉาน

คริตส์
ตามพระคัมภีร์กล่าวไว้ว่า  แท้จริงแล้วพระเจ้าไม่ได้สร้างมนุษย์ให้มี ความตาย  แต่มนุษย์คู่แรกทำผิดต่อพระผู้เป็นเจ้า  ดังนั้นพระองค์จึงทำให้มนุษย์ต้องตายเพื่อลงโทษการตายก็คือการขาดจากความสัมพันธ์กับพระเจ้า  แต่ในที่สุดแล้วพระเจ้าก็ทรงส่งพระเยซูคริสต์มาไถ่บาปให้เหล่ามนุษย์  เพื่อให้มนุษย์กลับไปคืนดีกับพระเจ้าอีกครั้ง  การกลับไปคืนดีนี้คือการกลับไปมีสัมพันธภาพกับพระเจ้าแบบถาวร  ซึ่งไม่มีสิ่งใดแยกได้อีกแม้กระทั่งความตายของร่างกาย  ดังนั้นชีวิตนิรันดร์ได้เริ่มต้นขึ้นในชีวิตนี้แล้วทันทีหลังจากเชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้า


อิสลาม
ตามพระคัมภีร์กล่าวว่า ‘ทุก ชีวิตจะต้องลิ้มรสถึงความตาย’  ไม่มีใครที่เกิดมาแล้วเป็นอมตะ  หลักศรัทธานี้ทำให้ชาวมุสลิมเรียนรู้สัจธรรมของชีวิตผ่านกรอบความตายเสมอดังนั้นเมื่อความตายมาถึง  พี่น้องชาวมุสลิมจึงมีสติ  โดยไม่ร้องไห้คร่ำครวญ  ในพระคัมภีร์กล่าวว่า  ‘แท้จริงเราเป็นสิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้า  และยังพระองค์ที่เราจะต้องคืนสู่’  เราไม่ได้มีสิทธิ์ในตัวเราเอง  เพราะเราควบคุมความแก่  ความเสื่อม  ความชราไม่ได้  ร่างกายนี้ไม่ใช่ของเรา  เป็นเพียงของฝากจากพระผู้เป็นเจ้า  เป็นเพียงสิ่งที่พระเจ้าฝากไว้ให้เราดูแลให้ดีที่สุด

ซึ่งแต่ละศาสนาก็จะมีคำสอนจากพระศาสดา ตามความเชื่อของแต่ละศาสนาของตนเอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่