ไปเที่ยวไม่ยากหรอกแต่หาวันหยุดไปนี่แหละยากยิ่งกว่า 
ถ้ามีวันหยุดขาย จะเหมาให้หมดร้านเลย 5555555555555 

โชคดีหน่อย วันที่ 3 มิถุนายนของปีนี้เป็นวันหยุด
จะรออะไรล่ะ จัดทริปเที่ยวเลยจ้า วันเดียวก็เที่ยวได้   

เราก็ปักหมุดที่เที่ยวรอวันหยุดไว้แล้ว......เขาช่องลม นครนายก
เค้าว่ากันว่า  ที่แห่งนี้เป็นดินแดนลับที่ถูกซ่อนตัวอยู่ในเขื่อนขุนด่านปราการชล 
และเต็มไปด้วยทุ่งหญ้า  หรือเรียกที่นี่ได้ว่า เป็นสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทยเลยก็ว่าได้
เอาว่ะ ต้องมาให้เห็นกับตาว่ามันสวยสมคำร่ำลือมั้ย!?  

  
จากกรุงเทพขับรถมาที่เขื่อนขุนด่าน ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
เรามาถึงก็เที่ยงๆ บ่ายๆ แดดกำลังแผดเผาเลยจ้า
ถามว่าแคร์มั้ย ไม่เลย ไปต่อไม่รอแล้วจ้า

มาถึงเขื่อนขุนด่านปราการชลมาติดต่อเรือที่นี่เลยค่ะ 


ราคาก็ตามนี้เลย


1-7 คน  1500 บาท
8 คนขึ้นไป คนละ 200
คือเรามากัน 2 คน  ถ้าเหมาลำคือ 1500 บาทเลย 
แต่โชคดีมาก ที่มีนักท่องเที่ยวอีก 4 คน นั่งรอหาคนหารค่าเรืออยู่
ค่าเรือก็คนละ 250 บาท ไปขึ้นเรือได้!!! หน้าเบลอ หลังชัด ภาพนี้คนถ่ายบอกว่า อยากให้โฟกัสที่เขื่อนนะจ๊ะ 555555555555

น้ำในเขื่อนตอนนี้เหลือน้อยมากกกกกก 
ต้องลงบันไดมา 303 ขั้น เพื่อมาขึ้นเรือตรงนี้ละจ้า 

เรือออกละจ้าาาาาาาา



นั่งเรือมาประมาณ 10 นาที ก็มาถึงละคะ 
เรามาถึงบ่ายสองพอดี 
นัดแนะกับพี่คนขับเรือ และอีก 4 คนที่มาด้วยกัน 
4 โมงกลับมาเจอกันที่เดิม  มีเวลา 2 ชั่วโมงที่ดินแดนแห่งนี้   
 

พี่คนขับเรือบอกว่า
จากจุดนี้  ต้องเดินไปประมาณ 1 กิโลเมตรจะเจอน้ำตกช่องลม 
ช่วง 300- 400 เมตรแรก  จะเจอทุ่งหญ้าที่หลายคนเรียกว่า กรีนโซน 
โอเค ลุยยยยย!!!!   

สู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น   ไปหาดินแดนกรีนโซนกันเถอะ 


ก่อนไปเจอกรีนโซน เจอความแตกระแหงโซนก่อน 
สักรูปละกันเนอะ อิอิ 

 


ระหว่างทาง ก็เก็บภาพมาเรื่อยๆ
จนเดินมาถึงทุ่งหญ้าแบบสุดลูกหูลูกตา  
มองไปทางไหนก็เห็นแต่ความเขียวขจี นี่ซินะที่เค้าเรียกดินแดนแห่งนี้ว่า  "กรีนโซน" 


เซลฟี่หน่อยจ้าาาาาาาาา 


สูดโอโซนให้ฉ่ำปอด แล้วเดินต่อจ้า จุดหมายคือน้ำตกช่องลม 


เดินชมวิวไปเรื่อยๆจ้า แดดดีเหลือเกิน
เดินจนจักแร้เปียก 55555555555555555555

ข้ามสะพานตรงนี้ไป เดินอีกนิดเดียวก็ถึงน้ำตกช่องลมแล้วจ้า 
.....
.....
....
....
... 

ถึงแล้วจ้าาา น้ำตกช่องลม 


จริงๆ น้ำตกช่องลม ก็เป็นน้ำตกเล็กๆ ไม่ได้มีอะไรมาก 
เราชอบความงามระหว่างทางที่เดินมามากกว่า 
แต่ที่นี่ก็เปรียบเสมือนจุดพักคลายร้อน 
เพราะกว่าจะมาถึงตรงนี้ ต้องฝ่าทุ่งหญ้า ท่ามกลางแดดที่โหดมาก 
แค่เอาเท้ามาแช่น้ำเย็นๆ ก็รู้สึกสดชื่นขึ้นเยอะเลยละค่าาาาา

ยังคงคอนเซ็ป หน้าเบลอหลังชัด  คนถ่ายบอกว่า
อยากให้โฟกัสที่แบล็คกราวด้านหลัง 5555555555

โฉมหน้าช่างภาพ  

นั่งพักจนจักแร้หายเปียกก็ได้เวลาเดินกลับละจ้า 
เดินมา 1 กิโล ก็ต้องเดินกลับอีก 1 กิโลซินะ 
ลุยต่อเลยจ้า 


มุมนี้ต้องขอเก็บไว้หน่อย ชอบมากกกก  เหมาะกับแคปชั่นนี้สุด  "ดินแดนลึกลับ" 

 
ปล่อยใจไปกับธรรมชาติ


โอโซนเต็มปอดมากกกกกกกก  คือดีย์ 

ขากลับเจอฝูงผีเสื้อ 
แต่พอจะไปถ่ายรูปใกล้ๆ บินหนีหมดเลยจ้าาาาา 


หมดเวลาสนุกแล้วซิ หมดเวลาสนุกแล้วซิ 
เดินเพลินๆ แป๊ปเดียวก็ 4 โมงเย็นแล้ว 
ได้เวลาขึ้นเรือกลับละจ้าาาา
 


ทริปจบ บันไดยังไม่จบ ต้องฝ่าฟันอีก 303 ขั้น  ปวดน่องรอเลยแล้วกัน 555555555555  

ปล.เดินทางสะดวก ไม่ไกลกรุงเทพ 
ค่าใช้จ่ายไม่ได้เสียอะไรเยอะ แค่ค่าเรือ คนละ 250 บาท และค่าน้ำมันรถแค่นั้น
จขกท. ถูกใจกับสิ่งนี้มากกกก!!!!