รีวิวขอวีซ่าเยี่ยมเยียนเยอรมันครั้งแรก (2019) ฉบับทำเอง

เกรินก่อนเลยนะครับว่าพึ่งเรียนจบมาไม่นานแล้วยังไม่ได้ทำงาน อยากออกไปเที่ยวไกลๆบ้างบวกกับที่น้าอยู่เยอรมันพอดี ซึ่งพึ่งคิดว่าอยากจะไปก็ช่วงใกล้ฝึกงานเสร็จ กะว่าไปเที่ยวก่อนละกันค่อยทำงาน
ส่วนตัวดูจากยูทูป (ช่องนี้เลย GoNoGuide)
และก็ตามเว็บไซส์ต่างๆ รีวิวในพันทิป
เครียดอยู่นานเลยกลัวไม่ผ่าน เพราะรีวิวกันโหดมาก

>>>อันดับแรก (เอกสารฝั่งน้า) ส่งไปรษณีย์มา 
-          ให้น้าไปติดต่อกับทางนู้นเพื่อขอใบเชิญที่รับรองค่าใช้จ่าย(สีเหลืองๆออกส้ม)29 ยูโร
-          พอดีให้น้าซื้อประกันจากทางนู้นส่งมาเลย (จะซื้อที่ไทยก็ได้แต่ต้องตามที่สถานทูตกำหนด) ประกันที่ได้รับรองจากสถานทูตวงเงินประกันต้องไม่ต่ำกว่า 30,000เหรียญยูโร หรือ 1,500,000 บาท
https://bangkok.diplo.de/blob/1378882/37d42721a0814180c86076a8ca64f267/krankenversicherung-data.pdf
-         จดหมายเชิญเขียนเอง

>>>อันดับสอง (เอกสารฝั่งเรา)
-          พาสปอร์ตของเรา
-          รูปถ่าย 2 ใบ (ถ่ายที่สถานทูตดีกว่า 130 บาท เพราะไปถ่ายเอง 2 ร้านไม่พอใจทั้ง 2 ร้าน 5555555)
https://bangkok.diplo.de/blob/1376432/a281a264654da28c5f64c8eed01ff062/fotomustertafel-downloaddatei-data.pdf
-          จดหมายแนะนำตัวของเรา ประมาณ 1 หน้ากระดาษ ภาษาอังกฤษ
-          ใบสมัครขอวีซ่า แนะนำตอนปริ้นคลิกเป็นภาษาอังกฤษก่อนตัวหนังสือจพชะได้ไม่เคลื่อน
https://videx.diplo.de/videx/desktop/index.html#start
-          เซนรับรองข้อกฎหมายมาตรา 54 วรรค 2  ข้อ 8  และมาตรา 53 
https://bangkok.diplo.de/blob/1387164/7ce507409f7ed68f525b82476daa376a/schengen-belehrung-data.pdf
-          เซนรับรองข้อกฎหมายมาตรา 13 และ 14 
https://bangkok.diplo.de/blob/2161600/2d8b7c09aad5fdac79eb19e067416563/empfangsbestaetigung-datenschutz-grundverordnung-data.pdf

>>> เอกสารของเราส่วนต่างๆ
-       สำเนาบัตรประชาชนเรา
-       สำเนาทะเบียนบ้านเรา
-       สำเนาใบเกิด
-       รูปถ่ายกับน้า กับครอบครัวเรา และรูปถ่ายแม่กับน้าเรา
-       หลักฐานการแชท Line, Skype, e-mail  หรืออื่นๆ
-       ใบรับรองการเป็นนิสิตของมหาวิทยาลัยซึ่งตอนขอยังเป็นนิสิตอยู่
-       สำเนาบัตรนิสิต

>>>อันดับสาม นัดทำวีซ่า
-          เมื่อเอกสารจากน้า ส่งใกล้ถึงก็ได้ทำการนัดหมายเพื่อขอยื่นวีซ่า (ซึ่งจดหมายกว่าจะส่งมาถึงนานมากเกือบ 2 อาทิตย์) จากนั้นทำการนัดหมายกับสถานทูต ซึ่งทำการนัดหมายผ่านเว็บไซส์เท่านั้น ซึ่งแต่ก่อนคือต้องโทรไปนัดเอง (เคยพายายไปทำ 1 ครั้ง) กำหนดเวลาล่วงหน้า 2 อาทิตย์ ซึ่งควรกะระยะเวลาให้พอดีการขอวีซ่าจะขอได้ล่วงหน้า 3 เดือน หรือไม่ควรน้อยกว่า 2 อาทิตย์ก่อนการเดินทาง (ถ้าจำไม่ผิด) แล้วเค้าจะส่งเอกสารการนัดมาทางเมลแล้วต้องปริ้น ย้ำ!!!ต้องปริ้นนนนการนัดหมาย
https://service2.diplo.de/rktermin/extern/choose_realmList.do?locationCode=bangk&request_locale=en

>>>อันดับสี่ถึงเวลาการยื่นวีซ่า
-          การเดินทางเราสามารถนั่ง MRT ลงที่ ”ลุมพินี” ขึ้นมาแล้วเดินไปอีกนิดสัก 500 เมตรมั่ง เดินผ่านป้ายรถเมย์นืดหน่อยก็จะถึงจะเห็นผู้คนต่อแถวกันอยู่ส่วนตัวนัดช่วงเช้าเวลา 8.30 น. วันนั้นเป็นวันจันทร์ซึ่งส่วนตัวได้ดูสีมงคลประจำวันนั้นไปด้วยคือสีน้ำเงินซึ่งคนที่ไปขอยื่นวีซ่าร้อยละ 80 ใส่สีน้ำเงินกันไปไม่รู้ว่าบังเอิญหรือตั้งใจแต่จุดนั้นอะไรที่พึ่งได้ก็พึ่ง 5555555 
-          เมื่อเราต่อแถวแล้วจากนั้นพี่ รปภ. ก็จะหาเราปิดโทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์สื่อสาร เก็บ Power bank ถอดเข็มขัด ส่วนกระเป๋าจะผ่านเครื่องแสกน
แล้วเราก็เดินผ่านเครื่องตัวจับโลหะเตรียมหยิบกระเป๋าจะเอาของไปฝาก ทันใดนั้นพี่ รปภ. ของตรวจกระเป๋า ค้นๆปกติไม่มีไรแต่เพื่อนที่มาด้วยคือไปนั่งรอแล้ว 5555555 ค้นนานพอสมควรก็ไม่มีไรเอาของไปฝากก็จะได้เหรียญมา (สวยดี) เดินไปยื่นใบนัดพร้อมพาสปอร์ตที่เคาน์เตอร์เค้าก็เช็คๆเสร็จก็คืนนั่งรอ
-          จากนั้นตัวเองก็ไปถ่ายรูปเพราะรูปที่ถ่ายมาไม่ได้ดังใจขนาดไม่ได้ภาพหน้าเราเต็มเกินไป (ซึ่งได้แจ้งรายละเอียดรูปให้ทั้ง 2 ร้านไปแล้วแต่ผลที่ได้มาคือ........) เสียไปอีก 130 บาท รอเวลาถึงคิวเรา
-          เมื่อถึงคิดเวลาเราก็ไปต่อแถวซึ่งเป็นรอบที่ 3 ของช่วงเช้าวันนั้นวันหยุดไทยคนยอะมากกกกกซึ่งแน่นอนตามที่อ่านรีวิวมาจะมีพี่ผู้ชายคนนึ่งเสียงดังโว้ยวาย5555 แต่เราเคยเจอเค้ามาก่อนตอนพายายมาก็ไม่โว้ยวายนะปกติดี555555
-         พี่เค้าก็มาเรียก 2 รอบของช่วงเช้าเข้าไปพอถึงรอบเราพี่ผู้ชายคนนั้นไม่รู้ให้ใครมาเรียกแทนซึ่งข้างในรอบก่อนหน้านี้ยังไม่หมดกดรับบัตรคิวรอเรียก
คือเคาน์เตอร์ด้านนอกเปิด 4 ช่อง (เป็นผู้หญิง) ด้านในอีก 3-4 ช่องมั่งจำไม่ได้ คือก็นั่งดูคนคนที่โดนสัมภาษณ์ด้านนอก ในใจก็ตุ้มๆต่อมๆ บ้างคนก็โหด บ้างคนก็ใจดี 
-          พอถึงคิวเราได้ช่อง 10 ซึ่งเป็นห้องห้องเดี่ยวๆเลย เป็นพี่ผู้ชาย (หล่อด้วย55555) 

>>> เอกสารที่เตรียมไปและการเรียงเอกสาร 
1.      พาสปอร์ตตัวจริง
2.      สำเนาพาสปอร์ต
3.      รูปถ่ายพร้อมเขียนชื่อและเลขพาสปอร์ตด้านหลัง 1 ใบ
4.      แบบฟอร์มการของวีซ่าพร้อมตืดรูปถ่ายและเซนเอกสาร สถานที่ วันที่ ชื่อเรา (เซนตามที่เซนพาสปอร์ต)
5.      ใบเชิญที่รับรองค่าใช้จ่ายตัวจริงพร้อมสำเนา 1 ชุด (เขาจะคืนตัวจริงเรามา)
6.      จดหมายเชิญจากน้าเขียนเอง
7.      ใบจองเที่ยวบินส่วนตัวใส่ไปด้วย ซึ่งเขากำหนดเฉพาะวีซ่าท่องเที่ยว เราจองของสายการบินไทยไป

ในส่วนนี้จะเป็นเอกสารประกอบการพิจารณา
8.      จดหมายแนะนำตัวของเรา
9.      รูปถ่ายกับน้า,ครอบครัวเรา (แสดงว่าฉันต้องกลับมาไทยแน่นๆ), รูปถ่ายน้ากับแม่เรา
10.  รูปแคปหน้าจอการสนทนากับน้า
11.  สำเนาบัตรประชาชนเรา
12.  สำเนาทะเบียนบ้าน
13.  สำเนาใบเกิด
14.  ใบรับรองการเป็นนิสิตเราของฉบับภาษาอังกฤษมาตัวจริง
15.  สำเนาบัตรนิสิต
16.  สำเนาพาสปอร์ตน้าพร้อมหน้าที่แสตมป์มาไทย
17.  สำเนาบัตรประชาชนน้าของเยอรมัน
18. สำเนาทะเบียนบ้านน้าที่ไทย
19.  สำเนาทะเบียนบ้านแม่(เขาขอเพิ่ม)
20.  เอกสารผูกมัดประเทศไทยที่เป็นชื่อเราของ เรามีใบประกันสุขภาพ ปริ้นใบเสร็จล่าสุดจากเว็บ และ ปริ้นใบแจ้งกหนี้ กยศ ไปซึ่งกลัวไม่ผ่านมากเพราะมีแค่ 2 อย่างนี้

***เค้าไม่คืนอะไรเรามาเลยยยยนอกจากใบรับรองตัวจริงกับสำเนารับรองการเป็นนิสิต

>>>อันดับห้า ขั้นตอนการสัมภาษณ์
-          เมื่อเราถึงหน้าเคาน์เตอร์เราก็จะยื่นเอกสารทั้งหมดใส่ลงในช่อง (ไม่ต้องแม็กเอกสารใดๆทั้งสิ้น)ใช้คลิปหนีบกระดาษหนีบไปพร้อมหนีบรูปไปด้วย
เขาจะดึงออกและเก็บไปเอง

เริ่มสัมภาษณ์

1.      ไปวันไหนกลับวันไหน (เราดูตอนเค้าจดด้วยซึ่งเค้าจดวันที่เราไปผิดเลยบอกเขาใหม่ว่าไปวันไหน) ซึ่งส่วนตัวคิดว่าสามารถดูได้เราก็ดูเขาจดตลอดการสัมภาษณ์ซึ่งเค้าจดเป็นภาษาอังกฤษติ๊กนู้นนี้บ้าง เราก็ไม่เห็นทั้งหมด
2.      ไปทำไม
3.      เป็นน้าแท้ๆหรออยู่เยอรมันกี่ปีแล้ว
4.      ติดต่อกันทางไหนบ้าง
5.      คุยกันบ่อยไหม
6.      น้าเคยส่งเสียเรียนรึป่าว
7.      มีทะเบียนบ้านแม่ไหม (ในส่วนนี้เขาขอสำเนาทะเบียนบ้านแม่เพิ่ม ซึ่งเราก็เตรียมไป)
8.      น้าทำงานอะไร
9.      เจอน้าครั้งล่าสุดตอนไหน
10.  เราทำอะไรอยู่
11.  ที่บ้านทำงานอะไร
12.  แล้วตอนนี้ย้ายกลับมาอยู่บ้านแล้วใช่ไหม
13.  มีฉโนดที่ดินเป็นชื่อเรารึป่าว
14.  มีบัญชีธนาคารไหม (ในส่วนนี้เราไม่ได้เอาไป)
15.  มีแพลนเที่ยวที่ไหนบ้าง เราก็บอกไปยอะพอควรเค้าก็จดหยิ๊กๆ ไอ้เราก็ยื่นดูเค้าเขียนไปกว่าจะหมด 5555555
16.  สแกนลายนิ้วมือ
เอ้า!!! จบแล้วหรอก555555
คือสแกนทุกนิ้วรอบเดียวผ่าน คือแตกต่างจากคนอื่นด้านนอกที่เรามองมากเช็ดมือแล้วเช็ดอีกนิ้วนี้ไม่ติดบ้าง 
17.  รับเองหรือส่งไปรษณีย์
18.  ชำระเงินช่องที่ 2 วันนั้นชำระไป 2200 บาท ค่าซองจดหมาย 130 บาท

เอาไปยื่นที่พี่ผู้ชายที่เค้าบอกว่าเสียงดังๆอ่ะ บอกช่องที่เราไปสัมภาษณ์มา

ทุกอย่างถ่ายสำเนาไว้อย่างน้อย1 ชุด เซนสำเนาถูกต้องได้ ส่วนตัวเซนเป็นภาษาไทย 

ถือว่าจบกระบวนการการของวีซ่า แล้วไปรับของคืน จากนั้นรอ รอ แล้วก็รอ เครียดนิดหน่อยคือเราก็เตรียมตัวมาเยอะ หาข้อมูลมาไม่น้อย
เอกสารเป็นปึกหนากว่าชีทเรียนอีก หอบทุกอย่างที่เอาไปได้ เกินดีกว่าขาด

ซึ่งไปขอวันจันทร์>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>วันพุธมาถึงแล้วจ้า

เขย่าซองก่อนเลยกลัวมีกระดาษ A4 ติดมาด้วย ตอนวินาทีเปิดซองมือสั่นมากกกกกก ยังมีหน้าพิมพ์ไปบอกเพื่อนว่าได้รับไปรษณีย์แล้วพิมพ์แบบมื่อสั่นเหมือนคนพิมพ์มั่วอ่ะ55555555 เปิดจ้าไม่มี A4 สีขาว แต่มีกระดาษใบเล็กๆเป็บใบแนะนำพร้อมกับวีซ่าที่ติดอยู่กับพาสปอร์ตดีใจมากกกกกก ไม่เสียใจที่เหนื่อยมา

****ซึ่งขอไป 60 วัน ครั้งแรกก็ 60 วัน 555555
กลัวไม่ผ่านนี้แหละกะว่าจะลดเวลาไปแล้วช่วงแรก
แต่ก็กลั้นใจขอไปก่อนละกันแล้วก็ได้มา 75 วัน 

เว็บการขอวีซ่าสถานทูตเยอรมัน https://bangkok.diplo.de/th-th/service/visa-einreise/besuchsvisum/1677562

-ขอคำแนะนำรถไฟจากเยอรมันไปปารีสหน่อยครับ ราคาเท่าไร
-หรือจะแนะนำที่เที่ยวดีๆก็ได้ครับ

ปล. เขียนรีวิวครั้งแรกผิดพลาดประการได้ขออภัยด้วยนะครับ

******************************************************ขอให้ทุกคนที่ขอโชคดีนะครับ********************************************************

 

 
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่