สวัสดีครับ ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนนะครับ ชื่อ ไอซ์ ครับ สิงอยู่ในห้องแป้งมาเป็นระยะเวลายาวนาน แต่ไม่ค่อยได้ตั้งกระทู้อะไร วันนี้จะมาแบ่งปันประสบการณ์การรักษาผิวหน้าที่คลินิกเสริมความงามชื่อดัง (รึเปล่านะ) ในจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากก่อนไปรักษาหากระทู้รีวิวคลินิกรักษาผิวหน้าในเชียงใหม่ พบว่ามีค่อนข้างน้อย และเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกคนที่กำลังตัดสินใจรักษาผิวหน้าครับ
เมื่อเราไปถึงครั้งแรกจะได้พบกับเจ้าของร้าน ซึ่งเป็นผู้วินิจฉัยโรคให้เราเอง โดยขณะที่อยู่ในคลินิกไม่มีแพทย์ผิวหนังอยู่เลย ทั้งที่ก่อนเข้าไปได้นัดกับเจ้าหน้าที่ไว้แล้ว เจ้าของร้านได้แนะนำ IPL ในการรักษาสิว และรอยต่างๆ และแนะนำให้ทำ IPL เพื่อกำจัดขนบนใบหน้า ซึ่งเราก็ตัดสินใจทำ ตอนนั้นแค่คิดว่าไหนๆก็เข้ามาแล้ว T^T เจ้าของร้านยังได้แนะนำชุดดีท็อกซ์ให้ โดยเคลมสรรพคุณว่าช่วยรักษาสิวได้ เรามาดูกันครับว่าเราเสียค่าใช้จ่ายอะไรไปบ้างกับการรักษาครั้งนี้ และได้อะไรกลับมาบ้าง
ภาพนี้เป็นภาพก่อนการรักษาครั้งแรก สภาพผิวมีสิวขึ้นประปราย ผิวค่อนข้างมัน และมีรอยสิวบ้าง ซึ่งมีจุดหนึ่งเป็นรอยแดงชัดเจนบนใบหน้า ซึ่งเป็นจุดที่ค่อนข้างกังวล (ภาพแต่ภาพอาจไม่ชัด ขออภัยด้วยครับ)
ภาพนี้เป็นภาพการรักษาครั้งที่ 2 จะเห็นได้ว่าสิวอุดตัน และรอยยังคงมีอยู่ แน่นอนว่ารอยแดงก็ยังอยู่เช่นกัน
ภาพนี้เป็นภาพการรักษาครั้งที่ 3 ครับ เช่นเดิม รอยสิวต่างๆนั้นยังคงจารึกอยู่บนหน้า ราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น แต่ครั้งนี้หลังจากคลาดแล้วคลาดอีก เราก็ได้พบหมอเวรแล้ว ซึ่งเข้าใจว่าไม่ใช่หมอผิวหนังครับ หมอก็จ่ายยารักษาสิวมานิดหน่อยพอเป็นพิธีครับ
ภาพการรักษาครั้งที่ 4 อันนี้พีคในพีค และขอยกภาพนี้ให้เป็น Best Pic ของกระทู้ นั่นคือ
รอยไหม้ จากการใช้ความร้อนเกินขนาด จะทำให้เกิดแผลพุพองขึ้นบริเวณริมฝีปาก แผลนี้อยู่บนใบหน้ากว่า 2 อาทิตย์ครับ ระหว่างนี้ก็หา Mask ต่างๆปิดไปก่อน แจ้งไปที่คลินิกคำแรกที่ถามคือ พี่ไปทำอะไรมา และก็บอกว่าจะให้ยาไปทา “ฟรี” โดยพูดเน้นว่าฟรี โดยไม่ได้ยินคำขอโทษจากปากพนักงานเลย ส่วนรอยแดง อย่างที่รู้ๆกันครับ คือ อยู่เหมือนเดิม
ภาพการรักษาครั้งสุดท้าย แม้ว่าจะเข็ดหลาบจากอาการหน้าไหม้แล้ว แต่ยังเสียดายเงินร่วมหมื่น จึงได้แบกหน้าไปทำให้ครบ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็เหมือนเดิมครับ ทุกสิ่งบนหน้ายังอยู่ที่เดิม ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
สรุป การรักษาร่วมหมื่นบาทครั้งนี้
ไม่ได้ผลแต่ประการใด นอกจากได้เสียเงิน อารมณ์ และเวลา ท้ายที่สุดก็ต้องแบกหน้าไปต่อคิวหาหมอผิวหนังที่โรงพยาบาลมหาราช เพื่อใช้เลเซอร์รักษาอยู่ดี แต่ที่ติดใจอย่างนึง คือ หลังจากการรักษาจบได้กลับไปรีวิวผลการรักษาว่าไม่ได้ผลเลย ตอนแรกทางคลินิกไม่ยอมรับว่าการรักษาไม่ได้ผล ยังคงทุ่มเถียงต่อเนื่อง และบอกว่าจะดูแล จนเราต้องชี้แจงข้อเท็จให้ทราบ คลินิกจึงยอมขอโทษในที่สุด แต่ก็ยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนว่าที่จะดูแลให้ คือดูแลอย่างไร
สุดท้ายนี้ขอฝากรีวิวการรักษาหน้าครั้งนี้ไว้ด้วยนะครับ หากมีปัญหาผิวหนังปรึกษาแพทย์ผิวหนังโดยตรง หรือใครที่มีกำลังทรัพย์ไม่มาก การปรึกษาเภสัชกรเพื่อเลือกยารักษาเองก็เป็นทางเลือกที่ดีครับ หากเพื่อนๆมีประสบการณ์การเข้าคลินิกรักษาผิวหน้าทั้งได้ผล ไม่ได้ผลมาแชร์ประสบการณ์กันได้ครับ
แล้วพบกันใหม่ครับ บ๊าย บาย
[CR] คลีโอ คลินิก เชียงใหม่ พลีชีพหนังหน้ากับประสบการณ์ที่ลืมไม่ลง
เมื่อเราไปถึงครั้งแรกจะได้พบกับเจ้าของร้าน ซึ่งเป็นผู้วินิจฉัยโรคให้เราเอง โดยขณะที่อยู่ในคลินิกไม่มีแพทย์ผิวหนังอยู่เลย ทั้งที่ก่อนเข้าไปได้นัดกับเจ้าหน้าที่ไว้แล้ว เจ้าของร้านได้แนะนำ IPL ในการรักษาสิว และรอยต่างๆ และแนะนำให้ทำ IPL เพื่อกำจัดขนบนใบหน้า ซึ่งเราก็ตัดสินใจทำ ตอนนั้นแค่คิดว่าไหนๆก็เข้ามาแล้ว T^T เจ้าของร้านยังได้แนะนำชุดดีท็อกซ์ให้ โดยเคลมสรรพคุณว่าช่วยรักษาสิวได้ เรามาดูกันครับว่าเราเสียค่าใช้จ่ายอะไรไปบ้างกับการรักษาครั้งนี้ และได้อะไรกลับมาบ้าง
ภาพนี้เป็นภาพก่อนการรักษาครั้งแรก สภาพผิวมีสิวขึ้นประปราย ผิวค่อนข้างมัน และมีรอยสิวบ้าง ซึ่งมีจุดหนึ่งเป็นรอยแดงชัดเจนบนใบหน้า ซึ่งเป็นจุดที่ค่อนข้างกังวล (ภาพแต่ภาพอาจไม่ชัด ขออภัยด้วยครับ)
ภาพนี้เป็นภาพการรักษาครั้งที่ 2 จะเห็นได้ว่าสิวอุดตัน และรอยยังคงมีอยู่ แน่นอนว่ารอยแดงก็ยังอยู่เช่นกัน
ภาพนี้เป็นภาพการรักษาครั้งที่ 3 ครับ เช่นเดิม รอยสิวต่างๆนั้นยังคงจารึกอยู่บนหน้า ราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น แต่ครั้งนี้หลังจากคลาดแล้วคลาดอีก เราก็ได้พบหมอเวรแล้ว ซึ่งเข้าใจว่าไม่ใช่หมอผิวหนังครับ หมอก็จ่ายยารักษาสิวมานิดหน่อยพอเป็นพิธีครับ
ภาพการรักษาครั้งที่ 4 อันนี้พีคในพีค และขอยกภาพนี้ให้เป็น Best Pic ของกระทู้ นั่นคือ รอยไหม้ จากการใช้ความร้อนเกินขนาด จะทำให้เกิดแผลพุพองขึ้นบริเวณริมฝีปาก แผลนี้อยู่บนใบหน้ากว่า 2 อาทิตย์ครับ ระหว่างนี้ก็หา Mask ต่างๆปิดไปก่อน แจ้งไปที่คลินิกคำแรกที่ถามคือ พี่ไปทำอะไรมา และก็บอกว่าจะให้ยาไปทา “ฟรี” โดยพูดเน้นว่าฟรี โดยไม่ได้ยินคำขอโทษจากปากพนักงานเลย ส่วนรอยแดง อย่างที่รู้ๆกันครับ คือ อยู่เหมือนเดิม
ภาพการรักษาครั้งสุดท้าย แม้ว่าจะเข็ดหลาบจากอาการหน้าไหม้แล้ว แต่ยังเสียดายเงินร่วมหมื่น จึงได้แบกหน้าไปทำให้ครบ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็เหมือนเดิมครับ ทุกสิ่งบนหน้ายังอยู่ที่เดิม ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
สรุป การรักษาร่วมหมื่นบาทครั้งนี้ไม่ได้ผลแต่ประการใด นอกจากได้เสียเงิน อารมณ์ และเวลา ท้ายที่สุดก็ต้องแบกหน้าไปต่อคิวหาหมอผิวหนังที่โรงพยาบาลมหาราช เพื่อใช้เลเซอร์รักษาอยู่ดี แต่ที่ติดใจอย่างนึง คือ หลังจากการรักษาจบได้กลับไปรีวิวผลการรักษาว่าไม่ได้ผลเลย ตอนแรกทางคลินิกไม่ยอมรับว่าการรักษาไม่ได้ผล ยังคงทุ่มเถียงต่อเนื่อง และบอกว่าจะดูแล จนเราต้องชี้แจงข้อเท็จให้ทราบ คลินิกจึงยอมขอโทษในที่สุด แต่ก็ยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนว่าที่จะดูแลให้ คือดูแลอย่างไร
สุดท้ายนี้ขอฝากรีวิวการรักษาหน้าครั้งนี้ไว้ด้วยนะครับ หากมีปัญหาผิวหนังปรึกษาแพทย์ผิวหนังโดยตรง หรือใครที่มีกำลังทรัพย์ไม่มาก การปรึกษาเภสัชกรเพื่อเลือกยารักษาเองก็เป็นทางเลือกที่ดีครับ หากเพื่อนๆมีประสบการณ์การเข้าคลินิกรักษาผิวหน้าทั้งได้ผล ไม่ได้ผลมาแชร์ประสบการณ์กันได้ครับ
แล้วพบกันใหม่ครับ บ๊าย บาย
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น