เรื่องมีอยู่ว่าเราได้ไปเที่ยวกับครอบครัว ซึ่งหลานเราป่วยเป็นอีสุกอีใสขณะไปเที่ยว แต่คิดว่าเด็กเป็นเชื้อคงไม่รุนแรง ไม่น่าจะติดผู้ใหญ่ได้(คิดไปเอง5555) จึงไม่ได้ไปฉีดวัคซีนป้องกัน พอกลับจากทริปได้ประมาณ 10 วัน ทุกคนที่ไปเที่ยวด้วยกันเริ่มทะยอยเป็นอีสุกอีใสกันทีละคน แล้วเหลือเราคนเดียวที่ยังไม่เป็น แล้วช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราสอบไฟนอลด้วย เราเลยกลัวว่าจะเป็น จึงได้ไปหาหมอ(ที่ รพ.รัฐชื่อดัง) ก่อนที่จะพบหมอเราได้ไปติดต่อทำประวัติ พยาบาลถามเราว่ามาทำอะไรคะ เราตอบว่ามาฉีดวัคซีนป้องกันอีสุกอีใสค่ะ พยาบาลก็พูดขึ้นว่า มาฉีดเเสดงว่าอยากเป็น (แล้วหัวเราะแบบ เหมือนเราไม่มีคสามรู้ด้านนี้เเล้วอยากมาฉีด) แล้วชักสีหน้าใส่ เราไม่พอใจมาก คือมันไม่มีใครอยากเป็นป่ะ ถึงได้มาฉีด แต่เราก็เก็บอาการอยู่ เราเลยได้พบหมอ แต่เนื่องจากระยะเวลามันผ่านมา 17 วันแล้วหบังจากได้สัมผัสเชื้อ ถึงฉีดวัคซีนก็กันครั้งนี้ไม่ได้ เราจึงตรวจเลือดหาภูมิคุ้มกัน ผลออกมาคือเรามีภูมิคุ้มกันแล้ว ไม่เป็นอีสุกอีใส เราก็งง เพราะเราไม่เคยเป็นมาก่อน หมอบอกว่าเราอาจจะจำไม่ได้ว่าเคยเป็น ที่สงสัยคือ
1. ถ้ายังไม่ได้เป็นอีสุกอีใสแล้วไปฉีดวัคซีนจะทำให้เราเป็นอีสุกอีใสหรอ?
2.พยาบาลทำกิริยาแบบนี้กับผู้ป่วยเหมาะสมแล้ว?
3.ถ้าเราไม่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อน เราจะมีภูมิคุ้มกันมั้ย?