จบไปแล้วสำหรับ ชปล 2019 ยินดีด้วยสำหรับลิเวอร์พูดครับ สมศักดิ์ศรีจริงๆ ทำให้ผมนึกถึงกระทู้ที่ผมตั้งหลังนัดชิง ชปล ปีก่อน
https://ppantip.com/topic/37708866
ผมนึกในใจว่า ปีนี้เจอร์เก้นท์ คล็อป อ่านกระทู้ผมรึป่าววะ 555 ทำให้ปีนี้ได้แชมป์ ชปล ไปเลย ผมทำนายหลายๆ อย่างได้ถูกต้องทั้งการเสริมทัพที่ถูกต้องของลิเวอร์พูล การเล่นนัดชิงชนะเลิศที่เขี้ยวสุดๆ และฟอร์มตกต่ำของรีลมาดริด ฯลฯ
สำหรับนัดชิงเมื่อคืน ถือว่าเทพีแห่งโชคเข้าข้างลิเวอร์พูลเล็กๆ ทีได้ประตูคลายความกดดันแต่ต้นเกมทำให้งานของลิเวอร์พูลง่ายขึ้นเยอะ การที่คล็อปแพ้นัดชิงบ่อยๆ คงจะเรียนรู้ได้ว่า การเล่นสวยงามแต่ไร้ถ้วย ก็ไม่มีประโยชน์ ดังนั้นนัดนี้จะเล่นเขี้ยวเป็นพิเศษ สวมวิญญาณมูรินโญ่เน้นแทคติกเป็นพิเศษ (ใกล้เคียงอินเตอร์ได้แชมป์ปี 2010 ) มูรินโญเคยให้ความเห็นว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดของนัดชิงชนะเลิศคือ "จิตใจที่มีสมาธิและห้าวหาญ" ฝีเท้าทุกทีมมีพอๆ กัน แต่ความประหม่า ตื่นเต้นนี่แหละจะเป็นตัวตัดสินเกมส์ ต่อให้ฝีเท้าดียังไง แต่ความประหม่าตื่นเต้นทำให้ฝีเท้าลดหายไปพอสมควร ลิเวอร์พูลมีประสบการณ์ได้เข้าชิงมาแล้วปีก่อนจึงทำให้การควบคุมการเล่นได้ดีกว่าสเปอร์ ส่วนสเปอร์นั้น เท่าที่ผมสังเกตตอนเริ่มแข่ง นักเตะมีอาการประหม่าเห็นได้ชัดตั้งแต่เดินออกจากอุโมงค์ ความดุดันในเกมรุกหายไปดื้อๆ ( ดูจังหวะเดเล่อัดลี่ยิงได้เลย เบามากแถมย้อยอีก ถ้าเป็นนัดธรรมดาคงยิงได้ดีกว่านี้) คงต้องเก็บประสบการณ์นัดสำคัญๆ มากกว่านี้ ส่วนประเด็นหนึ่งคือเคนลงตัวจริงครบ 90 นาทีนี่แหละ ในความคิดผม สเปอร์ที่ไม่มีเคนเล่นได้ดีกว่านี้ ดูมีความลื่นไหล ลงตัวมากกว่า แต่ไม่รู้ทำไม โค้ชให้ลงครบเกม ผมคิดเล่นๆ ว่า ลึกๆ แล้ว Son เล่นคู่กับเคนได้ไม่ราบรื่นเท่าไร อาจจะเพราะ เกร็งๆ ที่เคนเป็นขาใหญ่ในทีมอีกทั้งอาจจะเรื่องเชื้อชาติเอเชียก็เป็นไปได้ (อันนี้ไม่ได้เหยียดเชื้อชาติ แต่เท่าที่รู้คนอังกฤษมีความหยิ่งในความเป็นเชื้อชาติตัวเองและเหยียดคนเอเชียพอสมควร) ถ้าเป็นมูร่า เกมรุกอาจจะดุดันกว่านี้ก็เป็นไปได้ คงต้องเก็บประสบการณ์ต่อไปสำหรับสเปอร์ ส่วนลิเวอร์พูลนั้น พระเจ้าคงเขียนบทให้แล้วแหละครับ เพื่อตอบแทนความพยายามและฟอร์มการเล่นแบบนี้ ควรจะได้รางวัลติดไม้ติดมือสักที
------ ถ้าจะให้นิยามการได้แชมป์ของลิเวอร์พูลครั้งนี้ ผมคิดว่า "Never Give Up" บนเสื้อซาล่าห์นี่แหละ ใครจะคิดว่าปีที่แล้วเข้าชิง ปีนี้ได้เข้าชิงอีก แต่ละรอบก็มีหวาดเสียว มีพลิกล็อค พลิกนรก ดราม่าถล่มถลาย แถมได้แชมป์อีกต่างหาก ผมจึงโคตรเข้าใจอารมณ์เฮนโด้กับคล็อปที่ร้องไห้หลังจากจบเกม เพราะการที่คุณผิดหวังมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แล้วลุกขึ้นสู้ขึ้นมาได้ถ้วยแชมป์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปที่หลายๆ ทีมโคตรอยากจะได้ (น่าจะเป็นทัวร์นาเมนต์สโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกในความคิดผม) มันช่างเป็นรางวัลตอบแทนที่คุ้มค่าจริงๆ-----
เก่งหลังเกม นัดชิง ชปล 2019
https://ppantip.com/topic/37708866
ผมนึกในใจว่า ปีนี้เจอร์เก้นท์ คล็อป อ่านกระทู้ผมรึป่าววะ 555 ทำให้ปีนี้ได้แชมป์ ชปล ไปเลย ผมทำนายหลายๆ อย่างได้ถูกต้องทั้งการเสริมทัพที่ถูกต้องของลิเวอร์พูล การเล่นนัดชิงชนะเลิศที่เขี้ยวสุดๆ และฟอร์มตกต่ำของรีลมาดริด ฯลฯ
สำหรับนัดชิงเมื่อคืน ถือว่าเทพีแห่งโชคเข้าข้างลิเวอร์พูลเล็กๆ ทีได้ประตูคลายความกดดันแต่ต้นเกมทำให้งานของลิเวอร์พูลง่ายขึ้นเยอะ การที่คล็อปแพ้นัดชิงบ่อยๆ คงจะเรียนรู้ได้ว่า การเล่นสวยงามแต่ไร้ถ้วย ก็ไม่มีประโยชน์ ดังนั้นนัดนี้จะเล่นเขี้ยวเป็นพิเศษ สวมวิญญาณมูรินโญ่เน้นแทคติกเป็นพิเศษ (ใกล้เคียงอินเตอร์ได้แชมป์ปี 2010 ) มูรินโญเคยให้ความเห็นว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดของนัดชิงชนะเลิศคือ "จิตใจที่มีสมาธิและห้าวหาญ" ฝีเท้าทุกทีมมีพอๆ กัน แต่ความประหม่า ตื่นเต้นนี่แหละจะเป็นตัวตัดสินเกมส์ ต่อให้ฝีเท้าดียังไง แต่ความประหม่าตื่นเต้นทำให้ฝีเท้าลดหายไปพอสมควร ลิเวอร์พูลมีประสบการณ์ได้เข้าชิงมาแล้วปีก่อนจึงทำให้การควบคุมการเล่นได้ดีกว่าสเปอร์ ส่วนสเปอร์นั้น เท่าที่ผมสังเกตตอนเริ่มแข่ง นักเตะมีอาการประหม่าเห็นได้ชัดตั้งแต่เดินออกจากอุโมงค์ ความดุดันในเกมรุกหายไปดื้อๆ ( ดูจังหวะเดเล่อัดลี่ยิงได้เลย เบามากแถมย้อยอีก ถ้าเป็นนัดธรรมดาคงยิงได้ดีกว่านี้) คงต้องเก็บประสบการณ์นัดสำคัญๆ มากกว่านี้ ส่วนประเด็นหนึ่งคือเคนลงตัวจริงครบ 90 นาทีนี่แหละ ในความคิดผม สเปอร์ที่ไม่มีเคนเล่นได้ดีกว่านี้ ดูมีความลื่นไหล ลงตัวมากกว่า แต่ไม่รู้ทำไม โค้ชให้ลงครบเกม ผมคิดเล่นๆ ว่า ลึกๆ แล้ว Son เล่นคู่กับเคนได้ไม่ราบรื่นเท่าไร อาจจะเพราะ เกร็งๆ ที่เคนเป็นขาใหญ่ในทีมอีกทั้งอาจจะเรื่องเชื้อชาติเอเชียก็เป็นไปได้ (อันนี้ไม่ได้เหยียดเชื้อชาติ แต่เท่าที่รู้คนอังกฤษมีความหยิ่งในความเป็นเชื้อชาติตัวเองและเหยียดคนเอเชียพอสมควร) ถ้าเป็นมูร่า เกมรุกอาจจะดุดันกว่านี้ก็เป็นไปได้ คงต้องเก็บประสบการณ์ต่อไปสำหรับสเปอร์ ส่วนลิเวอร์พูลนั้น พระเจ้าคงเขียนบทให้แล้วแหละครับ เพื่อตอบแทนความพยายามและฟอร์มการเล่นแบบนี้ ควรจะได้รางวัลติดไม้ติดมือสักที
------ ถ้าจะให้นิยามการได้แชมป์ของลิเวอร์พูลครั้งนี้ ผมคิดว่า "Never Give Up" บนเสื้อซาล่าห์นี่แหละ ใครจะคิดว่าปีที่แล้วเข้าชิง ปีนี้ได้เข้าชิงอีก แต่ละรอบก็มีหวาดเสียว มีพลิกล็อค พลิกนรก ดราม่าถล่มถลาย แถมได้แชมป์อีกต่างหาก ผมจึงโคตรเข้าใจอารมณ์เฮนโด้กับคล็อปที่ร้องไห้หลังจากจบเกม เพราะการที่คุณผิดหวังมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แล้วลุกขึ้นสู้ขึ้นมาได้ถ้วยแชมป์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปที่หลายๆ ทีมโคตรอยากจะได้ (น่าจะเป็นทัวร์นาเมนต์สโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกในความคิดผม) มันช่างเป็นรางวัลตอบแทนที่คุ้มค่าจริงๆ-----