Backpacker in Peru ที่ไม่ได้มีแค่ Machu Picchu


ที่มา : google maps
สวัสดีค่ะ .. เราเป็นออแพร์ไทยในสหรัฐอเมริกาที่กำลังจะจบปีแรก ดังนั้นทริปนี้จึงเป็นทริปวันหยุดตามข้อกำหนดของโครงการที่ให้ไว้ 14 วันต่อปี ไหนๆ ก็ไปมาแล้ว เราจึงอยากมาแชร์ประสบการณ์สดๆ ร้อนๆ ลุยๆพังๆ ให้ทุกคนได้ร่วมอ่านกัน เราจะพยายามเล่าในสิ่งที่เราเจอมา โดยใส่รายละเอียดให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ หรือนึกออก เพื่อให้เห็นภาพ หรือเป็นข้อมูลให้กับคนที่สนใจ รวมถึงร่วมยิ้มตามหรือด่าเราไป ทริปนี้เราเที่ยวตามกำลังทรัพย์ของตัวเอง (ออแพร์ด้วยกันจะเข้าใจสภาวะทางการเงินของเรา) อาจจะถูกใจสายประหยัด แต่ไม่เหมาะกับสายสบายเท่าไหร่นะคะและเราจะเน้นเกริ่นรายละเอียดที่มาที่ไปด้วยค่ะ

ภาพนี้คือ(สัม)ภาระของเราตลอดทริปนี้

ทำไมต้องเปรู?
จริงๆ ประเทศนี้ไม่ได้ถือว่าเป็นประเทศแปลกประหลาดแต่อย่างใด เพราะใครๆ ก็พอจะคุ้นหูว่าเป็นที่ตั้งของ ‘มาชูปิกชู’ หนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ ที่ตั้งของเปรูคืออยู่ในทวีปอเมริกาใต้ เราอยากเที่ยวแถบนี้หรือประเทศในแถบหมู่เกาะคาริบเบียน แต่จากการอ่านข้อมูลหลายๆ ที่รวมกัน แต่ละประเทศที่ติดอันดับในใจ ค่อยๆ ตกไปทีละอัน จนเหลือ ‘เปรู’ เป็นอันว่า เลือกประเทศได้แล้ว เริ่มหาข้อมูลเชิงลึกอย่างจริงจัง เพราะเราตั้งใจว่าจะแบ็คแพ็คไปคนเดียว เราตั้งงบสำหรับเอาไปใช้ตลอด 11 วันที่นู่นไว้ทั้งหมด $600


วางแผนการเดินทาง
ทริปนี้เราจองตั๋วเครื่องบินก่อนเป็นอันดับแรกตั้งแต่เดือน มกราคม 2019 ด้วยสายการบิน Copa airline เส้นทางจาก Dulles airport (IAD) ไปยัง Lima airport (LIM) ในราคาไป-กลับ $600 ผ่าน Jetradar เพื่อเป็นการบังคับกลายๆ ในการหาข้อมูลสถานที่ การเดินทาง และที่พักต่างๆ ซึ่งช่วงเวลาเที่ยวของเราคือ 20 พฤษภาคม ถึง 1 มิถุนายน 2019

เราหาข้อมูลไปเรื่อยๆ เพราะเอาจริงๆ แล้ว เราอยากเที่ยวในส่วนอื่นๆ ของประเทศ อยากไปในที่ที่เรายังไม่ค่อยเจอคนมาเขียน หรือมาเล่า โชคดี เราไปเจอเว็ปไซต์หนึ่งซึ่งเป็น บริษัทรถบัสนำเที่ยวในเปรู ชื่อว่า ‘Peru Hop’ คำว่า hop เราเดาว่าคงมาจากแต่ละจุดพัก เราสามารถจะแวะพักนานที่เราต้องการ และก็ไปขึ้นรถอีกคันตอนที่เราอยากจะไปที่ต่อไปค่ะ เราแนบเว็ปไซต์ไว้ให้ข้างล่างนี้นะคะ
https://www.peruhop.com
ในตัวเว็ปไซต์จะมีตัวเลือกให้เราตัดสินใจได้ว่าเราจะจัดแจงเวลาเที่ยวยังไงภายในระยะเวลาเท่านี้ๆ รายละเอียดเว็ปไซต์จะมีให้ใส่จำนวนวันที่เราคาดว่าจะเที่ยว และเส้นทางเริ่มจากเมืองไหน พร้อมทั้งบอกราคา  ให้เราตัดสินใจ

จากการส่องและสูบข้อมูล รวมถึงสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับพนักงาน เราได้เส้นทางการเที่ยวทั้งหมดจากเว็ปไซต์นี้ค่ะแต่เราไม่ได้จองไปกับบริษัทนี้เพราะว่า ช่วงเปลี่ยนในแต่ละสถานที่ในบางจุด ตารางบัสไม่เอื้ออำนวยต่อการเดินทางสำหรับเรา คือ เราจะต้องแวะนอนในบางที่ เพราะไม่มีบัสวิ่งจากจุดนั้น ไปจุดต่อไป ในเวลาที่เราอยากจะไปดังนั้น เราเลยตัดสินใจ เดินทางด้วยตัวเองทั้งหมด! ซึ่งเส้นทางของทริปเราส่วนใหญ่ตามภาพข้างล่างนี้เลยค่ะ


ที่มา : https://www.peruhop.com/passes/?duration=1-week-to-2-weeks&destination=peru&departure=lima

การจองตั๋วบัส และทัวร์ที่อยากจะทำ
เราเริ่มหาข้อมูลว่า การจะเดินทางไปในแต่ละจุดตามเส้นทางของเราเนี่ยทำได้อย่างไรบ้าง และก็ค้นพบว่าโดยสารรถบัสดูสะดวกสุดค่ะ เราก็เริ่มหาข้อมูลบริษัทรถบัสที่วิ่งในเปรูที่ค่อนข้างครอบคลุมหลายๆ พื้นที่หรือพูดง่ายๆ คือ ทั่วประเทศนั่นเอง จนเราเจอบริษัท Cruz del Sur (ครุซ เดล ซุล ; พยายามออกเสียงตามภาษาสเปนที่เราได้ยินมา อาจไม่ถูกต้อง ก็เพิกเฉยไปเนาะ) ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในบริษัทที่ดีบริษัทหนึ่ง เว็ปไซต์รถบัส ตามลิงค์นี้เลยค่ะ https://www.cruzdelsur.com.pe

ราคาบัสทั้งทริปของเราคือ $117.29

การจองตั๋วรถบัสของเรานั้น จะต้องสอดคล้องไปกับทัวร์ที่เราเลือกจะทำในแต่ละที่ ดังนั้น เราต้องเขียนแพลนทั้งหมดออกมาก่อนค่ะว่า จะใช้เวลาแต่ละจุดนานแค่ไหน และแต่ละทัวร์กินระยะเวลาเท่าไหร่ จึงจะสามารถไปจองรถบัสได้ ขั้นตอนนี้เราเช็คแล้วเช็คอีกค่ะ กลัวพลาด เพราะเราเดินทางต่อเนื่อง หากเราพลาดจุดนึงแล้ว มันจะส่งผลไปยังจุดต่อไปค่ะ

สำหรับกิจกรรมที่ทำในทริปนี้เราหาจากเว็ปไซต์ Findlocaltrips ซึ่งเค้าการันตีว่าทัวร์เค้าถูกนะ(กรณีจองออนไลน์ไป ไม่นับการไปซื้อทัวร์ที่นู่นนะคะ) เว็ปไซต์ตามนี้เลย https://www.findlocaltrips.com ตัวเว็ปไซต์จะใ้ส่จุดหมายที่จะไป มันก็แสดงลิสต์ของกิจกรรมที่น่าสนใจในเมืองนั้นๆ โดยหากเราสนใจกิจกรรมไหน ก็สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดได้เลย
หน้าตาเว็ปไซต์ตามนี้เลยค่ะ
  
เมื่อเครื่องมือพร้อม แพ็คกระเป๋าไปกันเลย

20 พฤษภาคม 2019
วันแรกของแพลนเรา เราตื่นแต่เช้าออกไปยังสนามบิน แต่!!!! เราตกเครื่องค่ะ เหตุผลเพราะตัวเองล้วนๆ ที่ไม่เช็คตารางบินว่าเปลี่ยนเวลา และไม่เช็ค boarding pass ตอนเช็คอิน นั่นแหล่ะ พูดแล้วก็เศร้าแต่มันเกิดขึ้นแล้ว เราได้แต่แบกกระเป๋ากลับบ้าน ยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง

21 พฤษภาคม 2019
ตั้งหลักใหม่ พกความมั่นใจไปเต็มเปี่ยมว่าวันนี้จะไม่พลาดอีก เจียดเงินบางส่วนจาก budget ที่วางไว้ $600 มาจ่ายค่าตั๋วเครื่อง $375 สรุปเราเหลือเงินไป $450 ที่แน่ๆ เราพลาดในการเที่ยว Lima เมืองหลวงของเปรู แต่เราต้องไปให้ทันก่อนจะเปลี่ยนจุดหมายจาก Lima ไปยัง Paracas โดยบัสเที่ยวแรกของทริปและทัวร์แรกของทริปนั่นคือ Ballestas Island

หลังจากบินจาก Dulles ประมาณ 4 ชั่วโมงนิดๆ เราแวะเปลี่ยนเครื่องที่ปานามาประมาณ ชั่วโมงหน่อยๆ สนามบินไม่ซับซ้อนมากทำให้เราไม่เสียเวลาในการหา Gate เท่าไหร่ แต่ข้อควรระวังคือ** บางครั้ง Gate ที่บอกใน boarding pass กับความจริงไม่ตรงกัน ดังนั้นต้องไปเช็คที่สนามบินอีกทีค่ะ เอาชัวร์ไปเลย!! เราบินจากปานามา 3 ชั่วโมงกว่าๆ มาถึงลิมาก็ทุ่มกว่าๆ เราเดินทางออกจากสนามบินโดยรถบัส Airport Express Lima ที่วิ่งระหว่างสนามบินและโซน Miraflores (ที่พักของเรา) ในราคา $8/เที่ยว ซื้อตั๋ว ขึ้นรถ เว็บไซต์บัสตามนี้เลยค่ะ
https://www.airportexpresslima.com

ถึงที่พัก ด้วยความไปถึงค่ำ ร้านแลกเงินปิดหมดแต่ทางที่พักเราเค้ารับแลก เราก็เลยแลกเงินบางส่วนที่ รร. และไปกินกับข้าวมื้อเย็นใกล้ๆ ที่พัก ด้วยการสื่อสารแบบภาษามือกล้อมแกล้ม สุดท้ายเราได้ไก่ย่างมากินพออิ่มท้องในราคาประมาณ 24 sole จบวันแรกไปแบบสบายๆ
ปล. อัตราแลกเปลี่ยนที่ รร. เราได้ประมาณ $1=3.2 sole

22 พฤษภาคม 2019
เราออกจากโรงแรมโดยการช่วยเหลือของพนักงานช่วยโทรเรียกแท็กซี่ให้ประมาณตีสามสิบห้า เราถึงท่ารถบัส Cruz del Sur ประมาณตีสามครึ่ง บัสเราออกเวลา 3:45 (ขอเขียนเป็นตัวเลขละกันนะคะ) ไปถึงปุ๊บ เราเห็นสถานีไม่ได้ใหญ่มาก เราถามพนักงานหญิงตรงประตูด้วยภาษาอังกฤษ พนักงานตอบมาเป็นภาษาสเปน เราพอเข้าใจว่าให้ไปนั่งรอตรงที่นั่ง (เรามองตามเห็นว่าเป็นประตู 2 และมีคนกลุ่มนึงนั่งรออยู่) บทเรียนที่ 1 เริ่มต้นคือ คนทั่วไปในเปรู ไม่พูดภาษาอังกฤษค่ะ
เรานั่งรอสักพักเหลือบไปเห็นป้ายขนาดใหญ่ที่แสดงเส้นทางการวิ่งรถของบริษัทนี้ คือเค้าวิ่งข้ามประเทศกันเลยค่ะ เราก็เลยถ่ายภาพไว้และกลับมานั่งรอ


เรานั่งรอจน 3:45 ก็ยังไม่มีการตั้งแถวเตรียมขึ้นรถแต่อย่างใด แล้วนึกสภาพท่ารถตอนตีสามตอนนั้นไม่ได้มีความพลุกพล่านแต่อย่างใดเลยค่ะ กลับเงียบๆ คนไม่ค่อยเยอะด้วยซ้ำ พอจนตีสี่ คนที่นั่งรอกับเราเริ่มลุกไปอีกทาง ไปทางประตู 4 เยื้องๆ กันนิดนึงเราก็เดินตามไป ก่อนขึ้นบัสเราต้องเอากระเป๋าไปโหลดเช็ค เค้าจะมีการชั่ง นน. กระเป๋าและให้ใบแท็กเรามา ระหว่างรอเช็คกระเป๋า พนักงานพยายามถามเรามาจากไหน ชวนคุยกับแบบ งงๆ ผ่านไปสักพัก เค้าทำหน้าตกใจและบอกเราว่า บัสเวลา 3:45 ออกไปแล้วนะ นี่คือบัสเวลา 4:00 เราแบบ เหวอ ไปค่ะ เค้าพยายามพาเราเดินไปหาพนักงานที่เช็คผู้โดยสารก่อนขึ้นรถ พอเค้ารู้เราตกรถ เค้าถามชื่อเราพอเราตอบไป เค้าบอกว่า เค้าเรียกชื่อเรานะ เราแบบเห้อออ อยากจะบอกว่า ไมค์มีช่วยใช้ด้วย และเราไม่ได้ยินอะไรเลยจริงๆ แต่สุดท้าย เค้าให้พนักงานเช็คกระเป๋าพาเราไปซื้อตั๋วใหม่ และบอกว่า discount ให้นะ เราก็จ่ายตั๋วใหม่ไปในราคาที่ไม่ได้ลดอันใด เพื่อให้ไปถึงเมือง Paracas ให้ทันก่อน 8 โมง


สภาพพื้นที่ตอนใกล้ถึง Paracas ระยะเวลาจาก Lima มา Paracas ประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าๆ เรามาถึงก็เจ็ดโมงกว่าแล้ว รีบหา taxi ไปยังจุดนัดพบสำหรับทัวร์แรก

Paracas คือเมืองเล็กทางชายฝั่งตะวันตกติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก เราซื้อทัวร์ Ballestas Island รอบ 8:00 ระยะเวลานั่งเรือจากชายฝั่งไปยังเกาะใช้เวลาประมาณ 45 นาที ทัวร์พาไปดูสัตว์ทะเล (มีแค่แมวน้ำและนก 55) ตามแหล่งที่อยู่อาศัยเขาจริงๆ ทัวร์นี้เราเฉยๆ เพราะเรือล่องรอบๆ เกาะ คลื่นแรงจนเรือโคลงเคลงหนักมาก บวกกับกลิ่นเค็มของเกลือ เราแบบเมาเรือ มึนหัวไปหมด





ทัวร์ใช้เวลา 2 ชม. จบจากทัวร์เรารีบเดินมาเอาของที่ฝากไว้ เดินหาแลกเงินเพราะเงิน sole เราหมด และเดินไปยังท่ารถสำหรับจุดหมายต่อไปเมือง Ica (อิก-กา) ซึ่งใช้เวลาห่างจาก Paracas ประมาณ 2 ชม. รอบนี้เราไม่พลาด สถานีเล็กกว่าในลิมาและเราถามพนักงานย้ำแล้วย้ำอีก ! ฟู่วว ผ่านไปด้วยดี

เรามาถึง Ica ตอนประมาณบ่ายโมง ลงรถมาปุ๊บ เราแทบไหม้ เพราะอากาศเมืองนี้ค่อนข้างร้อน เทียบกับ Paracas ที่จะค่อนข้างเย็นสบาย เราถูกรุมล้อมด้วยแท็กซี่ คนไหนพอสื่อสารภาษาอังกฤษได้ก็ได้เปรียบคนอื่นหน่อย เราโดนตะล่อมให้ไปในราคา $10 แค่ดียึกยักทันบอกขอเดินเที่ยวรอบเมืองก่อนนะ เพราะนักท่องเที่ยวที่มาเมืองนี้ส่วนใหญ่จะต้องไปต่อยังเมืองเล็กๆ ติดกับ Ica ที่ชื่อว่า Huacachina (ฮัว-คา-ไช-น่า) ที่เป็นเมืองแห่ง Oasis กลางทะเลทรายและมีกิจกรรมสุดฮิตอย่างนั่งรถบักกี้ขึ้นเนินทรายและเล่นสเก็ตบอร์ดทราย

ทัวร์ Sandboarding เราเริ่ม 4 โมงเย็น ตอนนั้นบ่ายโมง เราเห็นว่ายังมีเวลา เราจึงไปเดินหาซื้อซิมโทรศัพท์โดยการถามคนรายทางไป รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง ก็ไม่เจอเลย เพราะส่วนใหญ่จะเป็นร้านเติมเงินหมด เดินไปพักใหญ่จนเหงื่อซก เราก็เจอศูนย์ซิมโทรศัพท์ของเครือข่าย Bitel เข้าไปเจอพนักงานชาย หญิง 2 คน เราถามไปปุ๊บ พนักงานทำหน้า งง เพราะเค้าพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย จนเราแบบยืน เก้ๆ กังๆ กันไปมา แต่เค้ารู้ว่าเราจะมาซื้อซิม เราดูโบว์ชัวร์ไปสักพักและกำลังชั่งใจว่าจะเอาแบบไหนดี จนพนักงานหญิงคงทนไม่ไหว เค้าเดินออกไปตามคนมา พักนัง พนักงานอีกคนแต่พอสื่อสารภาษาอังกฤษได้มาถึง ชีวิตสะดวกมากขึ้นค่ะ สุดท้ายเราได้ซิมมา 5GB ราคา 40 sole และขอความช่วยเหลือในการเรียกแท็กซี่ไปส่งที่ Huacachina ในราคา 7 sole พร้อมกับกล่าวขอบคุณและโบกมือลากับพนักงานที่ช่วยเหลือเราและคุยกันผ่าน google translate (มีเน็ตแล้ว)

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่