First Time in TOKYO

5 วัน 4 คืน

งบ 25000 (รวมช็อปปิ้งนิดหน่อย) งบของคนประหยัด 

🛩 ตั๋วเครื่องบิน 7100 nokscoot (เป็นสายการบินที่เปิดดูเมล์ทุกวันกลัวโดนเท)

🏨 โรงแรม Haru Hotel ย่าน Shin-Okubo 2800 (หารห้าคน)

🚌 รถบัสไปคาวากุจิโกะ  1150 (จองผ่านเว็ป Highwaybus) https://www.highwaybus.com/gp/inbound/index

🚈 บัตร Subway 48 ชั่วโมง  340 (ซื้อผ่านklook)

🏰 Tokyo Disneyland  1680  (ซื้อผ่าน Traveloke ตอนมีส่วนลดราคาปกติ 2200 ถ้าซื้อหน้างาน 6700 เยน)

 อันนี้คืองบที่จ่ายตอนอยู่ที่ไทย ค่าใช้จ่ายที่โตเกียวก็เหลือ ค่ากิน ค่าเดินทาง ค่าช็อปปิ้ง

Narita Airport Terminal 2 ➡ Nippon Station ➡ Shin-Okubo

การเดินทางจากสนามบินไปที่พัก เราเลือกเดินทางด้วย Keisei Main Line รถไฟธรรมดา(สีแดง) ใช้เวลาประมาณ 70 นาที รถไฟเป็นแบบบีทีเอสบ้านเรานั่งยาวๆ ใช้บัตร Pasmo แตะเข้าไปได้เลย บัตรสามารถซื้อได้ตรงตู้หน้าประตูก่อนทางเข้า ก่อนขึ้นรถไฟให้ดูรอบรถก่อนขึ้นนะเดียวผิดขบวน เราเลือกลง Nippon Station แล้วต่อ jr สาย Yamanote Line สายสีเขียวที่วิ่งเป็นวงกลม มีสถานีให้ลงในแหล่งท่องเที่ยวเยอะมาก

จากสถานีเดินไปโรงแรมใกล้มาก หน้าปากซอยมีร้านข้าวเปิด 24 ชั่วโมง ราคาถูกร้านดูดี ถัดไปสองซอยมีร้านดองกี้ใครนอนย่านนี้สบายมาก ห่างจาก Shinjuku 1 สถานีสามารถเดินไปได้ หลังจากฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมเสร็จก็เดินไป Shinjuku เพื่อที่จะไปขึ้น Subway เพื่อใช้บัตร 48 ชั่วโมง

ทางเดินระหว่างไปShinjuku เห็นโรงแรมปริ้นอยู่ตรงหน้าเหมือนใกล้แต่เหนื่อยเอาเรื่องเลย

เดินหาก็อตซิลล่า

หาความมงคลใส่ทริปด้วยการไปวัดก่อน

1.Meiji 

เหมือนป่าในเมืองเลยเย็นและชดชื่นมาก ก่อนอื่นต้องชิคอินกับเสาโทริอิ

จากเสาโทริอิเดินมาไกลมากแอบเหนื่อยเลย

2.Hie Shrine

ไม่ได้ไปโอซาก้าก็สามารถ่ายรูปกับเสาโทริอิสีแดงได้ จาก Meiji นั่ง Subway นั่งสายสีเขียว Chiyoda Line ไปลง Kokkai-gijidomae Station ทางออก 5หรือ6 ก็ได้ วัดนี้เงียบสงบไม่ค่อยมีคน

3.Ueno ตลาด Ameyoko 

ตลาดของถูกของกินเยอะ ถ่ายรูปมาน้อยเนื่องจากเหนื่อยมาก

หาปลาดิบกินร้านนี้คนไทยเยอะรีวิวก็เยอะแต่ส่วนตัวไม่ค่อยชอบเพราะให้ความรู้สึกว่าคาวมากจนกินไม่ลง ปกติเป็นคนชอบกินปลาดิบมากร้านนี้ที่อร่อยคือเบียร์ และก้เห็นคนชอบสั่งหอยนางรมมากิน

จบไปกับวันที่หนึ่ง

🗼 DAY2 

ตื่นเช้าไปหาอร่อยทานที่ตลาดสึกิจิ ตลาดปลาที่ไม่มีการประมูลแล้ว ไปหาข้าวหน้าเนื้อยืนกินต่อคิวไม่นานอร่อยจริงราคาไม่แพง

4.Tsukiji Fish Market

ร้านอยู่โซนหลังคาสีน้ำเงิน

มีที่นั่งทานห้าที่

แถวยาวแต่รอไม่นาน สำหรับคนใจร้อนเวลาหิวถือว่ารอได้เพราะรอไม่นานจริงๆส่วนตัวเป็นคนใจร้อนถ้าร้อนนานก็ไม่รู้

ตอนแรกเห็นแถวแล้วตัดสินใจไปเดินดูในตลาดก่อน แต่กลิ่นมันหอมติดจมูกจนต้องชวนกันกลับมากินร้านนี้

อันนี้เป็นเครื่องในรสซอสเข้มข้นตัวเครื่องมีรสขมนิดน่อย ร้านนี้มีสองอย่างให้เลือก เป็นส่วน เนื้อ กับเครื่องใน น้ำชาสามารถเติมได้ฟรี(ไม่รู้เติมได้ไหมไม่เห็นคนอื่นขอกันแต่เราใช้พี่ไปขอสองรอบก็ได้มา) ข้าวและเนื้อเยอะใครกินน้อยอาจจะกินไม่หมดได้

ไม้ละ200 คนไทยน่าจะไปกันเยอะคนขายสามารถพูดภาษาไทยได้ด้วย

ไข่หวานจริงๆร้านตรงข้ามหน้ากินกว่า

  

ออกจากตลาดเราก็เดินไป Higashi-ginza Station  ไป Asakusa Station เพื่อไป Sensoji Temple นั่งสาย Asakusa Line

ทางลงไปรถไฟใต้ดิน

ออกทางออกที่ 4 ก็จะเจอโตเเกียวสกายทรีกับตึกอุนจิ

5.Sensoji Temple

มหาชนหน้าวัดเยอะมากตอนมาหน้าจะประมาณเที่ยงกว่า

จุดละลายทรัพย์ก่อนเข้าวัด

6.Odaiba

โอไดบะ เกาะจำลองขนาดใหญ่สร้างขึ้นด้วยการถมทะเลในอ่าวโตเกียว แค่อ่านประวัติก็อลังการแล้วไปหาอะไรทำที่นั้นดีกว่า วิธีไปจากวัดเซนโจจินั่งสาย Asakusa หรือ Ginza Line  ไปลง Shimbashi Station แล้วเปลี่ยนสายเป็น  Yurikamome Line สายนี้จะไม่สามารถใช้บัตรSubway 48 ชั่วโมงได้ จะต้องใช้ ic card หรือซื้อตั๋วตามตู้ก็ได้ สำหรับคนไม่ซื้อบัตร ic card เคยอ่านเจอในพันทิปสายนี้ขายบัตรรถไฟแบบวันเดย์ทริปด้วยราคาประมาณ 8xx เยนกว่าจำไม่ได้ว่าเท่าไหร่สำหรับคนที่ขึ้นเกินสามสถานีถือว่าคุ้ม สำหรับเราแค่ขึ้นไปและกลับเลยไม่ได้ซื้อ

การจะขึ้นสถานีนี้จะต้องเดินออกจากสถานีที่นั่งมาเพื่อมาขึ้น

Shimbashi Station เป็นสถานีต้นทางจะขึ้นฝั่งไหนก็ได้ แนะนำให้ขึ้นไปต่อแถวเป็นหัวแถวหน้ารถไฟให้ได้จะได้วิวที่สวยเพราะรถไฟเป็นแบบไรคนขับเราจะสามารถนั่งข้างหน้าได้สามที่

รถไฟจะวิ่งไปบนสะพานสายรุ้ง เราเลือกลง Daiba Station เพราะเดินไปชมสะพานและเทพีเสรีภาพ

ตึกฟูจิอลังการมาก ต่อไปเราเลือกเดินไป DiverCity Tokyo Plaza จากตรงนี้ไปไม่ไกลมาก ทางเดินที่นี้คือดีมากกว้างสะอาดและน่าเดิน

ถ่ายรูปกับกันดั้มสะหน่อย ตอนกลางคืนมีเปิดไฟด้วยนะ ไปดูเพจหนึ่งในเฟสบุ๊คมาเค้าว่ามาโอไดบะต้องกิน ทาโกะยากิ แต่เราเดินมาไกลแล้วหากินห้างนี้แทนละกัน

กินเสร็จก็ไปต่อกันที่ห้าง Venus Fort ห้างออกสไตล์เวเนเซียมาเก๊าเป็นเอาท์เล็ท มีห้องจัดแสดงรถเก่า

เป้าหมายของเราคือการไปขึ้นชิงช้าแบบกระจกใสคนละ 1000 เยน ตู้หนึ่งขึ้นได้สี่คน มีสองแบบ แบบใสทั้งตู้กับแบบใสข้างบนข้างล่างเป็นสีแบบนี้จะถูกกว่าและไม่ต้องรอนานเหมือนแบบใส แบบใสมีน้อยเจ้าหน้าที่ข้างจะมีป้ายบอกว่าต้องรอ20นาทีแต่ขึ้นจริงๆก็ไม่ได้รอนานขนาดนั้นคนไม่ค่อยมีเท่าไหร่

แอบหน้ากลัวเหมือนแต่กระจกไม่ค่อยใสแล้วเลยไม่ค่อยเท่าไหร่ นั่งดูวิวเพลินๆ

อันนี้แบบสีครึ่งใสครึ่ง

พนักงานน่ารักจนต้องเอามือถือขึ้นมาถ่ายไว้ 55555

เสร็จจากโอไดบะเราก็ไป Shibuya ไปหา Hachiko กับไปดูห้าแยกชิบูย่า

7.Shibuya / Hachiko

คนต่อแถวถ่ายกับฮาจิโกะเยอะมาก

จบวันที่สอง รูปจากวันที่สองถ่ายโดย Huawei P10pro เนื่องจากลืมแบตกล้อง

วิธีไปขึ้นรถบัสที่ชิจุกุ ให้นี่งรถไฟมาลงที่สถานีชินจุกุและหาทางออก South Exit อย่าไปออกทางออกอื่นไม่นั้นลำบากแน่นอน พอออกมาจะเจอสถานีรถบัสอยู่ข้างหน้าข้ามถนนแล้วขึ้นไปชั้น4 แล้วหาที่บอร์ดจะบอกว่ารถที่เราจะขึ้นต้องไปรอที่ประตูไหน