ขออนุญาตปรึกษาครับ
ตอนนี้ผมมีบัตรเครดิตตามนี้ครับ
1. Citibank - Cashback, ROP Select (mastercard), Premier, Prestige
2. SCB - UP2ME (mastercard), Ultra Platinum, JCB Platinum
3. Central - T1 Redz (mastercard)
ผมรู้สึกว่า บางใบผลประโยชน์มันทับกัน และยังเสียค่าธรรมเนียมด้วย
แต่ใบที่ฟรีค่าธรรมเนียมสิทธประโยชน์ก็น้อยตามไปด้วย
ผมเลยตั้งใจว่าจะยกเลิกบัตรที่ไม่ได้ใช้ไป (กระเป๋าตังค์มันใส่ได้ไม่กี่ใบด้วยครับ พวกที่ใส่ได้เยอะๆ มันหนา)
หลักๆ ผมคิดเอง อยากให้เหลือตามนี้ครับ
1. Citibank Cashback - เพราะเป็นบัตรที่ยืดหยุ่นที่สุด คืน 1% แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก
ไม่ต้องคิดว่า ตรงหมวดไม่ตรงหมวด พูดในอีกทางคือ ถ้าอะไรที่ไม่ตรงหมวดบัตรด้านล่าง ก็มาใช้ใบนี้แทน
2. SCB Ultra Platinum - เพราะเป็นบัตรที่ไม่ได้ต้องการยอดรูดสูงในการต่ออายุ แต่ให้แต้ม x5 เท่า
ซึ่งในนี้มีร้านอาหาร ซึ่งเป็นอะไรที่ผมใช้บ่อย นอกจากนี้ก็ supermarket entertainment และอื่นๆ
สรุปคือ 25 บาทได้ 5 แต้ม ถ้าคิดจะเอาคูปองเงินพันบาท ก็ใช้ 12,000 แต้ม
ยอดรูดตรงหมวด 60,000 บาท ได้คืน 1,000 ก็ตก 1.67% ดีกว่าใบแรก แต่ต้องตรงหมวด
เว้นแต่จะเอาแต้มไปทำอย่างอื่นแทนที่คุ้มกว่าแลกคูปองเงิน
3. Citibank Prestige - ถ้าพูดกันตรงๆ ใบนี้มีเอาไว้เพื่อสิทธิประโยชน์มากกว่าการเอามาคิดว่า คุ้มไม่คุ้ม
แต่ก็ถือว่า ถ้าใช้รูดเมืองนอก หรือจ่ายเงินที่เป็นสกุลต่างชาติ ได้แต้ม 3 เท่า ตรงนี้ถือว่าไม่เลวเลยครับ
พวกนี้ยังรวมไปถึง subscription ตาม store ต่างๆ เช่น app store แต่ก็น่าสังเกตว่ารายการพวกนี้เป็น MCC หมวด entertainment ด้วย
ซึ่ง Ultra Platinum ก็ได้เกินไปที่ x5
ดังนั้นหลักๆ คือถ้าจะเอาคุ้มต้องรูดเมืองนอกเป็นหลัก หรือพวกสั่งของเมืองนอก ซึ่งไม่ได้ทำบ่อยๆ
ดังนั้นผมเลยบอกว่า เป็นบัตรพกไว้เท่ๆ เอาสิทธิเข้าเลาจ์ เรียกรถ เป็นต้น
4. SCB JCB Platinum - ข้อดีคือมันฟรีค่าธรรมเนียม และเอาไว้อุดช่องโหว่ด้วยการเป็น JCB
ไปกินร้านบางร้าน หรือซื้อ uniqlo ใบนี้คุ้มว่าสามใบข้างบนอีกครับ
ส่วนบัตรที่คิดว่าน่าจะยกเลิกคือ
5. Citibank Premier - ซึ่งโดยตัวบัตรแล้วผมว่าก็ไม่แย่ คือรูดในห้างหรือ duty free ได้แต้ม x4
แต่เอาจริงๆ โอกาสที่ผมจะซื้อของใน department store มันไม่เยอะ
ถ้าซื้อใน retail shop ก็ไม่ได้ x4
อีกอย่าง ยอดที่ต้องรูดให้ฟรีค่าธรรมเนียม ก็ไม่น้อย
ถ้าผมจะเก็บใบนี้ ก็คงต้องยกเลิก Ultra Platinum ครับ ... แล้วหมวดข้าวกลางวันผมล่ะ ...
6. Citibank ROP Select - ใบนี้ได้มาผมไม่เคยใช้เลยครับ โดนพนักงานขอร้องให้ช่วยเปิด
ค่าธรรมเนียมก็ไม่ถูก ปีที่แล้วตอนมีบิลมาเก็บค่าธรรมเนียม ผมโทรไปปิดเลย
สรุปแบงค์ waive ให้ ครั้งนี้ผมคิดว่า ผมมี Citibank เยอะแล้ว คิดว่าคงเหมาะแก้เลย ขอปิดได้ไม่เป็นไร
7. UP2ME - จริงๆ ใบนี้เป็นคู่ทุกข์คู่ยาก ใช้มานานสุดตั้งแต่เริ่มทำงาน พร้อมๆ กับ Citi Cashback
จนพึ่งได้ Ultra Platinum เลยรู้ว่า ตัวเองไม่หาข้อมูลให้ดี กินอาหารตรงหมวดได้แค่ x3 ในขณะที่ Ultra ให้ x5
เสียแต้มที่ควรจะได้ไปเยอะมาก แค่ข้อดีมันคือ ไม่มีค่าธรรมเนียม (ไม่แน่ใจครับ)
8. Central T1 Redz - ได้มาตั้งแต่สมัยยังเป็นใบขาวๆ (White Gold)
เอามาซื้อนาฬิกาที่ชิดลม แล้วไม่ได้ใช้อีกเลย วงเงินยังเป็นวงเงินเก่า ไม่มีอะไรเปลี่ยน
ตอนนี้ Citibank วงเงินอัพมาประมาณ 7 เท่าของ T1 Redz (แต่ผมก็ไม่เคยทำเรื่องขอเพิ่มกับ Central ด้วยครับ)
ต้องยอมรับว่า Citibank ดีมาก บริการดี วงเงินก็เพิ่ทให้ตลอด ไม่ส่งสลิปวงเงินก็เพิ่มให้เรื่อยๆ
พอส่งสลิปใหม่ให้ก็เพิ่มให้เยอะสุด ในขณะที่ SCB จะเหนียวกว่าหน่อย
ส่งสลิปแล้วจะเพิ่มให้แบบกะปริบกะปรอย เพิ่มนะ แต่รอหน่อย เป็นขยักๆ ... ประมาณนั้น
ผมเลยอยากถามความเห็นท่านอื่นว่าแบบนี้พอโอเคมั้ยครับ
ผมเองพึ่งเริ่มมาใช้บัตรเก็บแต้มของ Citi ได้ไม่นาน เลยไม่แน่ใจว่าเรื่องความคุ้มค่า
คะแนน 1 คะแนนของ Citi กับ 1 คะแนนของ SCB ใครจะคุ้มกว่า
หรือควรมั้ยถ้าผมจะหักดิบเลยคือพกบัตรของค่ายเดียวไปเลย จะเสียประโยชน์อะไรไหมครับ
แล้วจำเป็นมั้ยว่าเราต้องพกครบทั้ง visa master jcb (+-amex) หรือแค่ visa อย่างเดียวก็พอแล้วครับ
ขอบคุณครับ
ผมอยากยกเลิกบัตรเครดิตบางใบ ขอปรึกษาครับ
ตอนนี้ผมมีบัตรเครดิตตามนี้ครับ
1. Citibank - Cashback, ROP Select (mastercard), Premier, Prestige
2. SCB - UP2ME (mastercard), Ultra Platinum, JCB Platinum
3. Central - T1 Redz (mastercard)
ผมรู้สึกว่า บางใบผลประโยชน์มันทับกัน และยังเสียค่าธรรมเนียมด้วย
แต่ใบที่ฟรีค่าธรรมเนียมสิทธประโยชน์ก็น้อยตามไปด้วย
ผมเลยตั้งใจว่าจะยกเลิกบัตรที่ไม่ได้ใช้ไป (กระเป๋าตังค์มันใส่ได้ไม่กี่ใบด้วยครับ พวกที่ใส่ได้เยอะๆ มันหนา)
หลักๆ ผมคิดเอง อยากให้เหลือตามนี้ครับ
1. Citibank Cashback - เพราะเป็นบัตรที่ยืดหยุ่นที่สุด คืน 1% แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก
ไม่ต้องคิดว่า ตรงหมวดไม่ตรงหมวด พูดในอีกทางคือ ถ้าอะไรที่ไม่ตรงหมวดบัตรด้านล่าง ก็มาใช้ใบนี้แทน
2. SCB Ultra Platinum - เพราะเป็นบัตรที่ไม่ได้ต้องการยอดรูดสูงในการต่ออายุ แต่ให้แต้ม x5 เท่า
ซึ่งในนี้มีร้านอาหาร ซึ่งเป็นอะไรที่ผมใช้บ่อย นอกจากนี้ก็ supermarket entertainment และอื่นๆ
สรุปคือ 25 บาทได้ 5 แต้ม ถ้าคิดจะเอาคูปองเงินพันบาท ก็ใช้ 12,000 แต้ม
ยอดรูดตรงหมวด 60,000 บาท ได้คืน 1,000 ก็ตก 1.67% ดีกว่าใบแรก แต่ต้องตรงหมวด
เว้นแต่จะเอาแต้มไปทำอย่างอื่นแทนที่คุ้มกว่าแลกคูปองเงิน
3. Citibank Prestige - ถ้าพูดกันตรงๆ ใบนี้มีเอาไว้เพื่อสิทธิประโยชน์มากกว่าการเอามาคิดว่า คุ้มไม่คุ้ม
แต่ก็ถือว่า ถ้าใช้รูดเมืองนอก หรือจ่ายเงินที่เป็นสกุลต่างชาติ ได้แต้ม 3 เท่า ตรงนี้ถือว่าไม่เลวเลยครับ
พวกนี้ยังรวมไปถึง subscription ตาม store ต่างๆ เช่น app store แต่ก็น่าสังเกตว่ารายการพวกนี้เป็น MCC หมวด entertainment ด้วย
ซึ่ง Ultra Platinum ก็ได้เกินไปที่ x5
ดังนั้นหลักๆ คือถ้าจะเอาคุ้มต้องรูดเมืองนอกเป็นหลัก หรือพวกสั่งของเมืองนอก ซึ่งไม่ได้ทำบ่อยๆ
ดังนั้นผมเลยบอกว่า เป็นบัตรพกไว้เท่ๆ เอาสิทธิเข้าเลาจ์ เรียกรถ เป็นต้น
4. SCB JCB Platinum - ข้อดีคือมันฟรีค่าธรรมเนียม และเอาไว้อุดช่องโหว่ด้วยการเป็น JCB
ไปกินร้านบางร้าน หรือซื้อ uniqlo ใบนี้คุ้มว่าสามใบข้างบนอีกครับ
ส่วนบัตรที่คิดว่าน่าจะยกเลิกคือ
5. Citibank Premier - ซึ่งโดยตัวบัตรแล้วผมว่าก็ไม่แย่ คือรูดในห้างหรือ duty free ได้แต้ม x4
แต่เอาจริงๆ โอกาสที่ผมจะซื้อของใน department store มันไม่เยอะ
ถ้าซื้อใน retail shop ก็ไม่ได้ x4
อีกอย่าง ยอดที่ต้องรูดให้ฟรีค่าธรรมเนียม ก็ไม่น้อย
ถ้าผมจะเก็บใบนี้ ก็คงต้องยกเลิก Ultra Platinum ครับ ... แล้วหมวดข้าวกลางวันผมล่ะ ...
6. Citibank ROP Select - ใบนี้ได้มาผมไม่เคยใช้เลยครับ โดนพนักงานขอร้องให้ช่วยเปิด
ค่าธรรมเนียมก็ไม่ถูก ปีที่แล้วตอนมีบิลมาเก็บค่าธรรมเนียม ผมโทรไปปิดเลย
สรุปแบงค์ waive ให้ ครั้งนี้ผมคิดว่า ผมมี Citibank เยอะแล้ว คิดว่าคงเหมาะแก้เลย ขอปิดได้ไม่เป็นไร
7. UP2ME - จริงๆ ใบนี้เป็นคู่ทุกข์คู่ยาก ใช้มานานสุดตั้งแต่เริ่มทำงาน พร้อมๆ กับ Citi Cashback
จนพึ่งได้ Ultra Platinum เลยรู้ว่า ตัวเองไม่หาข้อมูลให้ดี กินอาหารตรงหมวดได้แค่ x3 ในขณะที่ Ultra ให้ x5
เสียแต้มที่ควรจะได้ไปเยอะมาก แค่ข้อดีมันคือ ไม่มีค่าธรรมเนียม (ไม่แน่ใจครับ)
8. Central T1 Redz - ได้มาตั้งแต่สมัยยังเป็นใบขาวๆ (White Gold)
เอามาซื้อนาฬิกาที่ชิดลม แล้วไม่ได้ใช้อีกเลย วงเงินยังเป็นวงเงินเก่า ไม่มีอะไรเปลี่ยน
ตอนนี้ Citibank วงเงินอัพมาประมาณ 7 เท่าของ T1 Redz (แต่ผมก็ไม่เคยทำเรื่องขอเพิ่มกับ Central ด้วยครับ)
ต้องยอมรับว่า Citibank ดีมาก บริการดี วงเงินก็เพิ่ทให้ตลอด ไม่ส่งสลิปวงเงินก็เพิ่มให้เรื่อยๆ
พอส่งสลิปใหม่ให้ก็เพิ่มให้เยอะสุด ในขณะที่ SCB จะเหนียวกว่าหน่อย
ส่งสลิปแล้วจะเพิ่มให้แบบกะปริบกะปรอย เพิ่มนะ แต่รอหน่อย เป็นขยักๆ ... ประมาณนั้น
ผมเลยอยากถามความเห็นท่านอื่นว่าแบบนี้พอโอเคมั้ยครับ
ผมเองพึ่งเริ่มมาใช้บัตรเก็บแต้มของ Citi ได้ไม่นาน เลยไม่แน่ใจว่าเรื่องความคุ้มค่า
คะแนน 1 คะแนนของ Citi กับ 1 คะแนนของ SCB ใครจะคุ้มกว่า
หรือควรมั้ยถ้าผมจะหักดิบเลยคือพกบัตรของค่ายเดียวไปเลย จะเสียประโยชน์อะไรไหมครับ
แล้วจำเป็นมั้ยว่าเราต้องพกครบทั้ง visa master jcb (+-amex) หรือแค่ visa อย่างเดียวก็พอแล้วครับ
ขอบคุณครับ