พวกดาวเคราะห์ต่าง มันไปหาดินหรือวัสดุที่ไหนมาสร้างตัวมันเองครับ

ตามหัวข้อเลยครับ

1. ถ้าจะมีดาวเคราะห์เกิดใหม่ มันต้องไปเอาหินดินทรายได้ที่ไหนในจักรวาลครับ

2. ถ้าจักรวาลเป็นสิ่งที่ว่างเปล่า แล้วดาวต่างฯอยู่ดีฯ
จะมาจากไหน หรือวาร์ปมา

3. ข้อนี้คิดว่าคงไม่ได้คำตอบเพราะยังพิสูจน์ไม่ได้ 
เรื่องที่ว่าจักรวาลมีที่สิ้นสุดหรือมีขอบไหม ถ้าไม่มีที่
สิ้นสุด ยิ่งทำให้น่าคิด มวลสารของดวงดาวมันมาจากไหน ๆ

4.ดวงดาว ดาวเคราะห์ มีเกิดใหม่ได้อีกหรือไม่ และดาวระเบิด ดาวดับสูญมีหหรือไม่

5. จากคำถามข้อ( 4 ) ปัจจุบันมีการทำวิจัยหรือสถิติหรือไม่ว่า มีดวงดาวเพิ่มขึ้น หรือลดลง 
 
6. อุกกาบาตรมาจากอะไร อะไรทำให้มันมาวิ่งป้วนเปี้ยนในอวกาศ ชนดาวชาวบ้านชาวช่องเขา

ผมไม่มีความรู้เรื่องจักรวาล อย่าว่ากันนะครับ แค่อยากศึกษาเรื่องจักรวาล ชอบเอาจินตนาการมาเล่นกับเรื่องจักรวาล มันสนุกดีครับ
เวลาผมไม่มีสมาธิ ผมจะนึกถึงเรื่องพวกนี้ ให้หัวสมองมันใช้งาน ไว้มีอะไรจะมาถามใหม่นะครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
1.  พวกดาวเคราะห์ต่าง มันไปหาดินหรือวัสดุที่ไหนมาสร้างตัวมันเองครับ
ถ้าจะมีดาวเคราะห์เกิดใหม่ มันต้องไปเอาหินดินทรายได้ที่ไหนในจักรวาลครับ

ก่อนอื่น  ขอเริ่มที่ภาพนี้ก่อนนะครับ  ภาพนี้คือภาพของ Nebula ....... Nebula คือกลุ่มของเมฆหมอก
ขนาดยักษ์ในอวกาศ  เมฆหมอกนี้ประกอบขึ้นจากมวลสารต่าง ๆ ในรูปของ "ฝุ่น"
ฝุ่นเหล่านี้ก็คือกลุ่มโมเลกุลธาตุต่าง ๆ เช่น  เหล็ก  Silicon  และก๊าซต่าง ๆ โดยจะเป็น Hydrogen เป็นส่วนมากครับ
Nebula มีขนาดใหญ่มาก ๆ  อย่างในภาพนี้จุด A - B  จะกว้างมากถึง 20 - 30 ปีแสง เลยทีเดียว


ต่อไป .... เมื่อเกิดสภาพบางอย่างข้างใน Nebula  เช่น  ถูกคลื่นกระแทกจาก Supernova ของดาวฤกษ์ใหญ่ข้างเคียง
หรือ  เกิดการรวมตัวของกลุ่มแก้สขึ้นมาเอง .... มันก็จะเกิดลักษณะที่เห็นในภาพนี้  ก็คือกลุ่มแก้ส Hydrogen
รวมตัว และ ยุบตัวจนหนาแน่นเกิดแรงโน่มถ่วงด้วยตัวเอง  จนกำเนิดเป็นดาวฤกษ์ขึ้นมาได้  และเมื่อดาวฤกษ์กำเนิดมาได้แล้ว
แรงโน้มถ่วงของดาวฤกษ์ก็จะดึงเอาฝุ่นมวลสารรอบข้างมาหมุนวนเป็นจานแบบภาพนี้  เรียกว่า Protoplanetary disk
และ .... ฝุ่นมวลสารนี่แหละครับที่เป็น "วัสดุ" ที่สร้างดาวเคราะห์ต่าง ๆ

วัสดุแรกที่จะรวมตัวกันเป็นดาวเคราะห์กำเนิดใหม่  ก็คือ  เหล็ก  เราจะเห็นได้จากการที่ดาวเคราะห์ทุกดวง
ล้วนแต่มีเหล็กร้อนแดงอยู่ที่แกนกลางทั้งนั้นเลย  และวัสดุต่อไปถัดจากแกนกลางเหล็กก็คือพวก Silicon
Silicate  ซึ่ง silicate นี่เองที่ต่อมาได้ผสมกับมวลสารอื่น ๆ จนกลายเป็น หิน ที่เราเห็นกันมากมายบนโลก
และบนดาวดวงอื่นด้วย  และต่อมาเมื่อมีซากพืชซากสัตว์ตายทับถมกันมาก ๆ  มันก็จะผสมกับผงหิน
กลายเป็น ดิน นั่นเอง ....... นี่คือที่มาของวัสดุต่าง ๆ ที่เราเห็นบนพื้นโลกครับ

2. ถ้าจักรวาลเป็นสิ่งที่ว่างเปล่า แล้วดาวต่างฯอยู่ดีฯ  จะมาจากไหน หรือวาร์ปมา
เรื่องนี้  ก็ต้องอธิบายพื้นฐานยาวสักหน่อยนะครับ  ตามภาพนี้เลย


3. ข้อนี้คิดว่าคงไม่ได้คำตอบเพราะยังพิสูจน์ไม่ได้ เรื่องที่ว่าจักรวาลมีที่สิ้นสุดหรือมีขอบไหม ถ้าไม่มีที่
สิ้นสุด ยิ่งทำให้น่าคิด มวลสารของดวงดาวมันมาจากไหน ๆ

ถูกแล้วครับ  เรื่องขอบเขตของจักรวาลยังไม่มีคำตอบว่ามีที่สิ้นสุดหรือไม่ ?

4.ดวงดาว ดาวเคราะห์ มีเกิดใหม่ได้อีกหรือไม่ และดาวระเบิด ดาวดับสูญมีหหรือไม่
หากพูดถึงดาวเคราะห์-ดาวฤกษ์  มันจะมีการเกิดใหม่ที่ระบบสุริยะกำเนิดใหม่ตามข้อ 1. เท่านั้นครับ
ส่วนดาวระเบิด มันก็คือการระเบิดที่เรียกว่า Supernova นั่นเอง  จขกท.เคยได้ยินแน่นอน
การระเบิด SN เกิดจากดาวฤกษ์ดวงใหญ่ มวลมาก  เผาผลาญเชื้อเพลิง hydrogen จนหมด
และภายในดาวเกิดความไม่สมดุลย์  ทำให้เกิดกลไกการระเบิดในที่สุด  ส่วน ดาวดับสูญ นั้นก็มีครับ
แต่น่าจะเป็นชื่อเรียกของการหมดอายุขัยของดาวดวงเล็ก  ที่จะไม่ระเบิดเป็น SN  แต่จะคายมวลสารออกไป
จนตัวเองเหลือเป็นก้อนเล็ก ๆ ที่เรียกว่า "ดาวแคระขาว" ...... และเมื่อเวลาผ่านไปนานม๊ากกก ระดับหลายหมื่นล้านปี
ดาวแคระขาวก็จะค่อย ๆ อับแสงลง  จนกลายเป็นก้อนวัสดุคล้ายเพชร  แต่ปัจจุบันนี้ยังไม่มีการค้นพบซากดาวแบบนี้
ด้วยสาเหตุหนึ่งก็คือ  กว่าจะกลายเป็นซากดาวจะใช้เวลานานมากจนสิ้นอายุจักรวาลไปเลย  ก็ได้ครับ

5. จากคำถามข้อ( 4 ) ปัจจุบันมีการทำวิจัยหรือสถิติหรือไม่ว่า มีดวงดาวเพิ่มขึ้น หรือลดลง
ผมยังไม่เคยเห็นตัวเลขอัตราส่วนเรื่องนี้นะครับ  แต่ผมคิดว่า  หากเราดูอายุขัยของดาวทั่วไป
ก็จะมีอายุยืนนานประมาณ 10,000 ล้านปี  แต่ช่วงเวลาที่ใช้ในการกำเนิดดาวดวงใหม่
จะอยู่ที่ประมาณ 10 - 30 ล้านปี  เท่านั้น ...... ดังนั้น  ผมคิดว่าดวงดาวมีการเพิ่มขึ้นตลอดเวลาแน่นอน

6. อุกกาบาตรมาจากอะไร อะไรทำให้มันมาวิ่งป้วนเปี้ยนในอวกาศ ชนดาวชาวบ้านชาวช่องเขา
ผมขอเริ่มอธิบายตำแหน่งของกลุ่มดาวเคราะห์น้อยในระบบสุริยะของเราก่อนนะครับ
จากภาพนี้  จะเห็นว่าในระบบของเรามีกลุ่มดาวเคราะห์น้อย 5 กลุ่ม

1. แถบหลักที่เรารู้จักกันดี (Main belt หรือ Typical belt)  (สมัยที่เราเรียนมัธยม
    ในหนังสือจะบอกว่าระบบสุริยะเรามีแถบหลักนี้  เพียงแถบเดียว)
2. แถบ Apollo  
3. แถบ Amor
4. กลุ่ม Western Trojan (เรียกว่า Trojan)
5. กลุ่ม Eastern Trojan (เรียกว่า Greek)


ดาวเคราะห์น้อยในส่วน main belt , Trojan , Greek .... จะไม่มีวงโคจรมาเกี่ยวข้องกับโลกเลย
เพราะไกลเกินไป  และไม่มีอันตกิริยาความโน้มถ่วงใด ๆ ที่จะชักนำเข้ามาได้ครับ
ส่วนแถบ Amor ก็มีชักนำเข้ามาน้อยมาก ๆ ..... แต่ดาวเคราะห์น้อยในแถบ Apollo นี่แหละครับ  
ที่มีโอกาสมีเศษเล็ก ๆ  น้อย ๆ พุ่งเข้าชนโลกกลายเป็นดาวตก หรือ อุกกาบาตได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่