เรื่องมันเกิดตั้งแต่เราเด็กๆค่ะคือพ่อแม่เราเลิกลากันตั้งแต่เรายังไม่เข้าอนุบาล เราจึงอยู่กับแม่2คน แม่เราเป็นคนอารมณ์รุนแรงค่ะ เวลาที่เขาโมโหจะตีเราหนักมากแบบปางตาย เลือดตกยางออกแขนขาช้ำไปหมด และตีบ่อยค่ะอาทิตย์นึงโดนตีไปแล้ว4-5วัน มีหลายครั้งที่คนต้องเข้ามาช่วยห้ามอาจจะเพราะสงสารเราหรือกลัวเราตายรึป่าว555 แม่เราตีแบบไม่เลือกสถานที่ในตลาดในที่สาธารณะก็ตีค่ะ เพราะแม่เราขายของที่ตลาด เราก็ช่วยงานทุกอย่างตั้งแต่อนุบาลก็ตื่นตี3-4ไปตลาดแล้ว ถ้าไม่ไปก็จะไม่ได้เงินไปรร.ค่ะ เพราะงั้นไม่ว่าเราจะป่วยหรือไม่สบายเราก็ต้องไป เราเลยน้อยใจมาตลอดว่าที่เราทำมันยังไม่ดีอีกหรอ เราโดนแบบนี้มาเรื่อยๆจนเราอายุ15อยู่ม.3 แม่เราก็โมโหเหมือนเดิมแล้วคว้ากรรไกรมาตัดผมเราค่ะ ตัดจนแทบติดหนังหัวจนเราต้องไปตัดผมทรงผช. มันเหมือนฟางเส้นสุดท้ายมันขาด เราอยู่ไม่ได้แล้ว เลยตัดสินใจเข้ากทม.มาอยู่กับญาติแต่สุดท้ายก็โดนญาติโกงเงิน เราเครียดไม่มีจะกินจนน้ำหนักลดไป10กิโล จึงย้ายไปอยู่กับพ่อค่ะ ด้วยความที่พ่อไม่เคยเลี้ยงเราเลยไม่สนิทกันเท่าไหร่ค่ะ พ่อเราขี้เมากินเหล้าแทนน้ำทุกวัน บางวันหนักหน่อยก็อาระวาดเสียงดังทุบห้องเราตะโกนเสียงดัง ปัจจุบันเราอายุ22ค่ะ เราเหมือนคนขี้หวาดระแวงตกใจง่ายหลับยากคนใกล้ตัวเราทักว่าเราเป็นไบโพลาร์3คนแล้วค่ะเพราะเวลาเรามีความสุขจะสนุกเหมือนคนบ้าเลย แต่เวลาเศร้าก็ดาวน์จนนอนร้องไห้เอาตัวเองออกมาไม่ได้ และอารมณ์เปลี่ยนแบบปุ๊บปั๊บขึ้นสุดลงสุด ตอนแรกเรากลัวว่าเป็นซึมเศร้ารึป่าว แต่ไม่ว่าเราจะลำบากหรือเศร้าแค่ไหนเราไม่เคยคิดอยากตายเลยค่ะ
เราอยากทราบว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมาเหล่านี้มีสิทธิ์ทำให้เราเป็นไบโพลาร์ได้รึป่าวคะ คือตอนนี้เรายังเรียนอยู่ค่ะไม่มีเงินไปหาหมอและไม่สามารถขอพ่อแม่ไปได้ค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่สละเวลามาอ่านนะคะ
เหตุการณ์เหล่านี้ทำให้เราเป็นไบโพลาร์ได้รึป่าวคะ?
เราอยากทราบว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมาเหล่านี้มีสิทธิ์ทำให้เราเป็นไบโพลาร์ได้รึป่าวคะ คือตอนนี้เรายังเรียนอยู่ค่ะไม่มีเงินไปหาหมอและไม่สามารถขอพ่อแม่ไปได้ค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่สละเวลามาอ่านนะคะ