สวัสดีค่ะ ก่อนแรกเลยเราต้องขอขอบคุณเพื่อนๆ ชาวพันทิปที่ให้คำแนะนำทำให้เรารู้ทันพวกแก๊งสแกมเมอร์จนเป็นที่มาของกระทู้นี้เพื่อเตือนสาวไทยให้ระวังตัวค่ะ
ทุกคนคงเคยเห็นข่าวว่าสาวไทยโดนพวกแก๊งสแกมเมอร์ลงรูปโปรไฟล์หล่อ หุ่นนายแบบ หลอกให้ส่งเงินให้ โดยอ้างว่าส่งของมาให้และของติดอยู่ที่ด่านหรือตัวเองถูกกักประมาณนี้ เราก็พอทราบเท่านี้ค่ะ
จนเรามาเจอกับตัวเอง เพียงแต่เป็นคนละแบบค่ะ วันนึงเราได้ลงปรึกษาในพันทิปว่ามีเพื่อนชายชาวต่างชาติที่คุยด้วยจะลงมาเที่ยวหาที่เมืองไทย ควรจะพาไปเที่ยวที่ไหน อย่างไรดีและมีเพื่อนๆ มาเตือนให้ระวังจะเป็นแก๊งสแกมเมอร์ในรูปแบบต่างๆ
เรื่องมีอยู่ว่าเราได้ลงหาคู่ในเวปไซต์หาคู่แห่งหนึ่ง เราเลือกแบบเพื่อนและแต่งงาน แบบเพื่อนเราคิดว่าได้ภาษา ส่วนแต่งงานเราคิดว่าถ้านิสัยไปกันได้ก็อาจถึงขั้นแต่งงานก็ได้
พอเราลงประวัติก็มีผู้ชายหัวล้านคนหนึ่งเข้ามาขออีเมล เราคิดว่าชายคนนี้ท่าทางใจดีน่าจะไม่มีพิษภัยอะไร
หลังจากนั้นเขาก็ส่งเมลมาคุย และส่งรูปภาพตนเองกับลูกสาวมาด้วย แต่เป็นรูปผู้ชายท้วมมีอายุประมาณ 50 กว่า ดูดี ไม่ได้หล่อเหลาหุ่นนายแบบอะไร ทำให้เราคิดว่าน่าจะไม่ใช่แก๊งสแกมเมอร์
พร้อมเล่าประวัติตัวเองว่าจบการศึกษาปริญญตรีสาขาวิศวกรรมก่อสร้าง ทำงานมากี่ปี ปัจจุบันออกมาทำกิจการรับเหมาก่อสร้างและออกแบบภายในของตัวเอง ภรรยาเสียชีวิต พ่อแม่ก็เสียชีวิต อยู่แคนาดากับลูกสาว ดูแลลูกสาวด้วยตนเองเท่านั้น นอกจากลูกไปโรงเรียน (ประมาณว่าเหมือนจะรักและห่วงลูกมาก)
ตอนแนะนำตนเอง เขาบอกเราว่าคงจำเขาไม่ได้ใช่ไหมว่าเขาคือใคร เราบอกจำได้ แต่ไม่ได้บอกเหตุผล แต่ที่เราจำได้ เพราะจำอีเมลเขาได้ค่ะ และที่เราเลือกคุยต่อเพราะคิดว่าเขาคงลองใจประมาณว่าลงรูปคนหัวล้านมา คงไม่มีใครเข้ามาเป็นเพื่อนแต่ในความจริงกลับเป็นอีกคนที่มีการงานและการศึกษาดี มีรูปแนบส่งมาเกือบ 10 รูป
เราเคยนำชื่อ-นามสกุลเขาไปเสิร์ชหา พบว่าเป็นผู้ชายอีกคน ที่ไม่ใช่เขา แต่เราก็คิดว่าคนไทยยังมีชื่อซ้ำเลย เขาก็อาจจะชื่อซ้ำก็ได้ และภาษาที่เขาใช้ในการคุยหวานหยดย้อยเลยค่ะ รู้สึกเลี่ยนเพราะคนไทยยังไม่จีบกันหวานขนาดนี้เลย แต่คิดว่านี่อาจจะเป็นการจีบในแบบเขามั้ง
ทุกครั้งที่มีการส่งเมลมาจะแนบรูปเขาและลูกสาวมาตลอด เช่นวันนี้ขับรถพาลูกสาวไปเที่ยว ก็จะมีรูปเขานั่งบนรถกับลูกสาว และบอกว่าจะลงมาหาที่เมืองไทยเร็วๆ นี้ และให้เบอร์โทรศัพท์กับเรามา เราไม่อยากคุยเพราะกลัวฟังไม่ทัน ซึ่งภาษาเราก็ได้งูๆ ปลาๆ เราเลยให้เบอร์เขาไป เพราะคิดว่าถ้าจะโทร เค้าต้องเป็นฝ่ายโทรมาเอง อีกอย่างเราสู้ค่าโทรไม่ไหว แต่ชอบส่งเมลมากกว่า เพราะสะดวกในการใช้แอพแปล (ตอนแรกก็จะถามนะคะว่าเปลี่ยนเป็น ไลน์ เฟสบุ๊คหรือสไกด์ แต่มาคิดดู เรายังไม่กล้าคุยแบบเห็นหน้า กลัวฟังภาษาไม่ทัน)
จนมีวันหนึ่งเขาส่งเมลมาบอกว่า ต้องบินไปแอฟฟิกาใต้เพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าร้านเขา และมีการจัดงานแสดงสินค้าที่นั่น โดยพาลูกสาวไปด้วย ก็จะมีรูปเขานั่งอยู่บนเครื่องบิน
จนมาถึงจุดพีคค่ะ วันหนึ่งเขาเมลมาบอกว่า เมื่อเสร็จงานเขาอาจจะแวะมาเที่ยวเมืองไทยประมาณ 7 วัน ให้ช่วยจองโรงแรมให้ด้วย และช่วยพาเขากับลูกเที่ยวในไทยด้วย ซึ่งเขาจะออกค่าใช้จ่ายเอง แต่ตอนนี้กำลังยุ่งเรื่องงานจัดแสดงสินค้า และลูกสาวก็ป่วยเนื่องจากอากาศที่นั่นร้อน ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว
เราแปลกใจ ทำไมมาไวจังเลยพึ่งคุยได้ไม่นาน (เข้า 2 สัปดาห์) แต่ก็ตอบเขาไปว่าถ้าจะมาก็เที่ยวก็ยินดีพาเที่ยว แต่เราขับรถไม่เป็นจะต้องเช่ารถและจ้างคนขับรถ ขอให้เขาโอนเงินค่ามัดจำโรงแรมกับคนขับรถมาให้ด้วย
เขาตอบเมลมา แต่ไม่พูดถึงเรื่องโอนเงินมัดให้เรา เราเริ่มแปลกใจแล้ว (ซึ่งตอนนั้นเราถามเพื่อนๆ ในพันทิปและถูกเตือนว่าระวังเคยโดนหลอกมาแล้ว โดยเอาเด็กมาอ้าง ซึ่งเราก็คิดว่าจะไม่มีวันโอนเงินให้นะคะ ไม่ว่าจะกรณีใดๆ ทั้งสิ้น)
แต่เขากลับส่งตั๋วเครื่องบินที่จองออนไลน์มาให้ดูว่ามาวันไหน เที่ยวบินและเวลาอะไร
และเราก็ได้ดูชื่อ-นามสกุลเขากับลูกสาวก็ชื่อถูกต้อง เลยเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนผู้ชายฟัง (เพราะตอนที่จะเช่ารถกับคนขับ เราอยากได้คนรู้จักและไว้ใจได้ไปด้วย เลยคิดจะจ้างเพื่อนคนนี้) อีกอย่างยังอุ่นใจที่มีเพื่อนไปด้วยและเขาพาลูกมาด้วย คงไม่ทำอะไรเรา หากว่ามาจริง ๆ เราเลยตกลงกับเพื่อนว่าให้ลิสต์สถานที่เที่ยวไว้ก่อน และถามเขาว่าต้องการโรงแรมระดับไหน ถ้าเขาโอนเงินมาจริงค่อยจัดการจองโรงแรม
พอวันนี้พีคสุดๆ ค่ะ เขาเมลมาบอกว่าตอนนี้ลูกสาวเขาป่วยอยู่โรงพยาบาล และมีเงินไม่พอ ซึ่งการใช้บัตรเครดิตระหว่างประเทศมีปัญหา ต้องการยืม 1,000$ (เราคิดว่าโป๊ะแตก ใช่เลยยยย แก๊งสแกมเมอร์ชัวร์ไม่มั่วนิ่ม แถม 1,000 $ นี่ประมาณ 30,000 เลยนะ) แถมบอกเสร็จสรรพว่าให้ไปทำที่ เวสเทิร์น ยูเนี่ยน แบบนี้ๆๆ นะ (เราคิด
มีความอยากได้สุดๆ)
เราตอบเขาไปว่าเราอยากจะช่วยใจจะขาด แต่ไม่มีเงิน ขอให้เขาแจ้งสถานกงศุลของประเทศให้ช่วยเหลือเถอะ ส่วนเราจะรอเอาใจช่วยอยู่เมืองไทย
พอวันนี้ตอบมาอย่างไวเลยค่ะ ว่าเพื่อนจะโอนมาช่วยเขาแล้ว 500$ ขอยืมแค่ 700$ ก็ได้ (มีความพยายามมาก) โปรดช่วยเขาเถอะและแนบพาสสปอร์ตมาให้ดู ถ้าเสร็จเรื่องจะใช้คืนเมื่อถึงเมืองไทย
เราเลยตอบกลับว่าอยากจะช่วยแต่ไม่มีเงินจริงๆ มี 2 ทางที่พอจะช่วยได้คือ (เราคิดเองค่ะ อาจจะเวอร์ไปหน่อย แต่เราคิดได้เท่านี้จริงๆ และเราหมั่นไส้มันที่ใช้วิธีนี้มาหลอกลวงความรู้สึก)
1. ให้เขาแจ้งชื่อและที่ตั้งของโรงพยาบาลมา เราจะแจ้ง FBI มาช่วยเหลือ
2. เราคงต้องขายบ้านเพื่อช่วยเหลือเขา แต่กว่าจะขายได้ตอนไหนไม่รู้ อาจนานเป็นเดือนเป็นปีหรือไม่มีกำหนด ในระหว่างนี้ให้เขาทำงานหักหนี้กับทางโรงพยาบาลไปก่อน ส่วนเราจะสวดมนต์ขอพรให้พวกเขาปลอดภัย เรื่องก็มีเท่านี้แหละค่ะ
ปล.อาจใช้คำศัพท์หรือภาษาผิดไปบ้างหากแท็กผิดห้อง ต้องขอโทษด้วยนะคะ เพราะบางทีกำลังพิมพ์ก็กดผิด ไปกดลบบ้าง ต้องมานั่งพิมพ์ใหม่อีก นั่งเรียบเรียงรูปและก็เปลี่ยนใจลบออก เพราะกลัวมีผลทางกฏหมาย ทั้งๆ ที่เราอยากจะโชว์ให้เห็นโฉมหน้าแก๊งนี้มาก จะได้ระวังตัวกันไว้ และเราไม่แน่ใจว่ามันเอาภาพคนอื่นมาหลอกหรือเปล่า
ใครมีข้อคิดเห็นประการใดเล่าสู่กันฟังได้ค่ะ ไม่ต้องอาย เราโชคดีไม่เสียเงิน แต่มันเสียความรู้สึกค่ะ
เวลาคุยกับใครก็ปรึกษาพ่อแม่พี่น้องบ้าง เพราะเราเอารูปให้พ่อแม่พี่น้องและเพื่อนดู เขายังว่าท่าทางใจดี ดูจะรักครอบครัว เห็นไหมคะว่าหน้าตามันวัดค่ากันไม่ได้เลยว่าเป็นคนดี
คนที่โดนหลอกเอาเงินไป คิดซะว่าทำบุญนะคะ ทุกคนต้องโง่ก่อนจะฉลาด เอาใจช่วยค่ะ
ใครต้องการดูรูป หลังไมค์มาได้ค่ะ ไม่กล้าลง เพราะเกรงว่าจะมีผลทางกฏหมายค่ะ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ
มาแชร์วิธีการหลอกลวงของแก๊งสแกมเมอร์ค่ะ
ทุกคนคงเคยเห็นข่าวว่าสาวไทยโดนพวกแก๊งสแกมเมอร์ลงรูปโปรไฟล์หล่อ หุ่นนายแบบ หลอกให้ส่งเงินให้ โดยอ้างว่าส่งของมาให้และของติดอยู่ที่ด่านหรือตัวเองถูกกักประมาณนี้ เราก็พอทราบเท่านี้ค่ะ
จนเรามาเจอกับตัวเอง เพียงแต่เป็นคนละแบบค่ะ วันนึงเราได้ลงปรึกษาในพันทิปว่ามีเพื่อนชายชาวต่างชาติที่คุยด้วยจะลงมาเที่ยวหาที่เมืองไทย ควรจะพาไปเที่ยวที่ไหน อย่างไรดีและมีเพื่อนๆ มาเตือนให้ระวังจะเป็นแก๊งสแกมเมอร์ในรูปแบบต่างๆ
เรื่องมีอยู่ว่าเราได้ลงหาคู่ในเวปไซต์หาคู่แห่งหนึ่ง เราเลือกแบบเพื่อนและแต่งงาน แบบเพื่อนเราคิดว่าได้ภาษา ส่วนแต่งงานเราคิดว่าถ้านิสัยไปกันได้ก็อาจถึงขั้นแต่งงานก็ได้
พอเราลงประวัติก็มีผู้ชายหัวล้านคนหนึ่งเข้ามาขออีเมล เราคิดว่าชายคนนี้ท่าทางใจดีน่าจะไม่มีพิษภัยอะไร
หลังจากนั้นเขาก็ส่งเมลมาคุย และส่งรูปภาพตนเองกับลูกสาวมาด้วย แต่เป็นรูปผู้ชายท้วมมีอายุประมาณ 50 กว่า ดูดี ไม่ได้หล่อเหลาหุ่นนายแบบอะไร ทำให้เราคิดว่าน่าจะไม่ใช่แก๊งสแกมเมอร์
พร้อมเล่าประวัติตัวเองว่าจบการศึกษาปริญญตรีสาขาวิศวกรรมก่อสร้าง ทำงานมากี่ปี ปัจจุบันออกมาทำกิจการรับเหมาก่อสร้างและออกแบบภายในของตัวเอง ภรรยาเสียชีวิต พ่อแม่ก็เสียชีวิต อยู่แคนาดากับลูกสาว ดูแลลูกสาวด้วยตนเองเท่านั้น นอกจากลูกไปโรงเรียน (ประมาณว่าเหมือนจะรักและห่วงลูกมาก)
ตอนแนะนำตนเอง เขาบอกเราว่าคงจำเขาไม่ได้ใช่ไหมว่าเขาคือใคร เราบอกจำได้ แต่ไม่ได้บอกเหตุผล แต่ที่เราจำได้ เพราะจำอีเมลเขาได้ค่ะ และที่เราเลือกคุยต่อเพราะคิดว่าเขาคงลองใจประมาณว่าลงรูปคนหัวล้านมา คงไม่มีใครเข้ามาเป็นเพื่อนแต่ในความจริงกลับเป็นอีกคนที่มีการงานและการศึกษาดี มีรูปแนบส่งมาเกือบ 10 รูป
เราเคยนำชื่อ-นามสกุลเขาไปเสิร์ชหา พบว่าเป็นผู้ชายอีกคน ที่ไม่ใช่เขา แต่เราก็คิดว่าคนไทยยังมีชื่อซ้ำเลย เขาก็อาจจะชื่อซ้ำก็ได้ และภาษาที่เขาใช้ในการคุยหวานหยดย้อยเลยค่ะ รู้สึกเลี่ยนเพราะคนไทยยังไม่จีบกันหวานขนาดนี้เลย แต่คิดว่านี่อาจจะเป็นการจีบในแบบเขามั้ง
ทุกครั้งที่มีการส่งเมลมาจะแนบรูปเขาและลูกสาวมาตลอด เช่นวันนี้ขับรถพาลูกสาวไปเที่ยว ก็จะมีรูปเขานั่งบนรถกับลูกสาว และบอกว่าจะลงมาหาที่เมืองไทยเร็วๆ นี้ และให้เบอร์โทรศัพท์กับเรามา เราไม่อยากคุยเพราะกลัวฟังไม่ทัน ซึ่งภาษาเราก็ได้งูๆ ปลาๆ เราเลยให้เบอร์เขาไป เพราะคิดว่าถ้าจะโทร เค้าต้องเป็นฝ่ายโทรมาเอง อีกอย่างเราสู้ค่าโทรไม่ไหว แต่ชอบส่งเมลมากกว่า เพราะสะดวกในการใช้แอพแปล (ตอนแรกก็จะถามนะคะว่าเปลี่ยนเป็น ไลน์ เฟสบุ๊คหรือสไกด์ แต่มาคิดดู เรายังไม่กล้าคุยแบบเห็นหน้า กลัวฟังภาษาไม่ทัน)
จนมีวันหนึ่งเขาส่งเมลมาบอกว่า ต้องบินไปแอฟฟิกาใต้เพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าร้านเขา และมีการจัดงานแสดงสินค้าที่นั่น โดยพาลูกสาวไปด้วย ก็จะมีรูปเขานั่งอยู่บนเครื่องบิน
จนมาถึงจุดพีคค่ะ วันหนึ่งเขาเมลมาบอกว่า เมื่อเสร็จงานเขาอาจจะแวะมาเที่ยวเมืองไทยประมาณ 7 วัน ให้ช่วยจองโรงแรมให้ด้วย และช่วยพาเขากับลูกเที่ยวในไทยด้วย ซึ่งเขาจะออกค่าใช้จ่ายเอง แต่ตอนนี้กำลังยุ่งเรื่องงานจัดแสดงสินค้า และลูกสาวก็ป่วยเนื่องจากอากาศที่นั่นร้อน ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว
เราแปลกใจ ทำไมมาไวจังเลยพึ่งคุยได้ไม่นาน (เข้า 2 สัปดาห์) แต่ก็ตอบเขาไปว่าถ้าจะมาก็เที่ยวก็ยินดีพาเที่ยว แต่เราขับรถไม่เป็นจะต้องเช่ารถและจ้างคนขับรถ ขอให้เขาโอนเงินค่ามัดจำโรงแรมกับคนขับรถมาให้ด้วย
เขาตอบเมลมา แต่ไม่พูดถึงเรื่องโอนเงินมัดให้เรา เราเริ่มแปลกใจแล้ว (ซึ่งตอนนั้นเราถามเพื่อนๆ ในพันทิปและถูกเตือนว่าระวังเคยโดนหลอกมาแล้ว โดยเอาเด็กมาอ้าง ซึ่งเราก็คิดว่าจะไม่มีวันโอนเงินให้นะคะ ไม่ว่าจะกรณีใดๆ ทั้งสิ้น)
แต่เขากลับส่งตั๋วเครื่องบินที่จองออนไลน์มาให้ดูว่ามาวันไหน เที่ยวบินและเวลาอะไร
และเราก็ได้ดูชื่อ-นามสกุลเขากับลูกสาวก็ชื่อถูกต้อง เลยเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนผู้ชายฟัง (เพราะตอนที่จะเช่ารถกับคนขับ เราอยากได้คนรู้จักและไว้ใจได้ไปด้วย เลยคิดจะจ้างเพื่อนคนนี้) อีกอย่างยังอุ่นใจที่มีเพื่อนไปด้วยและเขาพาลูกมาด้วย คงไม่ทำอะไรเรา หากว่ามาจริง ๆ เราเลยตกลงกับเพื่อนว่าให้ลิสต์สถานที่เที่ยวไว้ก่อน และถามเขาว่าต้องการโรงแรมระดับไหน ถ้าเขาโอนเงินมาจริงค่อยจัดการจองโรงแรม
พอวันนี้พีคสุดๆ ค่ะ เขาเมลมาบอกว่าตอนนี้ลูกสาวเขาป่วยอยู่โรงพยาบาล และมีเงินไม่พอ ซึ่งการใช้บัตรเครดิตระหว่างประเทศมีปัญหา ต้องการยืม 1,000$ (เราคิดว่าโป๊ะแตก ใช่เลยยยย แก๊งสแกมเมอร์ชัวร์ไม่มั่วนิ่ม แถม 1,000 $ นี่ประมาณ 30,000 เลยนะ) แถมบอกเสร็จสรรพว่าให้ไปทำที่ เวสเทิร์น ยูเนี่ยน แบบนี้ๆๆ นะ (เราคิดมีความอยากได้สุดๆ)
เราตอบเขาไปว่าเราอยากจะช่วยใจจะขาด แต่ไม่มีเงิน ขอให้เขาแจ้งสถานกงศุลของประเทศให้ช่วยเหลือเถอะ ส่วนเราจะรอเอาใจช่วยอยู่เมืองไทย
พอวันนี้ตอบมาอย่างไวเลยค่ะ ว่าเพื่อนจะโอนมาช่วยเขาแล้ว 500$ ขอยืมแค่ 700$ ก็ได้ (มีความพยายามมาก) โปรดช่วยเขาเถอะและแนบพาสสปอร์ตมาให้ดู ถ้าเสร็จเรื่องจะใช้คืนเมื่อถึงเมืองไทย
เราเลยตอบกลับว่าอยากจะช่วยแต่ไม่มีเงินจริงๆ มี 2 ทางที่พอจะช่วยได้คือ (เราคิดเองค่ะ อาจจะเวอร์ไปหน่อย แต่เราคิดได้เท่านี้จริงๆ และเราหมั่นไส้มันที่ใช้วิธีนี้มาหลอกลวงความรู้สึก)
1. ให้เขาแจ้งชื่อและที่ตั้งของโรงพยาบาลมา เราจะแจ้ง FBI มาช่วยเหลือ
2. เราคงต้องขายบ้านเพื่อช่วยเหลือเขา แต่กว่าจะขายได้ตอนไหนไม่รู้ อาจนานเป็นเดือนเป็นปีหรือไม่มีกำหนด ในระหว่างนี้ให้เขาทำงานหักหนี้กับทางโรงพยาบาลไปก่อน ส่วนเราจะสวดมนต์ขอพรให้พวกเขาปลอดภัย เรื่องก็มีเท่านี้แหละค่ะ
ปล.อาจใช้คำศัพท์หรือภาษาผิดไปบ้างหากแท็กผิดห้อง ต้องขอโทษด้วยนะคะ เพราะบางทีกำลังพิมพ์ก็กดผิด ไปกดลบบ้าง ต้องมานั่งพิมพ์ใหม่อีก นั่งเรียบเรียงรูปและก็เปลี่ยนใจลบออก เพราะกลัวมีผลทางกฏหมาย ทั้งๆ ที่เราอยากจะโชว์ให้เห็นโฉมหน้าแก๊งนี้มาก จะได้ระวังตัวกันไว้ และเราไม่แน่ใจว่ามันเอาภาพคนอื่นมาหลอกหรือเปล่า
ใครมีข้อคิดเห็นประการใดเล่าสู่กันฟังได้ค่ะ ไม่ต้องอาย เราโชคดีไม่เสียเงิน แต่มันเสียความรู้สึกค่ะ
เวลาคุยกับใครก็ปรึกษาพ่อแม่พี่น้องบ้าง เพราะเราเอารูปให้พ่อแม่พี่น้องและเพื่อนดู เขายังว่าท่าทางใจดี ดูจะรักครอบครัว เห็นไหมคะว่าหน้าตามันวัดค่ากันไม่ได้เลยว่าเป็นคนดี
คนที่โดนหลอกเอาเงินไป คิดซะว่าทำบุญนะคะ ทุกคนต้องโง่ก่อนจะฉลาด เอาใจช่วยค่ะ
ใครต้องการดูรูป หลังไมค์มาได้ค่ะ ไม่กล้าลง เพราะเกรงว่าจะมีผลทางกฏหมายค่ะ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ