แรงเงา 2 แรงเงา แรงแค้น กลายเป็นแรงเงาเรางง หรือแรงเงาแรงพัง
ละครภาคต่อในรอบ 7 ปี โดยส่วนตัวเป็นคนที่ไม่ได้อยากให้สร้างภาคต่อ แต่ไม่ได้ต่อต้านและยินดีถ้าผู้ผลิตจะทำ
เพราะแรงเงานอกจากเป็นละครที่สนุก ยังเป็นบันทึกการเปลี่ยนแปลงของสังคมในการสร้างแต่ครั้ง
แรงเงา 2 มีโครงเรื่องคือ การผ่านไป 4 ปีของตัวละครหลักในเรื่อง
ที่กำลังก้าวสู่คู่ชีวิตของวีกิจและมุนินทร์ และต้องพบอุปสวรรคเมื่อวีกิจขับรถชนฤทัย
ทำให้ วีกิจต้องคอยดูแลฤทัยจนกลายเป็นปัญหาที่เกือบทำลายชีวิตคู่
ในภาคของนิยายสำหรับภาคต่อ เป็นธรรมเนียมที่มีตัวละครใหม่ขึ้นมา
และความต้องการของผู้เขียน คงอยากให้เห็นถึงความสัมพันธ์ในชีวิตคู่
แต่เนื่องจากละครคือการสร้างต่อเนื่องจากละครครั้งก่อนที่มีตัวละครไม่เหมือนในนิยาย
ก็ต้องมีการเติมแต่งจากนิยายเพิ่มขึ้นมารองรับตัวละครอื่น ๆ ด้วย
ละครแรงเงา 2 จึงเป็นการใช้โครงเรื่องในนิยายมาปรับขยายเป็นละครที่ไม่เหมือนนิยาย อย่างที่เราเห็น ๆ กัน
หลายคนสงสัยถึงบทโทรทัศน์ว่ามันเหมือนจะต่อเนื่องแต่ บทสนทนา บุคลิกของตัวละคร ทำให้หลายคนสับ(สน) ว่าต้องการอะไร
และอยากรู้เหมือนชื่อเพลงละครเรื่องนี้ว่า Anonymous เป็นใคร
คนเขียนบทมีความพยายามจะเชื่อมโยง วางโครงเรื่องให้คล้ายกับแรงเงาภาคแรก
จังหวะ สถานการณ์ ตัวละครแทบจะมีความเชื่อมโยงกัน แต่ต้องยอมรับว่ามันวุ่นวายเกินไป
ในช่วงแรกพยายามเขย่าทุกตัวละคร โดยใช้เหตุผลว่าเวลาเปลี่ยนไป ตัวละครนิสัยก็เปลี่ยนไป
และการพยายามสร้างสถานการณ์ไปเรื่อย ๆ แบบไม่มีจุดจบ จนไปถึงสิ่งที่ต้องการคือ
การปลุกนพนภาออกมารบกับมุนินทร์อีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่ตรงนี้ไม่มีในนิยาย
อาจต้องการให้คนดูรู้สึกถึงอารมณ์เดิม ๆ จากภาคที่ผ่านมา และสุดท้ายก็ตลบจบด้วย
การที่นพนภาเป็นคนขออโหสิกรรมกับมุนินทร์ในงานแต่งงาน เป็นการเกริ่นนำเรื่อง
เข้าสู่เนื้อหาหลักของเรื่องคือ การเข้ามาของฤทัย เพราะคนที่เข้ามาแค้นมุนินทร์ไม่ใช่นพภาแต่เป็นฤทัย
กระบวนการขี่ช้างจับตั๊กแตนเพื่อนำเสนอเรื่องข้างต้น โดยส่วนตัวเข้าใจในจุดประสงค์คนเขียนบท
ที่ต้องการนำเสนอให้เห็น จิตใต้สำนึกของมุนินทร์ ความระแวงในใจของนพภา
อารมณ์ที่เติบโตขึ้นของวิกิจ และการก้าวเข้ามาของศรุต และแรงแค้นของฤทัย
บางคนงงกับการดำเนินเรื่องแบบนี้ แต่ถ้าคนที่เคยดูละครของผู้กำกับที่ทำละครเรื่องนี้
และเป็นคนกำกับแรงเงาครั้งที่แล้ว จะเข้าใจว่า Anonymous ก็คือตัวผู้กำกับละครเรื่องนี้นั่นเอง
ถ้าใครเคยดู ดาวเคียงเดือน จะรู้สึกว่ามันมีรูปแบบการดำเนินเรื่องที่คล้ายกัน
ตัวละครในเรื่องนั้น ก็คล้าย ๆ กับเรื่องนี้คือไม่อยู่กับร่องกับรอย แต่ทำไปเพื่อผลลัพธ์ของเรื่อง
ตัวละครใหม่ ๆ ความสัมพันธ์ใหม่ การเล่าเรื่องในทิศทางใหม่ก็ดำเนินไป
ฤทัย การกลับมาล้างแค้นมุนินทร์และทดสอบจิตใจของวีกิจ
ศรุตและแทนไท ผู้ชายที่เข้ามาในชีวิตของนพภนาและต้อง ที่มีนิสัยต่างจาก เจนภพและประพงศ์
มาร์ค เพื่อนร่วมงานน่ารำคาญของมุนินทร์ เขาคือปริมในร่างผู้ชาย
ต่อละก้อง ต้องเผชิญกับบททดสอบที่ไม่คิดว่าความสัมพันธ์ของเขายังต้องเจอแบบนี้
และมุนินทร์ การพาฤทัยเข้าบ้านนอกจาก parody นักแสดงที่เคยสวมบทตัวละครแบบฤทัยอย่างใจเริง
เพื่อเอาฤทัยมาเป็น มุตตา ตอบแทนความรู้สึกผิดจากจิตใต้สำนึกของตัวเอง
ซึ่งจะนำไปสู่เหตุการณ์ต่าง ๆ ทั้งตบตกบันไดในกระทรวง ยันระเบิดภูเขาเผากระท่อม (บอกเลยว่ามี)
ซึ่งไม่รู้ว่าจะเล่าเรื่องแบบไหนมานำเสนอกันก็ต้องติดตามกันไปสำหรับคนที่ยังอยากดูต่อ
แต่ส่วนตัวคิดว่าสิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่คิด ตามสไตล์ละครของผู้กำกับ
เชื่อว่าแรงเงา 2 ที่นำมาสร้างเป็นภาคต่อของละครในรอบ 18 ปี
เพราะแรงเงาครั้งที่แล้วคือการปรับเปลี่ยนเรื่องเพียงเล็กน้อยจากปี 2544
นอกจากจะต้องการเน้นเรื่องชีวิตคู่ และกรรมที่เป็นแก่นจากภาคแรก
ยังมีการบันทึกสังคมที่เปลี่ยนไป แม้มันอาจจะมาถึงคนดูน้อยไปก็ตามที
การพยายามให้คนดูรู้จักตัวตนของมุนินทร์ที่เป็นเงาที่แข็งแรงของมุตตาในภาคแรก
ว่ามุนินทร์ก็มีความอ่อนแอทางใจไม่ต่างจากมุตตา และอาจมีบาดแผลลึกกว่าแฝดน้อง
การนำเสนอตัวตนที่เคยเป็นเงาคือความต้องการของภาคนี้ แต่คนดูที่คาดหวังก็ต้องผิดหวังและอยากลืมมันไป
แรงเงา 2 ละครภาคต่อในรอบ 18 ปี "เงาที่อยากมีตัวตน แต่คนอยากลืม"
ละครภาคต่อในรอบ 7 ปี โดยส่วนตัวเป็นคนที่ไม่ได้อยากให้สร้างภาคต่อ แต่ไม่ได้ต่อต้านและยินดีถ้าผู้ผลิตจะทำ
เพราะแรงเงานอกจากเป็นละครที่สนุก ยังเป็นบันทึกการเปลี่ยนแปลงของสังคมในการสร้างแต่ครั้ง
แรงเงา 2 มีโครงเรื่องคือ การผ่านไป 4 ปีของตัวละครหลักในเรื่อง
ที่กำลังก้าวสู่คู่ชีวิตของวีกิจและมุนินทร์ และต้องพบอุปสวรรคเมื่อวีกิจขับรถชนฤทัย
ทำให้ วีกิจต้องคอยดูแลฤทัยจนกลายเป็นปัญหาที่เกือบทำลายชีวิตคู่
ในภาคของนิยายสำหรับภาคต่อ เป็นธรรมเนียมที่มีตัวละครใหม่ขึ้นมา
และความต้องการของผู้เขียน คงอยากให้เห็นถึงความสัมพันธ์ในชีวิตคู่
แต่เนื่องจากละครคือการสร้างต่อเนื่องจากละครครั้งก่อนที่มีตัวละครไม่เหมือนในนิยาย
ก็ต้องมีการเติมแต่งจากนิยายเพิ่มขึ้นมารองรับตัวละครอื่น ๆ ด้วย
ละครแรงเงา 2 จึงเป็นการใช้โครงเรื่องในนิยายมาปรับขยายเป็นละครที่ไม่เหมือนนิยาย อย่างที่เราเห็น ๆ กัน
หลายคนสงสัยถึงบทโทรทัศน์ว่ามันเหมือนจะต่อเนื่องแต่ บทสนทนา บุคลิกของตัวละคร ทำให้หลายคนสับ(สน) ว่าต้องการอะไร
และอยากรู้เหมือนชื่อเพลงละครเรื่องนี้ว่า Anonymous เป็นใคร
คนเขียนบทมีความพยายามจะเชื่อมโยง วางโครงเรื่องให้คล้ายกับแรงเงาภาคแรก
จังหวะ สถานการณ์ ตัวละครแทบจะมีความเชื่อมโยงกัน แต่ต้องยอมรับว่ามันวุ่นวายเกินไป
ในช่วงแรกพยายามเขย่าทุกตัวละคร โดยใช้เหตุผลว่าเวลาเปลี่ยนไป ตัวละครนิสัยก็เปลี่ยนไป
และการพยายามสร้างสถานการณ์ไปเรื่อย ๆ แบบไม่มีจุดจบ จนไปถึงสิ่งที่ต้องการคือ
การปลุกนพนภาออกมารบกับมุนินทร์อีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่ตรงนี้ไม่มีในนิยาย
อาจต้องการให้คนดูรู้สึกถึงอารมณ์เดิม ๆ จากภาคที่ผ่านมา และสุดท้ายก็ตลบจบด้วย
การที่นพนภาเป็นคนขออโหสิกรรมกับมุนินทร์ในงานแต่งงาน เป็นการเกริ่นนำเรื่อง
เข้าสู่เนื้อหาหลักของเรื่องคือ การเข้ามาของฤทัย เพราะคนที่เข้ามาแค้นมุนินทร์ไม่ใช่นพภาแต่เป็นฤทัย
กระบวนการขี่ช้างจับตั๊กแตนเพื่อนำเสนอเรื่องข้างต้น โดยส่วนตัวเข้าใจในจุดประสงค์คนเขียนบท
ที่ต้องการนำเสนอให้เห็น จิตใต้สำนึกของมุนินทร์ ความระแวงในใจของนพภา
อารมณ์ที่เติบโตขึ้นของวิกิจ และการก้าวเข้ามาของศรุต และแรงแค้นของฤทัย
บางคนงงกับการดำเนินเรื่องแบบนี้ แต่ถ้าคนที่เคยดูละครของผู้กำกับที่ทำละครเรื่องนี้
และเป็นคนกำกับแรงเงาครั้งที่แล้ว จะเข้าใจว่า Anonymous ก็คือตัวผู้กำกับละครเรื่องนี้นั่นเอง
ถ้าใครเคยดู ดาวเคียงเดือน จะรู้สึกว่ามันมีรูปแบบการดำเนินเรื่องที่คล้ายกัน
ตัวละครในเรื่องนั้น ก็คล้าย ๆ กับเรื่องนี้คือไม่อยู่กับร่องกับรอย แต่ทำไปเพื่อผลลัพธ์ของเรื่อง
ตัวละครใหม่ ๆ ความสัมพันธ์ใหม่ การเล่าเรื่องในทิศทางใหม่ก็ดำเนินไป
ฤทัย การกลับมาล้างแค้นมุนินทร์และทดสอบจิตใจของวีกิจ
ศรุตและแทนไท ผู้ชายที่เข้ามาในชีวิตของนพภนาและต้อง ที่มีนิสัยต่างจาก เจนภพและประพงศ์
มาร์ค เพื่อนร่วมงานน่ารำคาญของมุนินทร์ เขาคือปริมในร่างผู้ชาย
ต่อละก้อง ต้องเผชิญกับบททดสอบที่ไม่คิดว่าความสัมพันธ์ของเขายังต้องเจอแบบนี้
และมุนินทร์ การพาฤทัยเข้าบ้านนอกจาก parody นักแสดงที่เคยสวมบทตัวละครแบบฤทัยอย่างใจเริง
เพื่อเอาฤทัยมาเป็น มุตตา ตอบแทนความรู้สึกผิดจากจิตใต้สำนึกของตัวเอง
ซึ่งจะนำไปสู่เหตุการณ์ต่าง ๆ ทั้งตบตกบันไดในกระทรวง ยันระเบิดภูเขาเผากระท่อม (บอกเลยว่ามี)
ซึ่งไม่รู้ว่าจะเล่าเรื่องแบบไหนมานำเสนอกันก็ต้องติดตามกันไปสำหรับคนที่ยังอยากดูต่อ
แต่ส่วนตัวคิดว่าสิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่คิด ตามสไตล์ละครของผู้กำกับ
เชื่อว่าแรงเงา 2 ที่นำมาสร้างเป็นภาคต่อของละครในรอบ 18 ปี
เพราะแรงเงาครั้งที่แล้วคือการปรับเปลี่ยนเรื่องเพียงเล็กน้อยจากปี 2544
นอกจากจะต้องการเน้นเรื่องชีวิตคู่ และกรรมที่เป็นแก่นจากภาคแรก
ยังมีการบันทึกสังคมที่เปลี่ยนไป แม้มันอาจจะมาถึงคนดูน้อยไปก็ตามที
การพยายามให้คนดูรู้จักตัวตนของมุนินทร์ที่เป็นเงาที่แข็งแรงของมุตตาในภาคแรก
ว่ามุนินทร์ก็มีความอ่อนแอทางใจไม่ต่างจากมุตตา และอาจมีบาดแผลลึกกว่าแฝดน้อง
การนำเสนอตัวตนที่เคยเป็นเงาคือความต้องการของภาคนี้ แต่คนดูที่คาดหวังก็ต้องผิดหวังและอยากลืมมันไป