ข้อมูลเบื้องต้นของประเทศสิงคโปร์
สิงคโปร์เป็นประเทศที่เป็นเกาะขนาดเล็กที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นนครรัฐสมัยใหม่ โดยเวลาของประเทศสิงคโปร์จะเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง

การเดินทางมายังประเทศสิงคโปร์
- ง่ายสุดอย่างที่ทุกคนรู้กันอยู่แล้วนั่นก็คือการนั่งเครื่องบิน มีให้เลือกมากมายหลากหลายสายการบิน สามารถขึ้นเครื่องได้ที่สนามบินดอนเมือง,สนามบินสุวรรณภูมิ,สนามบินภูเก็ต,สนามบินเชียงใหม่ เป็นต้น ใช้เวลาเดินทางจากกทม. ถึงประเทศสิงคโปร์ ประมาณ 2ชั่วโมงครึ่ง
- มีอีก 2 วิธี คือ การนั่งรถไฟหรือรถบัสจากไทยไปสิงคโปร์ได้ ใครสายชิลแนะนำเส้นทางนี้เลยได้แวะเที่ยวมาเลเซียด้วย

มาเริ่มต้น DAY 1 กันเลย
ต้องบอกก่อนเลยว่าทริปนี้เป็นทริปกระทันหัน เราจองตั๋วไม่ถึง 1 อาทิตย์ก่อนจะเดินทาง ไม่ได้วางแผนเที่ยวเลย ใช้คอนเซ็ป THE PLAN IS NO PLAN  ไว้ค่อยไปวางแผนการเที่ยวบนเครื่องบินเอา

เราออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิโดยสายการบิน SCOOT ขึ้นเครื่องตอนบ่าย3 ไปถึงสิงคโปร์ก็ใกล้ค่ำแล้ว  เมื่อมาถึงผ่านตม.เรียบร้อย
เราก็ไม่ยอมเสียเวลาลากกระเป๋าไปเที่ยวกันเลย ที่แรกที่เราจะไป คือ...

ห้าง JEWEL

ห้าง JEWEL อยู่ในสนามบิน CHANGI เลย เมื่อลงเครื่องแล้วสามารถเดินผ่าน TERMINAL 1 ที่บริเวณชั้น 1ฝั่งผู้โดยสารขาเข้าเพื่อไปเที่ยวกันได้เลย หรือใครมาจากในตัวเมืองก็สามารถนั่ง MRT มาลงสถานี CHANGI ได้
      เราไปถึงตอนมีการแสดงในส่วนน้ำตกชื่อดังของห้างอยู่พอดี เป็นโชว์แสงสีกับสายน้ำคล้ายๆโชว์น้ำพุเต้นระบำ น้ำตกของห้างJEWELแห่งนี้เป็นน้ำตกในอาคารที่สูงที่สุดในโลกอีกด้วย เราดูโชว์กันได้สักพักเนื่องจากคนเยอะมากและของเราก็เยอะ ก็เลยตัดสินใจเอากระเป๋าไปเก็บยังที่พักกันก่อน เราเลือกเดินทางด้วย GRAB ไปยังที่พักของเรา

พิกัดห้าง Jewel

เราพักที่ SUMMERVIEW HOTEL

ที่พักอยู่แถวถนน BENCOOLEN  เหตุผลที่เลือกพักที่นี้เพราะว่าอยู่ใจกลางเมืองและใกล้ MRT ถึง 3 สถานี ได้แก่ สถานี BENCOOLEN,ROCHOR,BUGIS แต่สถานีที่ใกล้ที่สุด คือ ROCHOR ห่างจากโรงแรมเพียง 220 เมตร ส่วนสถานี BENCOOLEN อยู่ห่างโรงแรม
350 เมตร ส่วน BUGIS ห่างออกไปประมาณ 800 เมตร ส่วนตัวเราเลือกใช้สถานี ROCHOR ตลอด เพราะเดินจากโรงแรมใกล้มากที่สุด

พักเรื่อง MRT ไว้แปปมาต่อกันที่ส่วนของห้องพักของเรากันต่อ
เราจองมาในราคาห้องละประมาณ 3 พันกว่าบาท ซึ่งเราคิดว่าไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับความสะดวกในการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ลักษณะห้องจะแคบๆนิดนึงแต่ก็นอนกันได้เพราะเราไม่ค่อยได้อยู่ที่พักกันอยู่แล้ว ส่วนของห้องน้ำจะแยกโซนเปียกและโซนแห้งไว้อย่างชัดเจน

ในส่วนของห้องน้ำก็ถ่ายรูปชิคๆได้นะ

พิกัดโรงแรม Summer view Hotel

เก็บกระเป๋ากันแล้วเราก็ไม่รอช้าไปเที่ยวกันเลย ถึงแม้ว่าจะ 2 ทุ่มแล้วก็ตาม เราตั้งใจจะไปดูไฟกันที่ GARDEN BY THE BAY แต่หาอะไรรองท้องกันก่อน เราหาอะไรทานกันแถวข้างโรงแรม เป็นร้านอาหาร street food สั่งมา 3 อย่าง ประมาณ 20 กว่าเหรียญ 600 กว่าบาทรวมน้ำแล้ว ส่วนเรื่องรสชาติ
จืดๆเผ็ดๆยังไงบอกไม่ถูก

อิ่มท้องกันแล้วไปเที่ยวต่อกันเลยจ้าที่ GARDEN BY THE BAY

เราเดินทางมาโดย MRT จากสถานี ROCHOR มาลงที่สถานี BAYFRONT มาถึงแล้วให้เลือกทางออก GARDEN BY THE BAY ออกมาจากสถานีก็ถึงเลย ก่อนจะเดินเข้าไปในส่วนของ GARDEN ก็แวะถ่ายรูปริมถนนซึ่งมี MARINA BAY SANDS เป็นแบคกราวน์กันสักหน่อย

ถ่ายรูปกันพอหอมปากหอมคอแล้วเราก็เดินไปยังจุดมุ่งหมายของเรา คือ GARDEN BY THE BAY เรามาถึงก็มืดแล้ว 3 ทุ่มกว่า ในส่วนของการเดินขึ้นไปชมบนสะพานเลยปิดแล้ว สามารถเดินชมไฟได้แค่ส่วนข้างล่างและบริเวณรอบๆสวน เมื่อเดินเข้าไปข้างในบรรยากาศของที่นี้ให้ฟิลในหนังเรื่อง AVATAR อยู่เหมือนกันนะ ไฟสวยดูเหมือนโลกอนาคตมากๆเลยทีเดียว

พิกัด Garden By The Bay

เดินชม GARDEN BY THE BAY กันพอหอมปากหอมคอแล้ว  เราก็เดินผ่านทางเชื่อม ที่เชื่อมไปยัง MARINA BAY SANDS กัน เพื่อไปดูกันว่าฝั่งนู้นมีอะไรบ้าง ทางเชื่อมจะเชื่อมเข้าสู่ห้าง THE SHOPPES AT MARINA BAY SANDS  ซึ่งเป็นห้างที่มีความหรูหราและเป็นห้างสัญลักษณ์ของสิงคโปร์เลยก็ว่าได้มีแบรนด์ต่างๆมากมายรวมถึงยังมีคาสิโนอีกด้วยห้างนี้เปิดดึกถึง ห้าทุ่มครึ่ง สวรรค์ของนักช็อป ช็อปกันไปยาวๆเลยจ้า

เราเดินเข้ามาในห้างแล้วแต่คืนนี้เราแค่เดินผ่านมาเฉยๆเนื่องจากห้างใกล้จะปิดแล้ว เราเดินมุ่งตรงไปฝั่งริมน้ำของห้างเพื่อชมไฟจากตึกต่างๆของฝั่งตรงข้ามอีกทั้งตรงจุดนี้ยังเป็นสถานที่ ที่เราจะชมการแสดง WONDER FULL LIGHT&WATER ของ  MARINA BAY SANDS ในวันพรุ่งนี้กันอีกด้วย  จุดนี้คือบริเวณลานริมน้ำด้านข้าง LOUIS VUITTON เรือนกระจกในน้ำสุดหรู  ซึ่งกลางคืนจะมีผู้คนออกมานั่งเล่น แฮงเอาท์กันมากมาย เดินเล่นกันได้สักพักเวลาใกล้จะเที่ยงคืน เราเลยตัดสินใจกลับโรงแรมกันก่อนก่อนที่รถไฟใต้ดินจะหมด

พิกัด THE SHOPPES AT MARINA BAY SANDS

DAY2
วันนี้เราตื่นกันตั้งแต่เช้าเพื่อจะได้เที่ยวกันเต็มวันตั้งแต่ 7โมงเช้าถึงตี2กันไปเลย เราออกจากโรงแรมกันตั้งแต่ 7.30 เดินอ้อมมาด้านหลังโรงแรมเจอกับตึกนี้มีหน้าต่างเล็กๆหลากหลายสีสันน่ารักดี เลยแวะถ่ายรูปกันหน่อย

ถ่ายรูปกันเสร็จแล้วจุดที่เราจะไปกันต่อไปคือ  BUGIS VILLAGE หรือหมู่บ้านที่มีบันไดวนหลายๆสีนั่นเอง

เราเดินจากโรงแรมมายังBUGIS VILLAGE ประมาณ 400 เมตร แต่ถ้าหากใครมา MRT ให้นั่งสายสีเขียวหรือน้ำเงินลงสถานี Bugis ทางออก B กันได้เลย  Bugis street เป็นแหล่งรวมร้าน street food และ ร้านขายของฝากที่คึกคักเป็นอย่างมาก แต่วันนี้เราไม่ได้จะมาชอปปิ้งกัน เราเลยมุ่งหน้าไปยัง
บันไดวนหลายสีสันของเรากันเลย ซึ่งบันไดนี้ตั้งอยู่ด้านหลังของตึก BUGISVILLAGE สังเกตง่ายๆ คืออยู่ฝั่งตรงข้ามห้าง Bugis Junction
เมื่อมาถึงแล้วจะพบกับอาคารและบันไดสีสันสดใสสีพาสเทลเรียงรายกันอยู่ ซึ่งบันไดเหล่านี้เป็นบันไดหนีไฟของอาคารต่างๆนั่นเอง

พิกัด BUGIS VILLAGE

ถ่ายรูปจุดนี้เสร็จแล้วเราไปต่อกันที่  FORT CANNING PARK กันต่อ เราขึ้น MRTจากสถานี bugis แล้วไปลงที่สถานี dhoby ghaut หลายๆคนคงสงสัยว่าทำไมไม่ไปลงที่สถานีFORT CANNING  เพราะถ้าลงที่สถานีนั้นจะเดินไกลจากจุดที่เราจะไปกันมาก คือ FORT GATE หรืออุโมงค์ต้นไม้นั่นเอง

เมื่อมาถึงสถานีDhoby Ghaut แล้ว ให้ออกทางออก B และเดินตรงมาทางตึก PARK MALL จากนั้นให้ข้ามถนนไปยังฝั่งตึก park mall แล้วเลี้ยวซ้ายด้านหน้าตึก เดินตรงไปเรื่อยๆก้จะเจอกับอุโมงค์ที่จะทะลุไปยังอุโมงค์ต้นไม้ ได้ จุดนี้จะเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวไทยค่อนข้างจะเยอะต้องรอคิวถ่ายรูปกันหน่อย

มุมนี้คือมุมยอดฮิตที่ใครมาก็ต้องปีนขึ้นไปถ่ายกัน แต่ใช้ความระมัดระวังในการปีนป่ายกันด้วยเด้อ

ลงมาถ่ายกับอุโมงค์ทางเชื่อมด้านล่างกันบ้างดีกว่าแสงกำลังสวย 

ถ่ายรูปเล่นบริเวณอุโมงค์กันสักพักจากนั้นเราก็เดินเล่นสำรวจใน Fort Canning Park ว่ามีอะไรบ้าง

(Fort Canning Park)เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่บนเนินเขาใจกลางตัวเมืองสิงคโปร์เลยที่นี่เคยเป็นหอสั่งการณ์ในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่สองเลยได้ชื่อเรียกกันว่า BATTLE BOX ซึ่งปัจจุบันได้เปิดให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสงครามทำให้สวนแห่งนี้มีอาคารและสิ่งปลูกสร้างทางประวัติศาสตร์รวมตัวกันอย่างมากมาย อีกทั้งบางช่วงสวนแห่งนี้ยังจัดนิทรรศการต่างๆให้ชมกันอีกด้วย

สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับ Clark Quay,พิพิธภัณท์แห่งชาติสิงคโปร์(Singapore National Museum)  และใกล้ถนนออชาร์ด(Orchard Road)
นอกจากจะถ่ายรูปกับอุโมงค์ต้นไม้แล้วชาวสิงคโปร์นิยมมาวิ่งออกกำลังกายและมาพักผ่อนกันยังสวนแห่งนี้เพราะมีบรรยากาศที่ร่มรื่นและไม่ค่อยร้อนมากเหมาะแก่การมาพักผ่อน