สวัสดีค่ะ อิ๋วนะคะ วันนี้มาเจอกันแบบนี้ แน่นอนว่ามีสกินแคร์ดีๆมาแนะนำกันอีกเช่นเคย หลังจากหน้าหายแพ้ไปก็กลับเข้าสู่วงจรทดลองผลิตภัณฑ์ใหม่ๆอีกเช่นเคย
วันนี้ทางเรามีแบรนด์นึงที่ได้ลองใช้แล้วแบบ เอ้ออ เวิร์คอ่ะ ชอบ เลยมาเล่าให้ฟังกัน จะไม่เกริ่นยาวให้รำคาญตา ไปดูรีวิวกันเลยดีกว่าค่ะ
MERE MEGU (แมร์ เมกุ) เป็นแบรนด์ที่ใช่ส่วนผสมส่งตรงมาจากญี่ปุ่น ทำให้เราผิวดีแบบสาวญี่ปุ่นเลยค่า
สองตัวนี้สามารถใช้ได้กับสาวๆทุกสภาพผิวเลยนะ ไม่ว่าจะผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม หรือแม้แต่สาวๆที่ผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้ค่า ไม่ต้องกังวลใจไป
เราชอบแพคเกจเค้ามากๆเลยนะ มีความมินิมอลดี ส่วนตัวเป็นคนชอบแพคเกจที่เป็นสีขาวๆ เห็นแล้วดึงดูให้เราใช้มากอ่ะ 555 หลงรักความมินิมอล
ไปดูรีวิวแต่ละตัวกันดีกว่า
มาเริ่มกันที่ตัวแรกเป็นเจลล้างหน้าค่ะ ตัวนี้จะบอกว่าชอบมากกกก ใช้แล้วเฟรชมาก
มาทำความรู้จักเค้ากันก่อน
ตัวนี้เค้าไม่ได้เป็นเจลใสๆธรรมดา แต่เป็นเจลล้างหน้าที่มีส่วนประกอบของเซราไมด์ ซึ่งจะช่วยทำให้ผิวของเรามีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้น ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ และที่สำคัญจะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวของเรา ทำให้ผิวเราดูเปล่งปลั่ง ไม่มีริ้วรอยก่อนวัยนั่นเอง และนอกจากนี้แล้วยังมีส่วนผสมของส้มยูซุ ซึ่งคนญี่ปุ่นเชื่อว่าส้มยูซุเนี้ย จะช่วยทำให้ผิวพรรณงดงาม ทำให้ผิวกระจ่างใส มีความเนียนนุ่ม สุขภาพดี แถมยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ทำให้เวลาที่เราใช้แล้วรู้สึกสดชื่นด้วยย
เห็นสรรพคุณของเค้าแล้ว เรามาดูเนื้อของเค้ากันบ้างดีกว่าค่า อย่างที่เกริ่นไว้เลยว่าเค้าเป็นเจลใส ไม่มีสี นอกจากนี้แล้วเป็นเจลล้างหน้าที่ไม่มีฟองด้วยนะคะ แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องความสะอาด เห็นไม่มีฟองอย่างงี้คือทำความสะอาดได้หมดจดเลยแหล่ะ เราชอบความไม่มีฟองนะ รู้สึกว่าปลอดภัยสำหรับคนที่ผิวแพ้ง่ายมากๆ มีความอ่อนโยนแบบบอกไม่ถูก 5555
เราชอบมากก ความรู้สึกแรกหลังใช้เลยคือรู้สึกเย็น มีความเย็นใช้แล้วหน้าเฟรชมากจริงๆ ใช้แล้วรู้สึกสดชื่น ส่วนตัวเราชอบใช้ในตอนเช้า เพราะว่าทำให้รู้สึกตัว แล้วเค้าไม่ได้มีดีแค่เย็นนะ กลิ่นหอมผ่อนคลายดีด้วย ที่สำคัญหลังล้างหน้าไม่รู้สึกตึงหน้า ยังมีความนุ่มชุ่มชื้นอยู่ อันนี้ดีๆ เป็นคุณสมบัติที่ดีของเจลล้างหน้าเลย
ตั้งแต่ลองใช้เจลล้างหน้า Mere Megu มาคือก็ยังไม่มีสิวอุดตันขึ้นนะ แสดงว่าเค้าสามารถทำความสะอาดหน้าได้อย่างสะอาดหมดจดเลยแหล่ะ
ราคา 199.- (จากปกติ 249.-)
มาต่อกันที่น้ำตบกันบ้าง Mere Megu Gentle Care Water Essence ตัวนี้เป็นตัวเด็ดของเค้าเลย เรียกได้ว่าเป็นวอเทอร์เอสเซนส์เข้มข้นที่สกัดจากสารสกัดนำเข้าระดับพรีเมี่ยมเลยทีเดียวเชียว
ส่วนผสมหลักของเค้าเลยก็คือเซลาไมด์ที่พูดถึงไปเมื่อกี้นี้แล้วว่าช่วยทำให้ผิวเรานุ่ม ชุ่มชื้น และอีกตัวเด็ดก็คือใบชิโสะค่ะ ตัวนี้จะช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอย และช่วยลดรอยแดงรอยดำจากสิว แถมยังช่วยทำให้ผิวของเราแข็งแรงขึ้นอีกด้วย
เนื้อของเค้าก็เป็นเนื้อเอสเซนส์ใส ไม่มีสี เนื้อเค้าจะมีความหนืดนิดนึงนะคะ ไม่ได้เหลวเป็นน้ำเปล่า กลิ่นก็หอมแบบเดียวกันกับเจลล้างหน้าเลย มีความสดชื่น เกลี่ยง่าย ซึมเข้าผิวเร็วอยู่ค่ะ ไม่ได้ทาปุ๊บหายว๊าบเข้าผิวไปเลย แต่นวดๆแปปนึง ก็ซึมเข้าผิวเลย ไม่เหนียวเหนอะหนะค่ะ
มาพูดถึงวิธีใช้กันบ้าง จริงๆเค้ามีวิธีใช้หลายวิธีอยู่นะ แล้วแต่ความชอบและความสะดวกของแต่ละคนเลยค่ะ เดี๋ยวเราจะมาสาธิตให้ดูกัน
วิธีที่ 1 : ใช้เป็นน้ำตบ
วิธีนี้เป็นวิธีที่เราชอบใช้ที่สุด เพราะสะดวก! ง่ายๆเลยค่ะ เทเอสเซ้นส์ลงบนฝ่ามือ แล้วค่อยๆตบเบาๆลงบนผิวหน้า ทางเราก็ใช้วิธีกดเบาๆตามแบบฉบับพี่เชื่อชัยเลย จากนั้นก็มีการนวดๆหยิกผิวนิดหน่อย เพราะให้เนื้อเอสเซ้นส์ซึมเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น และจะได้เป็นการเตรียมพร้อมบำรุงผิวในขั้นตอนต่อไปค่ะ
วิธีที่ 2 : หยดลงบนชีทมาส์ก
วิธีนี้เราจะใช้เวลาเราต้องการบำรุงหน้าหนักๆ แบบหน้าเหนื่อยมาทั้งวัน จะหยดเอสเซ้นส์ลงบนเม็ดมาส์กของเรา แล้วก็เอามามาส์กไว้ 10-15 นาที (บางครั้งรู้สึกมาส์กยังไม่ชุ่มพอ เราจะเทเนื้อเอสเซ้นส์ทับลงบนมาส์กไปอีกทีให้ชุ่มเลย นอนเล่นมือถือแปปเดียวก็ 15 นาทีแล้ว)
วิธีนี้เหมาะกับคนผิวแพ้ง่าย มีรอบแดง รอยดำจากสิวอยู่นะคะ เพราะเป็นการบำรุงแบบอัดแน่น ทำแบบนี้ซักสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง จะช่วยกระชับรูขุมขนได้ดีขึ้นด้วย
วิธีที่ 3 : ใช้ชุดสำลีเช็ดหน้า หรือวางไว้บนหน้า
วิธีนี้เหมาะกับคนที่อยากมาส์กหน้า แต่ไม่มีเม็ดมาส์ก ก็หยดเอสเซ้นส์ลงบนสำลีโลด แล้วก็เอามาแปะไว้บนหน้า จะทั่วหน้าก็ได้ หรือจะเฉพาะจุดที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษก็ได้ เช่น ช่วงแก้ม ที่มีรูขุมขนกว้าง หรือตรงที่มีรอบดำ รอยแดงจากสิว อะไรแบบนี้ วิธีนี้ก็สะดวกดีน้า แปะทิ้งไว้ซัก 15 นาที ทำบ่อยๆได้ผลดีนักแล
เคล็ดลับของเราคือ เราจะเอาขวดเอสเซ้นส์แช่ตู้เย็นไว้ เวลาเอามาใช้จะสดชื่นมากก ด้วยความเย็นและกลิ่นหอมอ่อนๆของเค้า รู้สึกตื่นอ่ะเวลาใช้
ราคา 590.- (จากปกติ 690.-)
ความรู้สึกหลังใช้
อยากบอกว่าอินมากๆนะ ส่วนตัวเราเป็นคนชอบสกินแคร์บำรุงผิวในรูปแบบน้ำแบบนี้อยู่แล้ว ก็จะอินมากหน่อย พอได้ลองใช้มา 2 สัปดาห์ก่อนมาเขียนรีวิวคือรู้สึกดีมาก ความรู้สึกแรกเลยคือกลิ่นหอม พอใช้ปุ๊บ มันเย็นหน้าดีมาก แต่ไม่ได้เย็นจนแสบหน้านะคะ แค่รู้สึกว่าตื่นอ่ะ
ตั้งแต่ใช้มารู้สึกว่าผิวอิ่มขึ้น ปกติเราทำงานดึกมาก เป็นธรรมดาที่หน้าจะดูอ่อนแรง ด้วยความที่ต้องการเทสว่าเค้าจะช่วยให้ผิวเราดีขึ้น ฟูขึ้นจริงมั้ย? ก็ทำทุกวิธีเลยจ้า ทั้งมาส์กแบบสำลี แบบมาส์กชีท และใช้เป็นน้ำตบ แล้วแต่วันเลยว่าสะดวกแบบไหน ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวดูสดใสขึ้น แม้ร่องรอยคล้ำแพนด้าจะยังอยู่ แต่ผิวโดยรวมคือดูอิ่มน้ำ เหมือนได้นอนพักผ่อน 5555 รอยดำสิวเรายังไม่เห็นชัดว่าจางลงมั้ย แต่หน้าไม่ค่อยมีรอยแดงสิวเท่าไหร่แล้ว ปกติผิวเราจะระคายเคืองง่ายตรงช่วงแก้ม เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีแล้ว แล้วก็สิวไม่ค่อยขึ้นแล้วนะจ๊ะ ผิวใสขึ้นด้วย
ขอบอกก่อนว่า ตัวนี้เป็นเอสเซ้นส์บำรุงหน้า เป็นส่วนนึงของการบำรุงหน้า ใครจะใช้แค่ตัวเดียวก็ได้ แต่เราจะมีเซรั่มคู่ใจ และครีมตามมาด้วยเสมอ เพื่อการบำรุงผิวแบบเต็มขั้นของเรา
ใครที่อยากผิวสวย ก็แนะนำให้มีเอสเซ้นส์ดีๆไว้เป้นขั้นตอนบำรุงผิวอีกขั้น ช่วยให้ผิวเราฟูเร็วขึ้นได้จริงๆนะ อย่าคิดว่าเอสเซ้นส์ไม่จำเป็นเชียวล่ะ ของมันต้องมีเด้อ!!!
โดยรวมเราชอบ 2 ตัวนี้นะ เราเคยได้ยินสารสกัดจากส้มยูซุและใบชิโสะแค่ในโฆษณาของญี่ปุ่น อันนี้มาอยู่ในสกินแคร์ไทยแล้ว ต้องจัดสิ่ อยากผิวดีแบบญี่ปุ่นก็จัดไป!!!
Mere Megu นี่เราว่าปลอดภัยกับคนผิวแพ้ง่ายนะ ไม่มีสารอันตรายอย่างเช่น พาราเบน สเตียร์รอยด์ แอลกอฮอล์ สารกันเสีย น้ำหอม เพราะฉะนั้นเราว่าคนผิวแพ้ง่ายมากๆก็ใช้ได้ ลองดูนะคะ
สำหรับใครที่สนใจ ลองไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Facebook :
https://www.facebook.com/MereMeguThailand/
Line @meremeguthailand
สำหรับใครที่ไม่สะดวกช้อปออนไลน์ อยากไปดูของจริง เค้าก็มีวางขายแล้วที่ Castle c สาขาสยาม นะคะ
ตอนนี้โปรด้วยน้า ลองเข้าไปดูกัน
สำหรับวันนี้ขอพอแค่นี้ก่อน
เอาไว้เจอกันใหม่กระทู้หน้านะคะ เดี๋ยวลองใช้อะไรใหม่ๆแล้วจะมาเล่าให้ฟังอีก
สวัสดีค่ะ
[SR] ผิวดีผิวสวยแบบสาวญี่ปุ่น ด้วย Mere Megu
วันนี้ทางเรามีแบรนด์นึงที่ได้ลองใช้แล้วแบบ เอ้ออ เวิร์คอ่ะ ชอบ เลยมาเล่าให้ฟังกัน จะไม่เกริ่นยาวให้รำคาญตา ไปดูรีวิวกันเลยดีกว่าค่ะ
สองตัวนี้สามารถใช้ได้กับสาวๆทุกสภาพผิวเลยนะ ไม่ว่าจะผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม หรือแม้แต่สาวๆที่ผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้ค่า ไม่ต้องกังวลใจไป
เราชอบแพคเกจเค้ามากๆเลยนะ มีความมินิมอลดี ส่วนตัวเป็นคนชอบแพคเกจที่เป็นสีขาวๆ เห็นแล้วดึงดูให้เราใช้มากอ่ะ 555 หลงรักความมินิมอล
ไปดูรีวิวแต่ละตัวกันดีกว่า
มาทำความรู้จักเค้ากันก่อน
ตัวนี้เค้าไม่ได้เป็นเจลใสๆธรรมดา แต่เป็นเจลล้างหน้าที่มีส่วนประกอบของเซราไมด์ ซึ่งจะช่วยทำให้ผิวของเรามีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้น ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ และที่สำคัญจะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวของเรา ทำให้ผิวเราดูเปล่งปลั่ง ไม่มีริ้วรอยก่อนวัยนั่นเอง และนอกจากนี้แล้วยังมีส่วนผสมของส้มยูซุ ซึ่งคนญี่ปุ่นเชื่อว่าส้มยูซุเนี้ย จะช่วยทำให้ผิวพรรณงดงาม ทำให้ผิวกระจ่างใส มีความเนียนนุ่ม สุขภาพดี แถมยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ทำให้เวลาที่เราใช้แล้วรู้สึกสดชื่นด้วยย
ตั้งแต่ลองใช้เจลล้างหน้า Mere Megu มาคือก็ยังไม่มีสิวอุดตันขึ้นนะ แสดงว่าเค้าสามารถทำความสะอาดหน้าได้อย่างสะอาดหมดจดเลยแหล่ะ
ราคา 199.- (จากปกติ 249.-)
ส่วนผสมหลักของเค้าเลยก็คือเซลาไมด์ที่พูดถึงไปเมื่อกี้นี้แล้วว่าช่วยทำให้ผิวเรานุ่ม ชุ่มชื้น และอีกตัวเด็ดก็คือใบชิโสะค่ะ ตัวนี้จะช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอย และช่วยลดรอยแดงรอยดำจากสิว แถมยังช่วยทำให้ผิวของเราแข็งแรงขึ้นอีกด้วย
มาพูดถึงวิธีใช้กันบ้าง จริงๆเค้ามีวิธีใช้หลายวิธีอยู่นะ แล้วแต่ความชอบและความสะดวกของแต่ละคนเลยค่ะ เดี๋ยวเราจะมาสาธิตให้ดูกัน
วิธีนี้เป็นวิธีที่เราชอบใช้ที่สุด เพราะสะดวก! ง่ายๆเลยค่ะ เทเอสเซ้นส์ลงบนฝ่ามือ แล้วค่อยๆตบเบาๆลงบนผิวหน้า ทางเราก็ใช้วิธีกดเบาๆตามแบบฉบับพี่เชื่อชัยเลย จากนั้นก็มีการนวดๆหยิกผิวนิดหน่อย เพราะให้เนื้อเอสเซ้นส์ซึมเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น และจะได้เป็นการเตรียมพร้อมบำรุงผิวในขั้นตอนต่อไปค่ะ
วิธีนี้เราจะใช้เวลาเราต้องการบำรุงหน้าหนักๆ แบบหน้าเหนื่อยมาทั้งวัน จะหยดเอสเซ้นส์ลงบนเม็ดมาส์กของเรา แล้วก็เอามามาส์กไว้ 10-15 นาที (บางครั้งรู้สึกมาส์กยังไม่ชุ่มพอ เราจะเทเนื้อเอสเซ้นส์ทับลงบนมาส์กไปอีกทีให้ชุ่มเลย นอนเล่นมือถือแปปเดียวก็ 15 นาทีแล้ว)
วิธีนี้เหมาะกับคนผิวแพ้ง่าย มีรอบแดง รอยดำจากสิวอยู่นะคะ เพราะเป็นการบำรุงแบบอัดแน่น ทำแบบนี้ซักสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง จะช่วยกระชับรูขุมขนได้ดีขึ้นด้วย
วิธีนี้เหมาะกับคนที่อยากมาส์กหน้า แต่ไม่มีเม็ดมาส์ก ก็หยดเอสเซ้นส์ลงบนสำลีโลด แล้วก็เอามาแปะไว้บนหน้า จะทั่วหน้าก็ได้ หรือจะเฉพาะจุดที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษก็ได้ เช่น ช่วงแก้ม ที่มีรูขุมขนกว้าง หรือตรงที่มีรอบดำ รอยแดงจากสิว อะไรแบบนี้ วิธีนี้ก็สะดวกดีน้า แปะทิ้งไว้ซัก 15 นาที ทำบ่อยๆได้ผลดีนักแล
เคล็ดลับของเราคือ เราจะเอาขวดเอสเซ้นส์แช่ตู้เย็นไว้ เวลาเอามาใช้จะสดชื่นมากก ด้วยความเย็นและกลิ่นหอมอ่อนๆของเค้า รู้สึกตื่นอ่ะเวลาใช้
ราคา 590.- (จากปกติ 690.-)
อยากบอกว่าอินมากๆนะ ส่วนตัวเราเป็นคนชอบสกินแคร์บำรุงผิวในรูปแบบน้ำแบบนี้อยู่แล้ว ก็จะอินมากหน่อย พอได้ลองใช้มา 2 สัปดาห์ก่อนมาเขียนรีวิวคือรู้สึกดีมาก ความรู้สึกแรกเลยคือกลิ่นหอม พอใช้ปุ๊บ มันเย็นหน้าดีมาก แต่ไม่ได้เย็นจนแสบหน้านะคะ แค่รู้สึกว่าตื่นอ่ะ
ตั้งแต่ใช้มารู้สึกว่าผิวอิ่มขึ้น ปกติเราทำงานดึกมาก เป็นธรรมดาที่หน้าจะดูอ่อนแรง ด้วยความที่ต้องการเทสว่าเค้าจะช่วยให้ผิวเราดีขึ้น ฟูขึ้นจริงมั้ย? ก็ทำทุกวิธีเลยจ้า ทั้งมาส์กแบบสำลี แบบมาส์กชีท และใช้เป็นน้ำตบ แล้วแต่วันเลยว่าสะดวกแบบไหน ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวดูสดใสขึ้น แม้ร่องรอยคล้ำแพนด้าจะยังอยู่ แต่ผิวโดยรวมคือดูอิ่มน้ำ เหมือนได้นอนพักผ่อน 5555 รอยดำสิวเรายังไม่เห็นชัดว่าจางลงมั้ย แต่หน้าไม่ค่อยมีรอยแดงสิวเท่าไหร่แล้ว ปกติผิวเราจะระคายเคืองง่ายตรงช่วงแก้ม เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีแล้ว แล้วก็สิวไม่ค่อยขึ้นแล้วนะจ๊ะ ผิวใสขึ้นด้วย
ขอบอกก่อนว่า ตัวนี้เป็นเอสเซ้นส์บำรุงหน้า เป็นส่วนนึงของการบำรุงหน้า ใครจะใช้แค่ตัวเดียวก็ได้ แต่เราจะมีเซรั่มคู่ใจ และครีมตามมาด้วยเสมอ เพื่อการบำรุงผิวแบบเต็มขั้นของเรา
Mere Megu นี่เราว่าปลอดภัยกับคนผิวแพ้ง่ายนะ ไม่มีสารอันตรายอย่างเช่น พาราเบน สเตียร์รอยด์ แอลกอฮอล์ สารกันเสีย น้ำหอม เพราะฉะนั้นเราว่าคนผิวแพ้ง่ายมากๆก็ใช้ได้ ลองดูนะคะ
สำหรับใครที่สนใจ ลองไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/MereMeguThailand/
Line @meremeguthailand
สำหรับใครที่ไม่สะดวกช้อปออนไลน์ อยากไปดูของจริง เค้าก็มีวางขายแล้วที่ Castle c สาขาสยาม นะคะ
ตอนนี้โปรด้วยน้า ลองเข้าไปดูกัน
สำหรับวันนี้ขอพอแค่นี้ก่อน
เอาไว้เจอกันใหม่กระทู้หน้านะคะ เดี๋ยวลองใช้อะไรใหม่ๆแล้วจะมาเล่าให้ฟังอีก
สวัสดีค่ะ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้