คุมตัวผู้ต้องหาฆ่าเผาสาวอายุ 18 ปี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ


        ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาฆ่าเผาสาวอายุ 18 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ยังยืนยัน ก่อเหตุคนเดียวเพราะต้องการชิงทรัพย์เหยื่อ ขณะเจ้าหน้าที่จัดกำลังคุมเข้ม ป้องกันเหตุบานปลายไม่คาดฝัน

        คืบหน้ากรณีมีผู้พบศพนางสาวจรินยา ช่วยพยัคฆ์ อายุ 18 ปี บริเวณคูน้ำริมถนน พื้นที่ตำบลช้างขวา อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี สภาพศพถูกเผาไหม้เกรียม พร้อมรถจักรยานยนต์ทับร่างอยู่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา

        กระทั่งตำรวจขออนุมัติศาลออกหมายจับ นายพีระพล นวลเสน่ห์ หรือฤทธิ์ อายุ 27 ปี หนุ่มเพื่อนบ้าน หลังพบว่าเป็นคนร้ายตัวจริง เบื้องต้น นายพีระพล ยอมเปิดปากให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆ่าเผาร่าง นางสาวจรินยา จริง โดยทำเพียงคนเดียว อ้างว่าสาเหตุที่ทำลงไป เพราะต้องการชิงทรัพย์เหยื่อ  จึงแจ้งข้อหาชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ
      
        จุดแรกที่นำตัวไปทำแผนฯ คือริมถนนห้วยโศก-ห้วยลึก ซึ่งเป็นจุดที่พบศพนางสาวจรินยา ลักษณะถูกไฟเผาไหม้เกรียมทั้งตัว โดยในจุดนี้เป็นจุดที่นายพีระพล ผู้ต้องหามาดักรอนางสาวจรินยา และพยายามจะชิงสร้อยคอทองคำ แต่เหยื่อต่อสู้ขัดขืน จึงใช้เท้าถีบจนร่างตกลงไปในร่องน้ำข้างถนน และตามลงไปชกที่ใบหน้าอีกหลายครั้ง และบีบคอจนตายคามือ ก่อนที่จะปลดสร้อยคอทองคำ และแหวนของผู้ตายและนำรถจักรยานยนต์ของผู้ตาย ผลักล้มลงไปทับร่าง ก่อนนำทรัพย์สินไปขายที่ร้านทองแล้วกลับมาอยู่ที่บ้าน แล้วย้อนกลับมาตรงจุดเกิดเหตุในช่วงเวลา 23.00 น. ของวันที่ 13 พฤษภาคม โดยใช้น้ำมันราดก่อนจุดไฟเผาซ้ำเพื่อที่จะทำลายหลักฐาน และอำพรางคดี

        โดยระหว่างการทำแผน มีสามี ญาติฝั่งสามี ญาติผู้เสียชีวิต และชาวบ้านในพื้นที่จำนวนมากมามุงดู เจ้าหน้าที่จึงต้องจัดกำลังคุมเข้ม กระทั่งทำแผนเสร็จระหว่างจะนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถตู้กลับก็เกิดเหตุการณ์ชุลมุน ชาวบ้านพยามตบตีรถที่บรรทุกผู้ต้องหา แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้

        ส่วนอีกจุดที่นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนฯ คือที่ร้านทองริมถนนสุราษฎร์ธานี-นาสาร เขตเทศบาลตำบลขุนทะเลและเป็นร้านที่นายพีระพล นำทรัพย์สินของเหยื่อไปขายจากนั้นนำกลับไปควบคุมตัว ที่ สภ.กาญจนดิษฐ์เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป





ตอนแรกต่างพุ่งข้อสงสัยไปที่สามีผู้ตาย แต่พอสืบคดีจริงๆ กลับเป็นคนข้างบ้านไปได้ สังคมทุกวันนี้รู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ 
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ข่าวออนไลน์ รายการข่าว
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่