วันนี้มารีวิวการปรับปรุงบ้านของตัวเองในส่วนของการติดตั้งหน้าต่างไม้ด้วยขนาดของหน้าต่างที่ไม่ได้มาตรฐาน (ที่เขามีขายทั่ว ๆ ไป) นะครับ เผื่อจะมีประโยชน์สำหรับท่านที่จะปรับปรุงบ้าน

ตอนนี้ผมปลูกบ้านมาได้สองปีแล้ว ก็ค่อย  ๆ ปรับปรุงแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกันไป ตอนนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นคือครัวไฟชั้นบนของบ้านที่ต่อออกมาจากเกย เป็นช่องลมขนาดใหญ่ เอาไว้ให้ลมผ่านทะลุได้ หากฝนตกผมจะกางผ้าใบม้วนลงมาปิด เดิมเป็นแบบนี้


เมื่อต้นปีนี้ ภรรยาอยากได้ครัวแยกออกมาต่างหากจากเรือนใหญ่ ครัวไฟเดิมก็เปลี่ยนจากทำกับข้าวมาเอาไว้นั่งเล่นกินกาแฟ นั่งทำงาน แต่ก็ยังคงสภาพของครัวอยู่ พื้นที่ตรงนี้กลายเป็นแบบนี้


ทีนี้ช่องว่างตรงนี้อยู่ตรงทิศใต้ เวลาฝนฟ้ามาแรง ๆ บางครั้งผ้าใบเอาไม่อยู่ครับ เคยถูกลมพัดตีขาดไปครั้งหนึ่ง บางทีคุณยายเดินขึ้นไปกางผ้าใบไม่ทันก็มี ผมจึงคิดที่จะเปลี่ยนช่องว่างตรงนี้ให้เป็นหน้าต่าง

แต่โจทย์ของผมก็คือ ผมชอบความโล่ง ชอบที่มีลมพัดเย็นสบาย ดังนั้นหน้าต่างที่จะทำเมื่อติดแล้ว เวลาเปิด ลมจะต้องพัดเข้ามาไม่ต่างจากเดิม 

จริง ๆ แล้ว หน้าต่างที่น่าจะเข้ากับสไตล์ของบ้านผมน่าจะเป็นหน้าต่างลูกฟัก แต่หน้าต่างลูกฟักมันระบายลมไม่ได้ ปิดทึบอยู่ตลอด ผมจึงออกแบบหน้าต่างให้เป็นบานใบปรือ คือเป็นบานที่มีไส้เป็นไม้เหมือนบานเกล็ด ทำให้ลมสามารถพัดผ่านได้ แม้บานจะปิดอยู่ก็ตาม

คิดได้ดั้งนั้น ผมก็จัดการวัดขนาดช่องว่างตรงนี้ ได้ขนาด กว้าง 230 ซม. สูง 130 ซม. กำหนดหน้าต่างเป็น 6 บาน แล้วไปหาร้านไม้เจ้าประจำสั่งทำ ไม้ที่ใช้เป็นไม้แดงเก่า (แต่วงกบเป็นไม้เต็ง) ร้านตีราคามาให้อยู่ที่ 6,500 บ. ใช้เวลาทำประมาณ 5 วัน ก็เสร็จเรียบร้อย


จากนั้นก็เรียกลุง ซึ่งเป็นช่างประจำบ้านมาจัดการติดตั้งตรงช่องลมเดิม ผมถอดราวระเบียงเดิมออกไป 1 ช่อง เพื่อให้ความสูงเพิ่มขึ้น ลมจะได้พัดผ่านได้เหมือนเดิม 


ลุงจัดการตีโครงคร่าวช่องด้านล่างที่เหลือ เพื่อเอาไม้ฝาเก่ามาตีซ้อนเกล็ดตรงนี้เพื่อป้องกันน้ำฝนจากหลังคาครัวกระเด็นเข้ามา และก็ติดวงกบ

จากนั้นก็ปรับบานแล้วติดตั้งบานพับ กลอน ขอเกี่ยวหน้าต่าง

สีที่ใช้ทา ผมตัดสินใจใช้ Teak oil ทา เพราะอยากให้มีความเป็นไม้มากที่สุด แถมไม่ต้องใช้ฝีมืออะไรเลย จึงลงมือทาเสียเอง และจะต้องทาแบบนี้ทุก ๆ 6 เดือน แต่ก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรครับ ผมทาแค่ 20 นาทีเท่านั้นเองก็เสร็จเรียบร้อย
เสร็จสิ้นเรียบร้อย 
ท่อท่อ pvc นี่คือทางระบายน้ำฝนจากหลังคาเรือนใหญ่ ปกติผมจะถอดออกในฤดูหนาวและฤดูร้อน ตอนนี้เข้าหน้าฝนแล้วจึงต้องติดไว้ก่อน
ไหน ๆ ก็เอาลุงมาแล้ว ให้ลุงแก้ไขบันไดอีสานให้ด้วยเลย ของเดิมลูกบันไดมันเอียงตามแม่บันได เดินขึ้นลงยาก พอดีมีไม้เก็บไว้อยู่จึงแก้เสียใหม่

ของเดิมเป็นแบบนี้
แก้ไขใหม่ ขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย ทาที๊คออยส์เช่นเดียวกัน
บันไดอีสานตรงนี้ แรก ๆ ตอนปลูกบ้านใหม่ ๆ คนที่บ้านก็สงสัยนะครับว่าทำไปทำไม แต่สุดท้าย "ทุกคนก็ใช้มัน" เพราะมันก็สะดวกจริง ๆ เวลาจะขึ้นลงบ้านในบางเวลา จุดประสงค์จริง ๆ ที่ผมทำคือเอาไว้ตกแต่งเท่านั้นแหละ แต่ดันมีประโยชน์จริง

หมดค่าช่างไปทั้งสิ้น 1400 บ. ครับ 

หวังว่าคงจะมีประโยชน์กับผู้ที่สนใจครับ 
สวัสดีครับ