สวัสดีค่ะ เราอยากจะแชร์ประสบการณ์ (ที่ไม่ดี) ให้เพื่อนๆได้ฟังค่ะ
ออกแนวบ่นๆ พูดคุยกัน อาจยาวไปจนคนขี้เกียจอ่าน แต่เผื่อเพื่อนๆอ่านอาจจะได้เตือนสติตัวเองให้ระวังตัวเองดีๆ
ต้องรับมือได้ทุกสถานการณ์ อ่านไว้เป็นอุทาหรณ์นะคะ
เราขอแทนตัวเองว่า Z นะคะ
เราเป็นคนที่หน้าตาค่อนข้างธรรมดา อวบๆแบบไม่มีหน้าอก หน้าจีนหน่อยๆ ผิวขาวเหลือง
สูงประมาณ160 ค่ะ และไม่ค่อยแต่งหน้า แต่งตัวค่ะ อาจจะมีแป้งตลับกับลิปมันนิดหน่อย
แต่ไม่รู้ทำไมชอบดึงดูดพวกโรคจิต กับพวกผู้ชายไม่รู้จักพอ
ทั้งๆที่แบบไม่น่ามีอะไรดึงดูดเลย อาจจะเพราะหน้าโง่ๆดูหลอกง่ายมั้งคะ 55555555
มาเข้าเรื่องกันดีกว่า Z ขอแทนผู้ชายโรคจิตว่า Type 1 ส่วนผู้ชายไม่รู้จักพอคือ Type 2 ค่ะ
มันเรื่องนานมาแล้ว อาจจะจำไม่ได้ 100 % นะคะ
เริ่มจากตอนเราไปต่างประเทศไปเรียนภาษาระยะสั้นประมาณ 3 เดือนกับกลุ่มเพื่อนๆพี่ๆในมหาลัยค่ะ
ซึ่ง ณ ที่แห่งนี้เราได้เจอ ผู้ชาย Type 1 จำนวน 3 คน
คนแรก เรานัดพี่ๆไว้ที่เมืองหนึ่งค่ะ โดยนั่งรถไฟไปและลงที่สถานีเมืองนั้น
ซึ่งคนเยอะมากๆ ระหว่างที่เรากำลังเดินหาทางออกจากสถานี รู้สึกเหมือนมีคนมาจับก้น
ตอนแรกเราก็คิดว่าคงคิดไปเอง เลยหันไปมอง มันมองหน้าค่ะ มองแล้วยิ้มด้วย
ยิ้มหวานมาก เราตกใจรีบเดินไปหากลุ่มพี่ๆ มันก็ไม่ได้ตามมานะคะ
เราก็มานั่งคิดการแต่งตัวนี่แบบพนักงานบริษัท ดูภูมิฐาน หน้าตาก็ดูดี
อายุน่าจะประมาณ 30 ได้ ไม่น่าโรคจิตเลย เวรร
คนที่ 2 เราไปเดินแถวย่านตู้เกม กับตู้จับตุ๊กตา กับเพื่อนและพี่ในกลุ่มค่ะ
ต่างคนก็ต่างแยกออกไปดูเกม ดูตุ๊กตา เราก็ไปหยุดที่ตู้ตุ๊กตาตู้หนึ่ง
ซักพักมีคนมายืนข้างๆ นี่ก็นึกว่าจะจับตุ๊กตา
เลยเดินไปดูอีกตู้ ซักพักเดินมาหยุดอยู่ข้างๆอีก เราก็แบบชักยังไงๆละ
เลยเดินที่ตู้ที่ไกลๆหน่อย มันเดินตามมาหยุดข้างๆอีก ชัดเจน....
เหยื่ออีกแล้วหรอวะ!!!!
เราเลยเดินหนี มันก็อ้อมมาดักหน้า เรารีบเดินไปที่คนเยอะๆ ทำเป็นดูคนอื่นเล่นเกม
คราวนี้สะกิดเลยจ้ะ แปลได้ใจความว่า
“มาคนเดียวรึเปล่าครับ ไปกับผมได้ไหม?”
เราก็แบบอึ้งไปแปป ก่อนทำหน้างงทำเป็นฟังไม่ออก
นางก็พยายามพูดภาษาอังกฤษใส่เรา ว่ามาคนเดียวรึเปล่า พร้อมภาษามือ เหงื่ออินี่เริ่มแตกพลั่กแล้วค่ะ
ฮือ... ใครก็ได้ช่วยหนูที ;-;
ทันใดนั้น กลุ่มพี่ที่มาด้วยกัน เดินมาพอดี เรารีบหันไปส่ายหน้าพร้อมชี้ไปที่กลุ่มพี่ๆบอกใบ้ว่าไม่ได้มาคนเดียว
ละวิ่งหน้าตั้งไปหาพี่ๆเลยค่ะ โดนพี่ๆว่าตามระเบียบที่ออกไปคนเดียว
(ที่เราไม่โทรเพราะไม่มีเน็ตค่ะของต่างประเทศค่ะ ใช้ wifi ที่พัก กับ wifi ฟรีตามที่ต่างๆอย่างเดียว)
คิดไปคิดมาไม่รู้รายนี้กะชวนคุยเฉยๆหรือเปล่า แต่ตอนนั้นกลัวจริงๆค่ะ 555555
ถ้าแค่ชวนคุยเฉยๆก็ขอโทษจริงๆนะคะ
ส่วนคนที่ 3 เป็นคนที่ 1 กับ คนที่ 2 เทียบไม่ติดเลยค่ะ 5555555
เค้าเป็นพี่ที่มารู้จักกันตอนเรียนโรงเรียนสอนภาษา แต่ไม่ใช่กลุ่มมหาลัยเรา
และอยู่หอเดียว ชั้นเดียวกับเราค่ะ ขอแทนว่า พี่ A
(มีแค่ 2 คนในมหาลัยที่อยู่หอนี้ค่ะ นอกนั้นกระจายไปตามหอต่างๆ
เพราะมหาลัยเป็นคนจัดหาหอให้ ใครจองก่อนได้ก่อนค่ะ เพื่อนที่อยู่หอเดียวกับเราอยู่ชั้น
3 เราอยู่ชั้น 6 ถ้าจำไม่ผิดนะ) ซึ่งทำเลที่ตั้งห้องพี่ A จะอยู่ตรงข้ามลิฟต์พอดี
ส่วนห้องเราต้องเดินไปเกือบสุดทาง
เพราะอยู่หอเดียวกันทำให้เดินไปโรงเรียนด้วยกันบ่อยๆ เลยสนิทกัน ถือว่าเป็นพี่ที่เคารพคนนึงค่ะ
แต่อยู่ดีๆ รุ่นพี่ที่มหาลัยบอก
“เออเนี่ย เมื่อกี๊มีพี่คนนึง ตอน Z ไม่อยู่เดินมามองที่ที่ Z นั่ง เหมือนหา Z อยู่ บ่อยมากเลยนะ ยังไงก็ระวังตัวไว้ด้วยละกัน”
เราก็บอกพี่ไปว่า
“อ๋อ ไม่เป็นไรหรอกมั้งพี่ รู้จักกันอยู่ คนรู้จักกันมองหากัน ก็คงไม่แปลกอ่ะเนอะ“
รุ่นพี่ก็พยักหน้าแบบ ก็แล้วแต่จ้า
จนกระทั่งวันนึง เหตุการณ์แรกได้เกิดขึ้นมา เราก็ออกไปซื้อของธรรมดาในวันหยุด แต่วันถัดไปนี่แหละที่ไม่ธรรมดา
คือพี่ A เจอเรา ก็ทักเรา
“อ้าว น้อง Z เมื่อวานไปไหนมาหรอครับ? พี่ได้ยินฝีเท้าแล้วรู้เลยว่าเป็นน้อง Z”
เราก็-จุด ....ฝีเท้า..... คือพี่แค่ได้ยินฝีเท้าแล้วรู้ว่าเป็นเราเนี่ยนะ!
เราก็พยายามนึกเป็นเรื่องขำๆ ตอบกลับไปว่า
“ไปซื้อของค่ะ”
คราวนี้มาเหตุการณ์ที่ 2 เป็นวันหยุดอีกแล้วค่ะ รุ่นพี่กับเพื่อนที่มหาลัยมาหอเรา 2-3 คน
มานั่งเล่นเกม ก็เล่นกันไปยาวๆ อาจมีเสียงดังบ้างนิดหน่อยตามสไตล์คนเล่นเกมตบตีกัน 55555
และวันถัดมาอีกแล้วเช่นกัน
พี่ A แกมาทัก
“อ้าว สวัสดีครับ น้อง Z เมื่อวานใครมาหรอครับเสียงดังจังเลย พี่ไปแอบฟังที่ประตูอยู่”
เรา-จุดรอบ 2 กับคำว่า พี่แอบฟังที่ประตูอยู่
เฮ้ยยยยย!
แปปปนะ!
แล้วพี่จะมาเดินมาฟังอะไรที่ห้องหนูวะคะเนี่ย!! พระเจ้าช่วยกล้วยทอด จอร์จตกใจ
ตกใจจริงๆนะ 55555 ห้องพี่กับหนูก็ไม่ได้อยู่ใกล้กัน แถมไม่ได้เป็นทางผ่านพี่ด้วย มาตำไมอ่ะ T^T
แต่เราก็ตอบเรียบๆว่า
“อ๋ออ พี่ๆมาเล่นเกมกันค่ะ” แค่นั้น
แล้วเอาไปเล่าให้กลุ่มรุ่นพี่ฟัง พี่เค้าก็บอกว่า ชักไม่ดีแล้วนะ
ทำไมต้องมาแอบฟังที่ห้อง เราก็เริ่มซีดๆค่ะ
นอกจากนี้ เราเลยชักระแวงไปใหญ่ สังเกตว่าทำไมถึงออกไปโรงเรียนพร้อมกันค่อนข้างบ่อยอยู่
เราเลยลองออกช้ากว่าปกติดู อย่างที่บอกว่าห้องพี่ A อยู่ตรงข้ามกับลิฟท์
เราต้องผ่านห้องพี่แกอยู่แล้ว ก่อนผ่าน เราเลยมองลอดไปที่ใต้ห้องประตูพี่ A ก็เห็นเป็นเงาๆอยู่
พอเดินผ่าน พี่แกเปิดประตูออกมากับประโยคคู่ใจ
“อ้าว สวัสดีครับ น้อง Z"
เป็นแบบที่เราคิดใช่มั้ยวะ 5555 พอลองออกเร็วก็ไม่ต่างกันค่ะ เจอพี่แกดักรอ
ตั้งแต่นั้น รุ่นพี่ที่มหาลัยเค้าก็เลยออกเช้าๆ อาสามารับเราที่หอก่อน จนกลับไทยค่ะ
//มีคนมองว่าเค้ามาจีบเราเปล่า อาจไม่ใช่โรคจิต ก็อาจจะเป็นอย่างนั้นนะคะ
แต่ยังไงช่วยออกมาคุยแบบปกติดีกว่าค่ะ ทำแบบนี้สาวๆกลัวหมดเน้อ
คนที่ 4 ขอแทนว่าพี่ B เป็นผู้ชาย Type 2 ค่ะ แต่คิดว่ามี Type 1 ผสมด้วย
พี่ B เป็นเจ้าของร้านกาแฟแถวบ้านค่ะ ซึ่งพี่แกก็แต่งงานแล้ว มีภรรยา แต่ยังไม่มีลูก
Timeline น่าจะอยู่ช่วงปี 4 – ทำงานที่แรก
คือ ตอนเข้าร้านครั้งแรก เราก็สั่งเครื่องดื่มมากินปกติ
ส่วนพี่แกก็มองเราละบอกว่า
“เราชื่ออะไรหรอ? ชอบมองเรานะ น่ารักดี มองแล้วสบายใจ”
เราก็ยิ้มๆเฉยๆ บอกชื่อไป คิดแค่ว่าเป็นการเรียกลูกค้าเท่านั้นค่ะ
แล้วร้านพี่ B นอกจากเป็นร้านกาแฟ ยังมีอาหารตามสั่งขายด้วยค่ะ
บ้านเราชอบไปกินบ่อยๆ และเหตุนี้แหละ ทำให้มีไลน์พี่ B เพราะแม่จะใช้เราให้สั่งอาหาร
ช่วงแรกๆ ก็มีแต่แบบเมื่อไหร่จะมาอีก น้อง Z น่ารักจัง อะไรงี้ค่ะ
จนกระทั่งวันหนึ่ง มีไลน์มาจากพี่ B
"ที่ร้านพี่มีกากกาแฟนะ อยากได้มั้ย? พี่ให้"
เราก็นึกขึ้นได้ว่า เออ คราวก่อน พี่ B ก็ให้กากกาแฟแม่มา เอามาให้แม่ก็ดี
"ก็ได้ค่ะ งั้นเดี๋ยววันนี้ Z ไปเอาที่ร้านพี่ละกันนะคะ"
แต่คำตอบที่ได้กลับมาคือ พี่แกจะไม่ให้เรามาเอาที่ร้าน แต่จะให้นัดเจอที่อื่น เปิดห้องผสมกากกาแฟ
และขัดผิวให้เราค่ะ!
เราคิดได้แค่ว่า ไอ่ Here 555555
พยายามเลี่ยงบอก ไม่สะดวกบ้าง แม่มารับบ้าง ไปเอาที่ร้านดีกว่า พี่แกก็ไม่ยอมค่ะ
บอก ไม่เป็นไร พี่รอได้ อยากเจอน้อง Z เราก็ไม่เคยไปตามนัดเลยค่ะ เพราะน่ากลัวจัด
แต่ยังคงไปกินร้านพี่ B พร้อมกับครอบครัวอยู่ ไม่ได้เล่าอะไรให้ให้แม่ฟัง
กลัวแม่วีนแตกค่ะ แม่ขี้ห่วง และหวงเรามาก ไม่อยากให้ท่านคิดมากด้วย
เราแค่กันตัวเองออกมาพอ พี่แกก็ทวงบ่อยค่ะ ทวงจนเรารำคาญ
เห็นเป็นพี่ เลยพยายามประนีประนอม
จนเราทนไม่ไหวบอกไปว่า
Z – พี่ทำอย่างนี้ ไม่กลัวเมียพี่เสียใจบ้างเหรอ?
B – พี่ล้อเล่นเอง
จบแค่นั้นค่ะ ไม่ชวนเราไปขัดผิวแล้ว 555555
แต่มี Behind the Scenes อีกนิดหน่อย
ตรงที่เราสังเกตว่าแม่ไม่ค่อยไปร้านนั้นช่วงหลังๆ นอกจากคิดไม่ออกว่าจะกินอะไรดี
จนช่วงจบมาแล้ว 3 ปี เรามีโอกาสได้เล่าให้แม่ฟังว่า เจออะไรมาบ้าง
พอมาเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง แม่บอกแม่ก็โดนเหมือนกันจากพี่ B แม่เลยไม่ค่อยไป
เราแบบ
โห ได้หมด ถ้าสดชื่นจริงๆ ไอ่พี่ B ปวดกบาล....
คนที่ 5 พี่ที่ทำงานที่แรกค่ะ ขอแทนว่าพี่ C อยู่ใน Type 2 คนนี้ไม่มีไรมาก ว่ากันไปตาม Type คือ ม่อ ค่ะ
มีเมีย มีลูกแล้ว แต่ทำตัวเป็นคนโสด มีคนบอกว่าพี่แกหน้าตาดีนะ มีสาวๆกรี๊ดเยอะ แต่หวยดันมาตกที่เราเฉย
ชอบมาเกาะแกะเรา ทำเป็นจะมากอด ไรงี้
ละพี่เค้าเป็นคนขับรถรถตู้ที่สำนักงาน เราต้องออกไปนอกสถานที่บ่อยๆ เค้าก็เป็นคนขับ
ส่วนมากจะไปเป็นกลุ่ม แต่บางทีเราโดนกลับมาคนเดียวบ้าง เลยอยู่กับพี่แก 2 คน
(เราไม่ค่อยกลัวว่าพี่จะออกนอกทาง เพราะในรถมี GPS ค่ะ)
พี่แกก็บอก
C – รักหนูนะ หนูรักพี่มั้ย?
Z – ไม่อ่ะ พี่มีเมียมีลูกแล้ว พี่ก็ไปบอกรักเมียรักลูกพี่สิ
C –ถ้าเรารักกันก็ไม่เห็นต้องคิดอะไรมาก
Z – (คิดสิ ไอ่......) ไม่เอาอ่ะค่ะ หนูไม่ชอบ
C – น่า หนูไม่รักพี่จริงๆหรอ @#C*+>)X&#$
เราก็แกล้งหลับค่ะ ไม่ฟัง ลำไย 555555
จนพี่ๆที่ทำงานเค้าสังเกตเห็นเค้าชอบมาเกาะแกะเรา
พี่เค้าก็บอกไปว่า
"ไอ่ C อย่าไปยุ่งกับน้อง Z นะ ไม่งั้นจะโดน"
คิดว่าฟังมั้ย? ไม่ฟังค่ะ
เราก็ทำเมินต่อไป เพราะเราไม่กล้าพูดอะไรมาก
-----------------------------------------------------------------------
จบไปแล้ว 5 คน กับความบรรลัยในชีวิต Z ซึ่ง 5 คนนี้ยังไม่สุดค่ะ มีสุดกว่านี้ 5555555
เดี๋ยว Z จะเล่าต่อไปเม้นถัดไปนะคะ
อภิมหากาพย์บรรดาผู้ชายโรคจิตกับผู้ชายไม่รู้จักพอ (คำเตือน : เวิ่นเว้อและยาวจัด)
ออกแนวบ่นๆ พูดคุยกัน อาจยาวไปจนคนขี้เกียจอ่าน แต่เผื่อเพื่อนๆอ่านอาจจะได้เตือนสติตัวเองให้ระวังตัวเองดีๆ
ต้องรับมือได้ทุกสถานการณ์ อ่านไว้เป็นอุทาหรณ์นะคะ
เราขอแทนตัวเองว่า Z นะคะ
เราเป็นคนที่หน้าตาค่อนข้างธรรมดา อวบๆแบบไม่มีหน้าอก หน้าจีนหน่อยๆ ผิวขาวเหลือง
สูงประมาณ160 ค่ะ และไม่ค่อยแต่งหน้า แต่งตัวค่ะ อาจจะมีแป้งตลับกับลิปมันนิดหน่อย
แต่ไม่รู้ทำไมชอบดึงดูดพวกโรคจิต กับพวกผู้ชายไม่รู้จักพอ
ทั้งๆที่แบบไม่น่ามีอะไรดึงดูดเลย อาจจะเพราะหน้าโง่ๆดูหลอกง่ายมั้งคะ 55555555
มาเข้าเรื่องกันดีกว่า Z ขอแทนผู้ชายโรคจิตว่า Type 1 ส่วนผู้ชายไม่รู้จักพอคือ Type 2 ค่ะ
มันเรื่องนานมาแล้ว อาจจะจำไม่ได้ 100 % นะคะ
เริ่มจากตอนเราไปต่างประเทศไปเรียนภาษาระยะสั้นประมาณ 3 เดือนกับกลุ่มเพื่อนๆพี่ๆในมหาลัยค่ะ
ซึ่ง ณ ที่แห่งนี้เราได้เจอ ผู้ชาย Type 1 จำนวน 3 คน
คนแรก เรานัดพี่ๆไว้ที่เมืองหนึ่งค่ะ โดยนั่งรถไฟไปและลงที่สถานีเมืองนั้น
ซึ่งคนเยอะมากๆ ระหว่างที่เรากำลังเดินหาทางออกจากสถานี รู้สึกเหมือนมีคนมาจับก้น
ตอนแรกเราก็คิดว่าคงคิดไปเอง เลยหันไปมอง มันมองหน้าค่ะ มองแล้วยิ้มด้วย
ยิ้มหวานมาก เราตกใจรีบเดินไปหากลุ่มพี่ๆ มันก็ไม่ได้ตามมานะคะ
เราก็มานั่งคิดการแต่งตัวนี่แบบพนักงานบริษัท ดูภูมิฐาน หน้าตาก็ดูดี
อายุน่าจะประมาณ 30 ได้ ไม่น่าโรคจิตเลย เวรร
คนที่ 2 เราไปเดินแถวย่านตู้เกม กับตู้จับตุ๊กตา กับเพื่อนและพี่ในกลุ่มค่ะ
ต่างคนก็ต่างแยกออกไปดูเกม ดูตุ๊กตา เราก็ไปหยุดที่ตู้ตุ๊กตาตู้หนึ่ง
ซักพักมีคนมายืนข้างๆ นี่ก็นึกว่าจะจับตุ๊กตา
เลยเดินไปดูอีกตู้ ซักพักเดินมาหยุดอยู่ข้างๆอีก เราก็แบบชักยังไงๆละ
เลยเดินที่ตู้ที่ไกลๆหน่อย มันเดินตามมาหยุดข้างๆอีก ชัดเจน....
เหยื่ออีกแล้วหรอวะ!!!!
เราเลยเดินหนี มันก็อ้อมมาดักหน้า เรารีบเดินไปที่คนเยอะๆ ทำเป็นดูคนอื่นเล่นเกม
คราวนี้สะกิดเลยจ้ะ แปลได้ใจความว่า
“มาคนเดียวรึเปล่าครับ ไปกับผมได้ไหม?”
เราก็แบบอึ้งไปแปป ก่อนทำหน้างงทำเป็นฟังไม่ออก
นางก็พยายามพูดภาษาอังกฤษใส่เรา ว่ามาคนเดียวรึเปล่า พร้อมภาษามือ เหงื่ออินี่เริ่มแตกพลั่กแล้วค่ะ
ฮือ... ใครก็ได้ช่วยหนูที ;-;
ทันใดนั้น กลุ่มพี่ที่มาด้วยกัน เดินมาพอดี เรารีบหันไปส่ายหน้าพร้อมชี้ไปที่กลุ่มพี่ๆบอกใบ้ว่าไม่ได้มาคนเดียว
ละวิ่งหน้าตั้งไปหาพี่ๆเลยค่ะ โดนพี่ๆว่าตามระเบียบที่ออกไปคนเดียว
(ที่เราไม่โทรเพราะไม่มีเน็ตค่ะของต่างประเทศค่ะ ใช้ wifi ที่พัก กับ wifi ฟรีตามที่ต่างๆอย่างเดียว)
คิดไปคิดมาไม่รู้รายนี้กะชวนคุยเฉยๆหรือเปล่า แต่ตอนนั้นกลัวจริงๆค่ะ 555555
ถ้าแค่ชวนคุยเฉยๆก็ขอโทษจริงๆนะคะ
ส่วนคนที่ 3 เป็นคนที่ 1 กับ คนที่ 2 เทียบไม่ติดเลยค่ะ 5555555
เค้าเป็นพี่ที่มารู้จักกันตอนเรียนโรงเรียนสอนภาษา แต่ไม่ใช่กลุ่มมหาลัยเรา
และอยู่หอเดียว ชั้นเดียวกับเราค่ะ ขอแทนว่า พี่ A
(มีแค่ 2 คนในมหาลัยที่อยู่หอนี้ค่ะ นอกนั้นกระจายไปตามหอต่างๆ
เพราะมหาลัยเป็นคนจัดหาหอให้ ใครจองก่อนได้ก่อนค่ะ เพื่อนที่อยู่หอเดียวกับเราอยู่ชั้น
3 เราอยู่ชั้น 6 ถ้าจำไม่ผิดนะ) ซึ่งทำเลที่ตั้งห้องพี่ A จะอยู่ตรงข้ามลิฟต์พอดี
ส่วนห้องเราต้องเดินไปเกือบสุดทาง
เพราะอยู่หอเดียวกันทำให้เดินไปโรงเรียนด้วยกันบ่อยๆ เลยสนิทกัน ถือว่าเป็นพี่ที่เคารพคนนึงค่ะ
แต่อยู่ดีๆ รุ่นพี่ที่มหาลัยบอก
“เออเนี่ย เมื่อกี๊มีพี่คนนึง ตอน Z ไม่อยู่เดินมามองที่ที่ Z นั่ง เหมือนหา Z อยู่ บ่อยมากเลยนะ ยังไงก็ระวังตัวไว้ด้วยละกัน”
เราก็บอกพี่ไปว่า
“อ๋อ ไม่เป็นไรหรอกมั้งพี่ รู้จักกันอยู่ คนรู้จักกันมองหากัน ก็คงไม่แปลกอ่ะเนอะ“
รุ่นพี่ก็พยักหน้าแบบ ก็แล้วแต่จ้า
จนกระทั่งวันนึง เหตุการณ์แรกได้เกิดขึ้นมา เราก็ออกไปซื้อของธรรมดาในวันหยุด แต่วันถัดไปนี่แหละที่ไม่ธรรมดา
คือพี่ A เจอเรา ก็ทักเรา
“อ้าว น้อง Z เมื่อวานไปไหนมาหรอครับ? พี่ได้ยินฝีเท้าแล้วรู้เลยว่าเป็นน้อง Z”
เราก็-จุด ....ฝีเท้า..... คือพี่แค่ได้ยินฝีเท้าแล้วรู้ว่าเป็นเราเนี่ยนะ!
เราก็พยายามนึกเป็นเรื่องขำๆ ตอบกลับไปว่า
“ไปซื้อของค่ะ”
คราวนี้มาเหตุการณ์ที่ 2 เป็นวันหยุดอีกแล้วค่ะ รุ่นพี่กับเพื่อนที่มหาลัยมาหอเรา 2-3 คน
มานั่งเล่นเกม ก็เล่นกันไปยาวๆ อาจมีเสียงดังบ้างนิดหน่อยตามสไตล์คนเล่นเกมตบตีกัน 55555
และวันถัดมาอีกแล้วเช่นกัน
พี่ A แกมาทัก
“อ้าว สวัสดีครับ น้อง Z เมื่อวานใครมาหรอครับเสียงดังจังเลย พี่ไปแอบฟังที่ประตูอยู่”
เรา-จุดรอบ 2 กับคำว่า พี่แอบฟังที่ประตูอยู่
เฮ้ยยยยย!
แปปปนะ!
แล้วพี่จะมาเดินมาฟังอะไรที่ห้องหนูวะคะเนี่ย!! พระเจ้าช่วยกล้วยทอด จอร์จตกใจ
ตกใจจริงๆนะ 55555 ห้องพี่กับหนูก็ไม่ได้อยู่ใกล้กัน แถมไม่ได้เป็นทางผ่านพี่ด้วย มาตำไมอ่ะ T^T
แต่เราก็ตอบเรียบๆว่า
“อ๋ออ พี่ๆมาเล่นเกมกันค่ะ” แค่นั้น
แล้วเอาไปเล่าให้กลุ่มรุ่นพี่ฟัง พี่เค้าก็บอกว่า ชักไม่ดีแล้วนะ
ทำไมต้องมาแอบฟังที่ห้อง เราก็เริ่มซีดๆค่ะ
นอกจากนี้ เราเลยชักระแวงไปใหญ่ สังเกตว่าทำไมถึงออกไปโรงเรียนพร้อมกันค่อนข้างบ่อยอยู่
เราเลยลองออกช้ากว่าปกติดู อย่างที่บอกว่าห้องพี่ A อยู่ตรงข้ามกับลิฟท์
เราต้องผ่านห้องพี่แกอยู่แล้ว ก่อนผ่าน เราเลยมองลอดไปที่ใต้ห้องประตูพี่ A ก็เห็นเป็นเงาๆอยู่
พอเดินผ่าน พี่แกเปิดประตูออกมากับประโยคคู่ใจ
“อ้าว สวัสดีครับ น้อง Z"
เป็นแบบที่เราคิดใช่มั้ยวะ 5555 พอลองออกเร็วก็ไม่ต่างกันค่ะ เจอพี่แกดักรอ
ตั้งแต่นั้น รุ่นพี่ที่มหาลัยเค้าก็เลยออกเช้าๆ อาสามารับเราที่หอก่อน จนกลับไทยค่ะ
//มีคนมองว่าเค้ามาจีบเราเปล่า อาจไม่ใช่โรคจิต ก็อาจจะเป็นอย่างนั้นนะคะ
แต่ยังไงช่วยออกมาคุยแบบปกติดีกว่าค่ะ ทำแบบนี้สาวๆกลัวหมดเน้อ
คนที่ 4 ขอแทนว่าพี่ B เป็นผู้ชาย Type 2 ค่ะ แต่คิดว่ามี Type 1 ผสมด้วย
พี่ B เป็นเจ้าของร้านกาแฟแถวบ้านค่ะ ซึ่งพี่แกก็แต่งงานแล้ว มีภรรยา แต่ยังไม่มีลูก
Timeline น่าจะอยู่ช่วงปี 4 – ทำงานที่แรก
คือ ตอนเข้าร้านครั้งแรก เราก็สั่งเครื่องดื่มมากินปกติ
ส่วนพี่แกก็มองเราละบอกว่า
“เราชื่ออะไรหรอ? ชอบมองเรานะ น่ารักดี มองแล้วสบายใจ”
เราก็ยิ้มๆเฉยๆ บอกชื่อไป คิดแค่ว่าเป็นการเรียกลูกค้าเท่านั้นค่ะ
แล้วร้านพี่ B นอกจากเป็นร้านกาแฟ ยังมีอาหารตามสั่งขายด้วยค่ะ
บ้านเราชอบไปกินบ่อยๆ และเหตุนี้แหละ ทำให้มีไลน์พี่ B เพราะแม่จะใช้เราให้สั่งอาหาร
ช่วงแรกๆ ก็มีแต่แบบเมื่อไหร่จะมาอีก น้อง Z น่ารักจัง อะไรงี้ค่ะ
จนกระทั่งวันหนึ่ง มีไลน์มาจากพี่ B
"ที่ร้านพี่มีกากกาแฟนะ อยากได้มั้ย? พี่ให้"
เราก็นึกขึ้นได้ว่า เออ คราวก่อน พี่ B ก็ให้กากกาแฟแม่มา เอามาให้แม่ก็ดี
"ก็ได้ค่ะ งั้นเดี๋ยววันนี้ Z ไปเอาที่ร้านพี่ละกันนะคะ"
แต่คำตอบที่ได้กลับมาคือ พี่แกจะไม่ให้เรามาเอาที่ร้าน แต่จะให้นัดเจอที่อื่น เปิดห้องผสมกากกาแฟ
และขัดผิวให้เราค่ะ!
เราคิดได้แค่ว่า ไอ่ Here 555555
พยายามเลี่ยงบอก ไม่สะดวกบ้าง แม่มารับบ้าง ไปเอาที่ร้านดีกว่า พี่แกก็ไม่ยอมค่ะ
บอก ไม่เป็นไร พี่รอได้ อยากเจอน้อง Z เราก็ไม่เคยไปตามนัดเลยค่ะ เพราะน่ากลัวจัด
แต่ยังคงไปกินร้านพี่ B พร้อมกับครอบครัวอยู่ ไม่ได้เล่าอะไรให้ให้แม่ฟัง
กลัวแม่วีนแตกค่ะ แม่ขี้ห่วง และหวงเรามาก ไม่อยากให้ท่านคิดมากด้วย
เราแค่กันตัวเองออกมาพอ พี่แกก็ทวงบ่อยค่ะ ทวงจนเรารำคาญ
เห็นเป็นพี่ เลยพยายามประนีประนอม
จนเราทนไม่ไหวบอกไปว่า
Z – พี่ทำอย่างนี้ ไม่กลัวเมียพี่เสียใจบ้างเหรอ?
B – พี่ล้อเล่นเอง
จบแค่นั้นค่ะ ไม่ชวนเราไปขัดผิวแล้ว 555555
แต่มี Behind the Scenes อีกนิดหน่อย
ตรงที่เราสังเกตว่าแม่ไม่ค่อยไปร้านนั้นช่วงหลังๆ นอกจากคิดไม่ออกว่าจะกินอะไรดี
จนช่วงจบมาแล้ว 3 ปี เรามีโอกาสได้เล่าให้แม่ฟังว่า เจออะไรมาบ้าง
พอมาเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง แม่บอกแม่ก็โดนเหมือนกันจากพี่ B แม่เลยไม่ค่อยไป
เราแบบ
โห ได้หมด ถ้าสดชื่นจริงๆ ไอ่พี่ B ปวดกบาล....
คนที่ 5 พี่ที่ทำงานที่แรกค่ะ ขอแทนว่าพี่ C อยู่ใน Type 2 คนนี้ไม่มีไรมาก ว่ากันไปตาม Type คือ ม่อ ค่ะ
มีเมีย มีลูกแล้ว แต่ทำตัวเป็นคนโสด มีคนบอกว่าพี่แกหน้าตาดีนะ มีสาวๆกรี๊ดเยอะ แต่หวยดันมาตกที่เราเฉย
ชอบมาเกาะแกะเรา ทำเป็นจะมากอด ไรงี้
ละพี่เค้าเป็นคนขับรถรถตู้ที่สำนักงาน เราต้องออกไปนอกสถานที่บ่อยๆ เค้าก็เป็นคนขับ
ส่วนมากจะไปเป็นกลุ่ม แต่บางทีเราโดนกลับมาคนเดียวบ้าง เลยอยู่กับพี่แก 2 คน
(เราไม่ค่อยกลัวว่าพี่จะออกนอกทาง เพราะในรถมี GPS ค่ะ)
พี่แกก็บอก
C – รักหนูนะ หนูรักพี่มั้ย?
Z – ไม่อ่ะ พี่มีเมียมีลูกแล้ว พี่ก็ไปบอกรักเมียรักลูกพี่สิ
C –ถ้าเรารักกันก็ไม่เห็นต้องคิดอะไรมาก
Z – (คิดสิ ไอ่......) ไม่เอาอ่ะค่ะ หนูไม่ชอบ
C – น่า หนูไม่รักพี่จริงๆหรอ @#C*+>)X&#$
เราก็แกล้งหลับค่ะ ไม่ฟัง ลำไย 555555
จนพี่ๆที่ทำงานเค้าสังเกตเห็นเค้าชอบมาเกาะแกะเรา
พี่เค้าก็บอกไปว่า
"ไอ่ C อย่าไปยุ่งกับน้อง Z นะ ไม่งั้นจะโดน"
คิดว่าฟังมั้ย? ไม่ฟังค่ะ
เราก็ทำเมินต่อไป เพราะเราไม่กล้าพูดอะไรมาก
-----------------------------------------------------------------------
จบไปแล้ว 5 คน กับความบรรลัยในชีวิต Z ซึ่ง 5 คนนี้ยังไม่สุดค่ะ มีสุดกว่านี้ 5555555
เดี๋ยว Z จะเล่าต่อไปเม้นถัดไปนะคะ