แม่เราเป็นคนเคยมีพอไม่มีแล้วเค้าไม่ปรับตัวหรือเรียกว่าจมไม่ลงนั่นเอง เพราะยังกินเหล้า กินเบียร์ สูบบุหรี่ เล่นหวย เล่นแชร์เหมือนเดิม พอไม่มีจ่ายก็ยืมคนไปเรื่อยจนมีหนี้มีสิน วนเวียนอยู่แบบนี้ แรงกดดันทุกสิ่งอย่างมาตกอยู่ที่เรา ก่อนอื่นต้องบอกว่าเราเคยแต่งงานแล้ว1ครั้ง เพื่อเอาค่าสินสอดมาให้แม่โดยที่เราไม่ได้อยากแต่งแต่งแต่ตัดสินใจเองเพราะที่บ้านกำลังแย่(ฝ่ายชายไม่รู้ว่าแต่งด้วยเหตุผลนี้) อยู่ได้3ปีเราก็เลิกเนื่องจากฝ่ายชายไม่ให้ทำงาน และเอาเงินให้แม่ได้ไม่มากพอระหว่างนี้แม่ขอเงินอยู่บ่อยๆพอไม่มีให้เราจะเป็นลูกเนรคุณทันที เราเลยออกมาทำงานให้แม่เต็มตัว จนเรามีครอบครัวใหม่มีลูก แม่ก็เรียกค่าสินสอดอีกจนเรารู้สึกว่าเราเป็นลูกเค้าหรือเราเป็นสินค้าถ้าเราแต่งงานใหม่แม่ก็คิดค่าตัวอีกแบบนี้ใช่ไหม เราน้อยใจมากๆเหมือนไม่มีความรักเลย เค้าจะทักมาหาเราเเต่ละทีไม่เคยถามสภาพความเป็นอยู่ มีแต่เรื่องเงิน ไม่มีให้ก็โดนด่า เราเคยปล่อยแบบไม่ให้เค้าเลยแต่เค้าก็เหมือนเดิมยังกล้าเสียเงินไปกับแอลกอฮอล์ หวย เรื่องไร้สาระเหมือนเดิม ทั้งๆที่เราก็คิดว่านี้คือจุดต่ำสุดของชีวิตเค้าแล้วนะทำไมเค้ายังไม่ปรับตัวอีก เราก็คุยเรื่องค่าสินสอดกับแฟนหลายทีมาก แม่ก็เรียกเยอะมากทั้งๆที่เราแต่งงานมาแล้วด้วย แฟนเราขอซื้อบ้านก่อนเพราะมีลูกแล้วต้องรีบมีบ้าน แม่ไม่สนใจอะไรเลยจะเอาตอนนี้เดี๋ยวนี้อย่างเดียว เค้าคงกำลังโดนทวงหนี้ ตอนนี้ลูกประมาณ6เดือนแล้ว แต่ค่าสินสอดยังไม่เคลียร์เพราะบ้านจะได้ในอีกไม่กี่เดือนนี้ แม่ก็เร่งมาตลอดจนทะเลาะกันอีกด่าเราบอกว่าเราเป็นลูกเนรคุณมั่ง เห็นแฟนดีกว่าแม่มั่ง ของฟรีมั่ง แต่เราว่าเราเป็นของฟรียังรู้สึกดีกว่ามีคนมาตีค่าตีราคาเรานะ ทุกครั้งที่แม่เรียกค่าสินสอดจากคนอื่นเราไม่เคยรู้สึกดีเลยแล้วไม่ได้เต็มใจด้วย เราก็รู้สึกผิดนะที่ตั้งแต่ท้องก็ไม่ได้ทำงานเลยไม่มีเงินให้เค้า ตอนนี้แม่ให้ไปเลิกกับแฟนแล้วออกมาทำงานหาเงินให้เค้าส่วนเค้าจะเลี้ยงลูกให้เอง คือถ้ามีแม่เราไม่มีสิทธิ์มีครอบครัวแล้วใช่มั้ยถ้ามีแฟนอีกก็จะเลิกด้วยเหตุผลเดิมๆแบบนี้อีกหรอ ลูกไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยเลย เราจะแก้ปัญหานี้ยังไงดี แก้ที่ตัวเค้าหรือแก้ที่ตัวเราด้วยวิธีไหนดี 😞
เงินเป็นเหตุ