ปัญหารอบบ้าน

มีใครจะเจอปัญหาเท่าบ้านเราอีกมั้ย บ้านเราเป็นบ้านปลูกเอง เป็นบ้านยกสูงแค่1.6เมตร ชั้นบนเป็นพื้นไม้ ผนังบ้านเป็นแผ่นยิปซั่ม ซึ่งแทบไม่กันเสียงและกลิ่นเลย ปัญหาคือเจอเพื่อนบ้าน3ด้าน เสียง กลิ่น มาครบ บ้านเราปลูกในรั้วเดียวกันกับญาติพี่น้อง แต่ญาติที่อยู่ติดบ้านเรามีปัญหาหมด อีกด้านติดกับหลังห้องเช่า 9 ห้อง ปัญหาตลอด 24 ชั่วโมง 

พอแม่ย้ายไปอยู่บ้านต่างจังหวัด เราอยู่บ้านที่เป็นปัญหา

ปัญหาบ้านด้านข้างซ้ายเป็นบ้านปูนชั้นเดียวยกสูง เวลาทำกับข้าวชอบเปิด พัดลมดูดอากาศแล้วกลิ่นและควันพุ่งมาห้องหน้าบ้านเราหมด เสียงดังไปทั้งบ้าน (บ้านนี้เจ้าของเป็นพี่ชายแม่แต่เสียชีวิตไปแล้ว เค้าทำรั้วเข้ามาในที่บ้านเราประมาณเกือบ2ฟุต และทำรั้วแบบยกสสูงด้านล่าง น้ำที่เค้าชะล้าง ไม่ว่าจะซักผ้า ทาสี ทุกอย่างไหลมาลงบ้านเราหมด แต่สร้างบ้านได้ไม่นานแกก็ล้มป่วยกระทันหันและเสียชีวิต) ทุกวันนี้ป้าสะใภ้อยู่เลยไม่รู้จะคุยหรือบอกกันยังไงดีเพราะตอนแม่เราอยู่เค้าจะไม่เปิดเครื่องดูดควัน เพราะแม่เราเคยต่อว่าไปแล้ว พอแม่ไปอยู่อีกบ้าน แกคงเห็นเราเป็นหลานเลยไม่สนใจ อึดอัดสุดๆ

บ้านเช่าหลังบ้านปัญหามีทุกวันเพราะบ้านเช่าเค้าปลูกห่างจากรั้วประมาณ 50 เซน ห้องนอนเราอยู่ช่วงนั้นพอดี ทุกวันคือ จุดเตาถ่าน เปิดทีวีดังๆ เปิดน้ำโดยไม่ใส่สายยางน้ำจะเสียงดังมาก  กลางคืนสะดุ้งตื่นตลอดเพราะเค้าเปิดน้ำอาบ ตั้งวงเหล้า ร้องคาราโอเกะ ตะโกนคุยกัน เพราะเสียงมันถ่ายเทมาที่บ้านเราหมด รั้วเค้าทำไว้แค่ประมาณ90เซนเอง บ้านเช่ากับบ้านเรามีปัญหากันบ่อยมาก จุดเตาถ่าน บ้านเราซักผ้า ผ้าเหม็นไปหมด ไหนจะควันเข้าบ้านอีก  บอกเจ้าของบ้านไปก็ทำไม่สนใจ พอบ่นมาก เค้าบอกถ้าบ้านเราทนไม่ไหวก็ย้ายออกไปสิ ทุกวันนี้ก็ยังทะเลาะกันเรื่อยมาเพราะคนที่มาอยู่ทุกคน เปิดเพลงดังมาก ทำกับข้าวนี่คือเหม็นมากต้มปลาร้างี้ ต้มหน่อไม้ คลุ้งบ้านไปหมด เราต้องย้ายไปนอนอีกห้องซึ่งปัญหาไม่จบเลย

ด้านขวาเป็นที่ดินเปล่าของน้องแม่ วันดีคืนดีอยากถมที่แต่เอารถบดดินมาวิ่งติดบ้านเราเลย ผลสุดท้าย ผนังบ้านเราฝั่งนั้น แยก แผ่นยิ่ปซั่มหลุด กระจกหน้าต่างแตก บันไดปูนร้าว บัวตรงฝ้าร่วงหลายแผ่น ทุกวันนี้ฝนตกน้ำซึมเข้าบ้านจนหลอนกลัวผนังพังมาก

ส่วนด้านหน้า น้าคนที่เป็นเจ้าของที่มาขอปลูกบ้านชั่วคราว(แต่อยู่มา15ปีแล้ว) ตอนมาอยู่ใหม่เมียท้อง พอคลอดลูกยังเล็กก็ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรแต่7ปีที่ผ่านมา เราเป็นโรคซึมเศร้า หวาดระแวงเพราะบ้านหลังนี้ เรียกได้ว่าแทบจะกลายเป็นคนโรคจิตไปเลย

น้าชอบเปิดเพลงเปิดแบบดังมากๆดังจนกระจกบ้านเราสะเทือน อย่าถามนะคะว่าดูหนัง หรือนอนยังไง ทำอะไรไม่ได้เลยเราได้แต่หงุดหงิดแล้วเดินไปนั่งอยู่ในห้องน้ำ เพราะได้ยินเสียงเบาที่สุด เราทนอยู่เป็นปี หลังๆไม่ไหว เค้านอนไม่หลับห้าทุ่มเที่ยงคืนก็เปิดเพลง ตื่นตี4ก็เปิดเพลงกลับมาจากวิ่งรถไม่ว่าจะกี่โมงก็เปิดเพลง ในหูเรามีแต่เสียงเบสตุ้บๆจนหลอน เราพยายามบอกแม่บอกคนนั้นคนนี้ ทุกคนก็บอกญาติกันใจเย็นๆ พอคนอื่นไปบอกเค้าบอกก็แค่ฟังแปบๆเอง ลำโพงที่เค้าฟังเพลงห่างจากห้องนอนเราแค่ 3 เมตรเองนะคะ 

พอเราเริ่มปิดประตูใส่เสียงดัง เค่าก็จะตะโกนลอยๆมา บ้าไปแล้วว และก็เข้าห้องนอน  พอเช้ามาเอาใหม่ เปลี่ยนเป็นวิทยุเครื่องเล็กลงแต่เปิดเสียงดังๆเท่าเดิม ค่ะ บ้านทั้งหลังเรามีแต่เสียงเพลง เหมือนเดิมคือเราดูทีวี หรือจะเดินหลบไปทางไหนก็มีแต่เสียงเพลง  พอเราเริ่มตอบโต้มากขึ้นเราเริ่มกลายเป็นคนขี้โวยวาย โมโห เราลงใส่แฟนทั้งหมด ได้ยินเสียงเพลงแล้วปวดหัวไปหมด

พอบ่นอีกให้เปิดเบาๆบ้างที่บ้านทำอะไรไม่ได้เลยจะนอนปิดหน้าต่างยังนอนไม่ได้เลย(บ้านเราไม่มีแอร์ก็ทนร้อนเอาเปิดหน้าต่างคือนรกของเสียง) เค้าเปลี่ยนค่ะ ไม่เปิดละวิทยุเครื่องเล็ก เปิดวิทยุพวกธานินอะไรนั่นเครื่องใหญ่ แต่เอามาเปิดริมรั้วติดกับห้องนอนเราแล้วเปิดเสียงดังๆแบบเดิม ตั้งแต่นั้นมาเราจะต้องเจอกับวิทยุที่เปิดติดหน้าต่างเลย กวาดใบไม้ตรงรั้วที่ติดกับก้องนอนและเสียงตะโกนทักบ้านอื่นที่ตะโกนตรงนี้ได้ยืนไปอีก3บ้าน 

เราเริ่มไม่ได้นอน เราต้องรอเค้าไม่อยู่บ้านเราถึงจะนอน แต่เมื่อไหร่เค้ากลับมาเราต้องหนีไปนั่งในห้องน้ำตลอด จนแฟนเรามาอยู่ด้วย ปัญหาก็ยังไม่จบ คราวนี้วิทยุธานินเพลงไม่ถูกใจ ก็เอาวิทยุกับลำโพงที่มีซับไปเปิดเยื้อง ห้องนอนเราไปนินนึงแต่ยังคงคอนเซปเดิมคือเปิดดังมาก และเปิดทิ้งทั้งวัน เราปิดห้องนอนร้อนมากหน้าต่างเปิดไม่ได้เลยจนแฟนเริ่มไม่ไหวและ เราก็พยายามห้ามไม่อยากมีปัญหาเพราะญาติพี่น้องกัน

จนความอดทนเราหมดลง หน้าฝนบ้านเค้าจะมีผ้าใบกันตรงเครื่องซักผ้า เมียน้ากลับมาจากทำงานตี2 ลากเก้าอี้เหล็ก  แปรงผ้า รวมทั้งดันน้ำบนผ้าใบ ตอนตี2 6โมงเช้า ยังไม่6โมงก็กวาดใบไม้ ทั้งคืนต้องทนฟังลูกมะม่วงร่วงใส่กระเบื้องปั้งๆตลอด แถมไก่ชนที่ลูกน้าเอามาเลี้ยงตีปีกขันตอน ตี2 ตี2.30 ตี3 บางวันตั้งแต่เที่ยงคืนยันเช้า ทุกกิจกรรมจะมีระยะห่างจากห้องเรา2-3เมตร มีวันนึงเราตะโกนใส่แล้วพูดว่า "อะไรกันหนักหนาวะเฮ้ย ไม่นึกถึงคนอื่นบ้างหรอ แมร่งต้องเอาทุกอย่างมาทำเช้า เช้ามืดแบบนี้ ตอนเย็นไม่ทำวะ หรือจะไม่เหลือชีวิตกลับมาทำตอนเย็นแล้วหรอ กูไม่ไหวแล้วนะ" พร้อมกับพุ่งตัวออกไปถึงหน้าบ้านน้า แต่น้าหนีเข้าบ้านปิดประตู เหตุการณ์ทั้งหมดเราทนมา6ปีจนทนไม่ไหว ไหนจะกลิ่นท่อ กลิ่นห้องน้ำอีก บ้านเราเลยกลายเป็นคนมีปัญหามากที่สุดเพราะทุกบ้านเป็นรุ่นพ่อแม่หมด มีแต่บ้านเราที่เราเป็นหลานและเราบอกปัญหานี้กับแม่ แม่ก็กลัวน้องจะโกธรเลยไม่กล้าว่า พอไปบ่นกับน้องอีกคนเค้าบอกมันเล่าให้ผมฟังแล้วมันแค่เปิดหลังกลับจากวิ่งงานแปบๆเอง บางทีมันแค่แหย่หลานเล่นเอง

จะย้ายไปอยู่บ้านแฟนก็อยู่ไกลที่ทำงานแฟนมาก เราเองก็ป่วยมีปัญหาเลยต้องอยู่แต่บ้าน  ทุกวันนี้เราหวาดระแวงมาก ลงไปข้างล่างเราต้องคอยมองและเสียงเพลงมาจากบ้านไหน ก่อนนอก็ต้องเปิดม่านดูว่าน้านอนรึยัง น้าไปวิ่งงานมั้ย เช้ามาเค้าจะเสียงดังอีกมั้ย จนแฟนต้องพยายามบอกให้พยายามนอนอย่าเครียดนัก ทนๆเอาถ้ามีเงินเดี๋ยวพาย้ายบ้าน แต่บ้านสมัยนี้ราคาไม่ใช่ถูกเลย  นี่แหละค่ะปัญหาบ้านเราที่ทุกวันนี้ยังเจอปัญหาเดิมซ้ำมีแค่น้าไม่เปิดเพลงแล้วแต่แกล้งอย่างอื่นยังมี 

เราหวาดระแวงทุกวัน ชีวิตไม่มีความสุขอีกเลยเหมือนคนโรคจิต อารมณ์รุนแรง จากไม่เคยพูดหยาบเรากลายเป็นคนด่ากราดเลย พยายาม บอกตัวเองใจเย็นๆนะ แต่พอเจอปัญหาแล้วหยุดไม่เคยได้ เวลาโมโหเราไม่สามารถลดอารมณ์ตัวเองได้เลยถ้าไม่ได้ปี๊ดๆใส่ใครสักคน คนๆนั้นคือแฟนเราเอง รับอารมณ์ทุกอย่าง พอเราอารมณ์เย็นลงเราจะหลับไปเองสักพักจะดีขึ้น 

เราเคยถามเพื่อนว่าที่เราทำมันผิดปกติจากคนทั่วไปมั้ย ถ้าคนอื่นเจอปัญหาแบบเราจะเป็นแบบเรามั้ย เพื่อนบอกเราว่า อยากให้เราอย่ามองว่าตัวเองผิดปกติ ถ้าเป็นคนอื่นเค้าก็หาวิธีจัดการปัญหานี้แล้ว แต่ติดตรงที่เราอยู่ในหมู่ญาติพี่น้องจะทำจะว่าอะไรก็ยาก เราเลยเครียดกว่าคนทั่วไป

ที่เล่าๆมาเราโดนน้าคนนี้แกล้งนี่แค่4ใน10นะคะที่เล่ามา ถ้าเล่าหมดคงต้องมีสัก10หน้ากระดาษ

อยากถามคนอื่นบ้างว่า เราผิดปกติจากคนทั่วไปมั้ยคะ เรามีแนวโน้มจะบ้ามั้ย เราไม่เคยไปหาหมอเพราะอ่านแล้วเค้ากินยาแล้วอาเจียนกัน  ส่วนเราอาเจียนไม่เป็นตั้งแต่เด็กแล้ว เพราะเราฝังใจว่าถ้าเราอาเจียนมันจะน่ารำคาญแล้ววุ่นวายยุ่งยาก เราเลยไม่เคยอาเจียนอีกเลยไม่ว่าจะป่วยหนักแค่ไหน เลยไม่กล้าไปหาหมอทานยา

ส่วนเรามีแต่คนบอกว่า อยู่บ้านเหมือนไม่มีคนอยู่ เพราะเราอยู่บ้านเงียบมาก เราไม่เข้าใจทำไมต้องเปิดทีวีดังๆ คุยเสียงดังๆ 
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่