การประกาศผลรางวัล NBA จะจัดขึ้นในอีก 1 เดือนข้างหน้าเเต่การประกาศรายชื่อผู้เล่นที่ติดทีม All-NBA จะมีขึ้นในอาทิตย์นี้ซึ่งผลที่ออกมาจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของนักบาสในสัญญาฉบับใหม่หลายๆ คนเเละมันจะกระทบกับเเคปของทีมต้นสังกัดของผู้เล่นเหล่านั้นด้วย

ตั้งเเต่ปี 2017 เป็นต้นมา ลีก NBA เเละสหภาพผู้เล่นได้บรรลุข้อตกลงสัญญา CBA (Collective Bargaining Agreement) ฉบับใหม่ทําให้ผู้เล่นระดับ veteran บางคนมีสิทธิ์ขอ supermax จากทีมต้นสังกัดในสัญญาฉบับใหม่ได้ถ้าผู้เล่นคนนั้นเข้าเกณฑ์ข้อใดข้อนึงใน 3 ข้อดังนี้

1. เคยได้รางวัล MVP 1 หนในสามฤดูกาลล่าสุดหรือ
2. เคยได้รางวัล Defensive Player of the Year หรือเคยติด All-NBA Team ติดกัน 2 ปีซ้อน (ก่อนปีล่าสุด) หรือ
3. เพิ่งได้รางวัล Defensive PLayer of the Year หรือติด All-NBA Team ในปีล่าสุด

ที่สําคัญคือ***ผู้เล่นคนนั้นต้องอยู่กับทีมที่ดราฟต์ตัวเองเข้าทีมมาหรืออยู่กับทีมที่ถูกเทรดในสัญญารุกกี้เท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์ขอ designated-player extension (DPE) หรือ supermax ได้***

ผู้เล่นที่อยู่ในลีกมา 7-9 ปีสามารถต่อสัญญาเเบบ supermax ได้สูงถึง 30% ของ salary cap
ส่วนผู้เล่นที่อยู่ในลีกมาเกิน 10 ปีสามารถเซ็น supermax ได้สูงถึง 35% ของ salary cap

เเต่รางวัล MVP กับ DPOY นี่มันได้กันเเค่ปีละคนเองดังนั้นวิธีที่จะขอ supermax ได้ง่ายกว่าวิธีอื่นคือการติดทีม All-NBA ที่มีรายชื่อผู้ชนะ 3 ชุด (ทีม 1-3) ปีนี้มีผู้เล่นดังๆ 7 คนที่จะหมดสัญญากับทีมต้นสังกัดที่ draft พวกเขาเข้าทีมมา ก็ลองมาดูกันว่ามีใครบ้างที่มีลุ้นได้ supermax

1. Klay Thompson (ทีม Warriors)
มีข่าวออกมาว่า Klay จะย้ายออกจากทีม Warriors ถ้าทีมไม่เสนอค่าเหนื่อยระดับ max 5 ปี/$190 ล้านให้เขาใน summer นี้

ทีม Warriors ยังถือว่าโชคดีที่ Klay ไม่น่ามีชื่อติดทีม All-NBA ในปีนี้ ไม่งั้นทีมต้องจ่าย supermax ให้เขาสูงถึง 5 ปี/$221 ล้าน ยิ่งถ้า KD ต่อสัญญากับทีมด้วยค่าเหนื่อยระดับ max อีกคน ทีมคงต้องเสียภาษีฟุ่มเฟือยอัตรา repeater rate เเบบอ่วมอรทัยยิ่งกว่านี้อีก